เขมรตีมึนเดินลาดตระเวนลํ้าฝั่งไทย หรือมีแผน? เมื่อเจรจาจนเมื่อยปาก เสียงปืนจะเป็นคำตอบสุดท้ายหรือเปล่า

กระทู้สนทนา
โกรธเมื่อชายแดนร้อนระอุ ดราม่าทหารไทยปะทะทหารเขมร กับการยั่วยุที่ไม่มีวันจบ
ลมร้อนแห่งชายแดนไทย-กัมพูชากลับมาพัดกระหน่ำอีกครั้ง คลิปวิดีโอล่าสุดที่ถูกปล่อยออกมาจากเพจกองทัพทหาร  ได้จุดไฟให้หัวใจคนไทยเดือดพล่าน เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การลาดตระเวนธรรมดา แต่เป็นการยั่วยุที่เหมือนจงใจท้าทายอธิปไตยของชาติไทยอย่างหน้าตาเฉย มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

madจุดเริ่มต้นของความตึงเครียด ทหารเขมร "ตีมึน" รุกล้ำแผ่นดินไทย
เรื่องราวเริ่มต้นจากคลิปที่ทหารไทยออกมาเผยแพร่ ภาพเหตุการณ์ที่ทหารไทยต้องเผชิญหน้ากับทหารกัมพูชา หลังจากที่ฝ่ายหลังพยายาม "ตีมึน" เดินลาดตระเวนข้ามเข้ามาในเขตแดนไทย ทหารกัมพูชาไม่ได้แค่เดินผิดที่ผิดทาง แต่ดูเหมือนจะตั้งใจรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ที่ชัดเจนว่าเป็นของไทย!

ในคลิป ทหารไทยที่กำลังลาดตระเวนอย่างสงบในเขตแดนของตัวเอง ต้องหยุดชะงักเมื่อพบว่าทหารกัมพูชาขึ้นมาดักรอบนเนินสูง ซึ่งตามหลักการลาดตระเวนร่วม ทุกฝ่ายควรยืนอยู่ในระนาบเดียวกัน ไม่ใช่ตั้งท่าตั้งแง่ยึดที่สูงเหมือนพร้อมสู้ ทหารไทยพยายามตักเตือนด้วยความอดทนขั้นสุดยอด แต่ฝ่ายเขมรกลับอ้างไปเรื่อย ว่าพวกเขามาอยู่ก่อนแล้ว โอ้โห คำแก้ตัวแบบนี้ใครจะเชื่อ มันเหมือนเด็กที่ถูกจับได้ว่าทำผิด แต่ยังหน้าด้านแถไปเรื่อย

สุดท้าย ด้วยความที่ทหารไทยเราเป็นสุภาพบุรุษ และไม่อยากให้สถานการณ์บานปลาย ทหารกัมพูชาต้องยอมถอยกลับไปโดยไม่มีเหตุปะทะเกิดขึ้น แต่... นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และดูท่าจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย

madฝั่งเขมรตีมึน แต่เพจดังเขมรมึนกว่า
ในขณะที่ทหารไทยจัดการสถานการณ์ด้วยความนิ่งและอดทน เพจ อังกอร์เฟซ ฝั่งกัมพูชากลับออกมาโพสต์คลิป พร้อมอ้างอย่างหน้าตายว่า "ทหารกัมพูชาป้องกันไม่ให้ทหารไทยขึ้นมา" อะไรกันเนี่ย?! ดูจากคลิปแล้ว มันชัดเจนว่าเป็นทหารเขมรต่างหากที่พยายามยึดที่สูงบนแผ่นดินไทย และทหารไทยกำลังไล่ให้พวกเขาลงไป นี่มันไม่ใช่แค่การเข้าใจผิด แต่เหมือนเป็นการตั้งใจบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อสร้างภาพให้ตัวเองดูดี

