“ชูวิทย์” เปิดทฤษฎีแผนสมรู้ร่วมคิด “ฮุนเซน” ชี้เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ปฐมเหตุศึก “ตระกูลฮุน – ชินวัตร”
.
.
วันที่ 27 มิ.ย.68 นาย
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พลพรรครักประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊ก “แผนสมรู้ร่วมคิดของฮุนเซน” ภายหลัง สมเด็จฮุน เซน ออกมาเปิดโปงแผนลับของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ข้อความระบุว่า
“แผนสมรู้ร่วมคิดของ “ฮุนเซน” ประชาชนคนไทยลองตรองดูว่ามันมีอะไร ทะ
ๆ ภายใต้การเปิดศึกระหว่าง ตระกูลฮุน กับ ตระกูลชินวัตร
เคยมาเยี่ยมกันตอนป่วยถึงชั้น 14 ใส่ปลอกคอ ห้อยแขน ร่วมเฟรมถ่ายรูป ไฉนมาแฉกันว่า “แกล้งป่วย” ล่ะเพื่อนฮุน? อะไรเป็น “ผลประโยชน์” ที่ขัดกันในทฤษฎี “แผนสมรู้ร่วมคิด” ของผม
ทักษิณต้องการทำ “Entertainment Complex” พรรคเพื่อไทยเดินหน้าพาเหรดโปรโมทว่าดีต่อประเทศไทยเหลือหลายสารพันอย่าง ทั้งต่อยอดเพิ่มรายได้มากมายให้ประเทศ สร้างงานให้ประชาชน เสมือนหนึ่งยาวิเศษที่จะอัดฉีดพลิกประเทศไทยให้กลับมาเฟื่องฟูสว่างไสวสถาพร
ลิ่วล้อพูดเป็นเน็ตค้างจอ ไม่มีแตกแถว แนวเดียวกันหมด “ถูกครับท่าน ดีครับผม เหมาะสมครับนาย”
แต่แท้จริงแล้ว หาก Entertainment Complex เกิดขึ้นในไทย ประเทศที่เสียหายมากสุดจะเป็นใครอื่นไม่ได้ นอกเสียจาก “เขมร” ของตระกูลฮุน ประเทศเพื่อนบ้านที่มีสารพัด “คาสิโน” เต็มทุกหัวถนน ทุกหัวเมือง ตั้งแต่ปอยเปต ไปยันสีหนุวิลล์
ความเสียหายชนิดล้มละลายของบรรดาบ่อนการพนันทั้งออนไซต์ ออนไลน์ ต่างๆ รอบชายแดน เป็นโดมิโนไปถึงบ่อนในเมือง กระทบต่อตระกูลฮุนอย่างจังเบอร์
แล้วแปลกแต่จริง จู่ๆ เกิดพรรคที่มี “คุณธรรม” ผุดขึ้นมากะทันหัน ต่อต้าน Entertainment Complex แบบหัวชนกำแพง คือ พรรคภูมิใจไทย ออกอาการไม่เห็นด้วยตั้งแต่ไก่โห่
จะแค้นเก่าแค้นใหม่ไม่รู้ แต่คนรู้ว่านี่คือ “ปฐมเหตุของการขัดแข้งขัดขากันเอง” แลกดีล “ฮั้ว ส.ว.” ไม่สุด ขอกันดีๆ ไม่ให้ เพราะต่างคนต่างไม่ไว้ใจกัน ต้องเล่นเกม “หักด้ามพร้าด้วยเข่า” ถูกถีบไปเป็น “ฝ่ายค้าน” สานแค้นเก่า “มันจบแล้วครับเน”
ฝ่าย “ฮุนเซน” ก็เปิดคลิปเสียง “นายกฯ น้อย” ล่อเป้า และตามแฉชนิด “ผีไม่เผา ขี้เถ