ชาวเน็ตไทยที่ได้เห็นคลิปนี้ถึงกับเดือด คอมเมนต์ในโซเชียลมีเดียระเบิดออกมาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ตีมึนเก่งนัก รุกล้ำเข้ามาแล้วยังกล้าอ้างว่าเป็นพื้นที่ของตัวเอง” บางคนถึงขั้นเรียกร้องให้ทหารไทยจัดการเด็ดขาด “เตือนไปกี่ครั้งแล้ว? ต้องยิงให้รู้เรื่องสักที” อารมณ์ของคนไทยในตอนนี้เหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะปะทุ

เพี้ยนไฟลุกทหารไทย หัวใจนักรบชุดดำที่อดทนเกินมนุษย์
ต้องยอมรับเลยว่าทหารไทย โดยเฉพาะ นักรบชุดดำ และ ทหารพราน ที่ยืนหยัดปกป้องชายแดน มีความอดทนที่เรียกได้ว่าเกินมนุษย์ ลองนึกดู ต้องเจอกับการยั่วยุแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า วันแล้ววันเล่า แต่ยังคงยึดมั่นในนโยบายที่ว่า “ห้ามยิงก่อนเด็ดขาด” แม้ว่าทหารกัมพูชาจะพยายามหาเรื่องทุกวิถีทาง ราวกับตั้งใจให้เกิดการปะทะเพื่อหาข้ออ้างไปฟ้องโลก

ในคลิป เราเห็นทหารไทยยืนเจรจาด้วยความนิ่ง แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะตีมึนและพูดจาไม่รู้เรื่อง นักรบชุดดำของเรายังคงยืนหยัดอย่างมีวินัย ถึงขนาดมีคอมเมนต์จากชาวเน็ตว่า “นับถือหัวใจทหารไทยจริงๆ ถ้าเป็นคนทั่วไปคงอดทนขนาดนี้ไม่ได้” แต่ในความนิ่งนั้น อย่าลืมว่าเหล่านักรบของเราก็พร้อมบวก มีการสังเกตว่า ทหารไทยส่วนใหญ่ยืนหลบหลังต้นไม้และก้อนหิน พร้อมอาวุธครบมือ แสดงให้เห็นถึงความพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ แม้จะหวังให้ทุกอย่างจบลงด้วยสันติวิธีก็ตาม

อย่าเยอะเขมรยั่วยุไม่เลิก กลยุทธ์หรือความโง่เขลา
ถ้าจะถามว่าทำไมทหารกัมพูชาถึงกล้าทำแบบนี้ซ้ำๆ คำตอบอาจมีสองทาง
mad หนึ่งคือ พวกเขาอาจได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ยั่วยุเพื่อหวังผลทางการเมือง หรือ
madสองคือ พวกเขาแค่ “โง่ไม่รู้เขตแดน” อย่างที่ชาวเน็ตบางคนคอมเมนต์ว่า “ไม่มีเข็มทิศหรือไง เดินหลงเข้ามาในเขตไทยแล้วยังกล้าเถียง”

แต่ถ้าจะให้เดา ดูเหมือนว่าการยั่วยุนี้จะเป็นกลยุทธ์มากกว่า เพราะมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าทหารไทยยิงก่อน ฝ่ายกัมพูชาอาจใช้โอกาสนี้ไปฟ้องชาวโลกว่า “ไทยรังแก” เพื่อเรียกคะแนนสงสารจากนานาชาติ เหมือนที่เคยเกิดกรณีปราสาทเขาพระวิหารมาแล้ว และที่สำคัญ การที่ทหารกัมพูชาขึ้นมายึดที่สูงและพยายามตั้งท่ารอทหารไทย ดูเหมือนเป็นการจงใจหาเรื่องมากกว่าการหลงทางโดยบริสุทธิ์ใจ

ออกทะเลเสียงจากใจคนไทย “ถึงเวลาเด็ดขาดได้แล้ว”เพี้ยนลุย
กระแสในโซเชียลมีเดียตอนนี้ร้อนแรงไม่แพ้ชายแดน ชาวเน็ตไทยต่างออกมาแสดงความเห็นในหลากหลายอารมณ์ ตั้งแต่ให้กำลังใจทหารไทย “ขอให้ทหารทุกนายปลอดภัย คุณพระคุ้มครอง” ไปจนถึงความหงุดหงิดที่อยากให้จัดการขั้นเด็ดขาด “เตือนกี่ครั้งแล้ว? ต้องยิงให้รู้เรื่องสักที” บางคนถึงขั้นเสนอให้สร้างกำแพงกั้นชายแดนไปเลย เพื่อป้องกันการรุกล้ำแบบนี้ในอนาคต “สร้างกำแพงเถอะ ไม่งั้นมันก็จะเข้ามาเรื่อยๆ”

และที่พีคสุดคือคอมเมนต์ที่บอกว่า “เขมรเรียนวันละ 2 ชั่วโมง คุยไม่รู้เรื่อง” ซึ่งกลายเป็นมุกฮิตที่สะท้อนความรู้สึกของคนไทยที่เริ่มจะหมดความอดทนกับพฤติกรรมของเพื่อนบ้านชาตินี้ นอกจากนี้ ยังมีการตั้งคำถามถึงผู้นำของทั้งสองฝ่ายว่า ทำไมไม่มีการตกลงเรื่องเขตแดนให้ชัดเจนเสียที? หรือนี่คือเกมการเมืองที่ปล่อยให้ทหารชั้นผู้น้อยต้องแบกรับความกดดัน

อมยิ้ม30ทางออกของปัญหา สร้างกำแพงหรือใช้กำลัง
จากเหตุการณ์นี้ คำถามที่ผุดขึ้นในใจคนไทยคือ เราจะปล่อยให้สถานการณ์แบบนี้เกิดซ้ำไปซ้ำมาอีกนานแค่ไหน ชาวเน็ตบางส่วนเสนอให้สร้างกำแพงกั้นชายแดนเพื่อตัดปัญหาการรุกล้ำ บางคนถึงขั้นบอกว่า “ถ้าคุยแบบสุภาพบุรุษไม่ได้ ก็ต้องคุยแบบโจร” ขณะที่บางคนแนะให้ติดกล้องบันทึกเหตุการณ์แบบที่ตำรวจใช้ เพื่อเก็บหลักฐานให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะตอนนี้ทหารไทยต้องใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิป ซึ่งอาจไม่สะดวกในสถานการณ์ฉุกเฉิน

แต่ที่แน่ๆ ความรู้สึกของคนไทยตอนนี้คือ “เหนื่อยใจ” กับการยั่วยุที่ไม่รู้จบของเพื่อนบ้านชาตินี้ และหลายคนเริ่มเรียกร้องให้รัฐบาลและกองทัพแสดงความเด็ดขาดมากกว่านี้ ไม่ว่าจะด้วยการประท้วงอย่างเป็นทางการ หรือการใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้น เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ

เซ็งทำไมต้องกำแพง ความเหนื่อยหน่ายที่ถึงจุดแตก
ลองนึกภาพทหารไทยที่ต้องวิ่งไล่ทหารกัมพูชาลงจากเนินเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนเล่นเกมแมวไล่จับหนูที่ไม่มีวันจบ การรุกล้ำซ้ำซาก การตีมึน และการยั่วยุที่เหมือนจงใจหาเรื่อง ทำให้คนไทยหลายคนเริ่มหมดความอดทน ชาวเน็ตถึงขั้นร้องว่า “สร้างกำแพงไปเลยจะได้จบๆ!” เพราะกำแพงดูเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของความเด็ดขาด เป็นเหมือนการตีเส้นเขตแดนให้ชัดเจนว่า “นี่คือแผ่นดินไทย อย่าข้ามมา”

กำแพงชายแดนไม่ใช่แค่โครงสร้างกายภาพ แต่ยังเป็นเหมือนการส่งสารไปยังเพื่อนบ้านว่า เราเอาจริง มันคือการปกป้องอธิปไตยของชาติในแบบที่มองเห็นได้ชัดเจน และอาจช่วยลดแรงกดดันให้ทหารชายแดนที่ต้องคอยเผชิญหน้ากับสถานการณ์ตึงเครียดทุกวัน

ไม่เป็นไรกำแพงคือคำตอบ แต่จริงๆเป็นแค่ความฝันของคนไทยที่ทนไม่ไหวเท่านั้น
การสร้างกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชาอาจฟังดูเป็นทางออกที่สะใจ และตอบโจทย์ความหงุดหงิดของคนไทยที่เบื่อหน่ายกับการยั่วยุซ้ำซาก แต่ในความเป็นจริง มันมาพร้อมกับความท้าทายทั้งด้านงบประมาณ ภูมิประเทศ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สิ่งที่สำคัญกว่ากำแพงอาจเป็นการบริหารจัดการชายแดนที่ชาญฉลาด ทั้งการใช้เทคโนโลยี การเจรจาทางการทูต และการแสดงจุดยืนที่แข็งแกร่งของชาติ

มึนตึ๊บจะสร้างกำแพงได้ไง ในเมื่อจริงๆแล้วจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายเกิดจาก การถือแผนที่ไม่ตรงกัน
ถ้าจะพูดถึงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คงหนีไม่พ้นเรื่อง แผนที่ที่ไม่ตรงกัน ซึ่งเป็นรากเหง้าของความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานหลายทศวรรษ โดยเฉพาะกรณีปราสาทเขาพระวิหารที่เคยเป็นชนวนให้ทั้งสองชาติเกือบถึงขั้นทำสงคราม ฝั่งไทยยึดถือแผนที่ที่อิงตามสนธิสัญญาและข้อตกลงในอดีต ซึ่งกำหนดเส้นเขตแดนตามสันปันน้ำและจุดอ้างอิงทางภูมิศาสตร์ ขณะที่ฝั่งกัมพูชามักอ้างแผนที่ที่วาดขึ้นโดยฝรั่งเศสในสมัยอาณานิคม ซึ่งมีเส้นเขตแดนที่แตกต่างออกไป โดยเฉพาะในพื้นที่ทับซ้อนอย่างบริเวณรอบปราสาทเขาพระวิหารและจุดอื่นๆ ตามแนวชายแดน







ผลลัพธ์ ความคลุมเครือที่ทำให้ทหารกัมพูชา “ตีมึน” อ้างว่าเดินอยู่ในเขตของตัวเอง ขณะที่ทหารไทยยืนยันว่า “นี่คือแผ่นดินไทย” ชาวเน็ตถึงขั้นคอมเมนต์ด้วยความเดือดว่า “เขมรเอาแผนที่อะไรมาอ้าง ไปวาดเองรึเปล่า” ดราม่านี้ไม่ใช่แค่เรื่องของเส้นบนกระดาษ แต่มันคือการต่อสู้เพื่ออธิปไตยที่กระทบใจคนไทยทุกคน

เพี้ยนเหรอทำไมแผนที่ถึงไม่ตรงกัน ย้อนรอยประวัติศาสตร์
มรดกจากยุคอาณานิคม
ในช่วงที่กัมพูชาเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส (ราวศตวรรษที่ 19-20) ฝรั่งเศสได้จัดทำแผนที่เพื่อกำหนดเขตแดนของดินแดนในอินโดจีน ซึ่งรวมถึงกัมพูชา แผนที่เหล่านี้บางฉบับวาดโดยไม่ได้สำรวจพื้นที่จริงอย่างละเอียด และมักใช้สันปันน้ำเป็นเกณฑ์ แต่ในบางจุด เช่น บริเวณปราสาทเขาพระวิหาร เส้นเขตแดนในแผนที่ฝรั่งเศสกลับขัดแย้งกับข้อตกลงที่ไทยยึดถือ

สนธิสัญญาและข้อตกลงที่ตีความต่างกัน
ไทยและฝรั่งเศส (ในฐานะตัวแทนกัมพูชา) เคยทำสนธิสัญญากันในปี 1904 และ 1907 เพื่อกำหนดเขตแดน แต่เมื่อกัมพูชาได้รับเอกราช แผนที่ที่ฝรั่งเศสทิ้งไว้กลายเป็นที่มาของข้อพิพาท โดยเฉพาะเมื่อกัมพูชานำแผนที่เหล่านี้ไปใช้ในการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนบางส่วน รวมถึงพื้นที่รอบปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งศาลโลกตัดสินในปี 1962 ว่าเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา แต่พื้นที่โดยรอบยังคงเป็นที่ถกเถียงจนถึงทุกวันนี้

ความจงใจหรือความเข้าใจผิด?
ชาวเน็ตบางคนตั้งคำถามว่า “เขมรจงใจใช้แผนที่ผิดๆ เพื่อรุกล้ำ หรือแค่โง่ไม่รู้จริงๆ” คำตอบอาจอยู่ตรงกลาง  ฝั่งกัมพูชาอาจใช้แผนที่เก่าเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ขณะที่บางครั้งทหารชั้นผู้น้อยอาจไม่เข้าใจเขตแดนที่แท้จริง เพราะขาดการสำรวจร่วมกันอย่างชัดเจน

เซ็งผลกระทบของแผนที่คนละฉบับ ดราม่าชายแดนที่ไม่จบง่าย
การรุกล้ำซ้ำซาก
เหตุการณ์ในคลิปล่าสุดที่ทหารกัมพูชา “ตีมึน” เดินลาดตระเวนในเขตไทย เป็นตัวอย่างชัดเจนของความขัดแย้งจากแผนที่ เมื่อทั้งสองฝ่ายเชื่อว่าเขตแดนที่ตัวเองยึดอยู่นั้นถูกต้อง การเผชิญหน้าก็เกิดขึ้นซ้ำๆ ชาวเน็ตถึงขั้นแซวว่า “เขมรคงคิดว่าแผนที่ของตัวเองคือ Google Maps ส่วนตัว” ความไม่ลงรอยเรื่องแผนที่ไม่ใช่แค่เรื่องของทหารชายแดน แต่มันอาจกลายเป็นชนวนความขัดแย้งระดับชาติได้ ถ้าทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ และเกิดการปะทะจากความเข้าใจผิด อาจนำไปสู่สงครามย่อยๆ อย่างที่ชาวเน็ตบางคนเตือนว่า “ถ้ากระสุนลั่น อาจไม่ใช่แค่เรื่องเล็กๆ อีกต่อไป”




นานาเชียร์อัพส่งใจถึงนักรบชายแดน คุณคือความหวังของชาติ
ท่ามกลางความตึงเครียดและดราม่าที่เกิดขึ้น สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือหัวใจของทหารไทยที่แข็งแกร่งและอดทน พวกเขาคือแนวหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทย ต้องเผชิญหน้ากับการยั่วยุและความกดดัน แต่ยังคงยึดมั่นในวินัยและความสงบ เพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลามจนกลายเป็นความขัดแย้งใหญ่โต
ถึงทหารหาญทุกนาย... คนไทยทั้งชาติขอเป็นกำลังใจให้ ขอให้คุณปลอดภัย และขอให้ผืนแผ่นดินไทยยังคงเป็นของเราตลอดไป ต่อให้ต้องเจอกับความท้าทายแค่ไหน เราก็เชื่อมั่นในหัวใจนักรบของพวกคุณ

พาพันโกรธนะบทสรุปชายแดนนี้ยังไม่สงบ ... อีกยาวววว
เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการลาดตระเวนที่ผิดพลาด แต่เป็นเหมือนหยดน้ำที่กำลังล้นแก้ว ความอดทนของคนไทยเริ่มถึงขีดสุด และถ้าเพื่อนบ้านยังคง “ตีมึน” และยั่วยุไม่เลิก วันหนึ่งอาจถึงจุดที่ไม่มีใครยอมถอยอีกต่อไป สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือส่งกำลังใจให้ทหารไทย และหวังว่ารัฐบาลจะหาทางออกที่เด็ดขาด เพื่อปกป้องผืนดินของเราให้มั่นคง

คุณคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้? ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ไทยต้องจัดการขั้นเด็ดขาด หรือเราควรอดทนต่อไปเพื่อสันติภาพ แชร์ความคิดของคุณมาได้เลย

















แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่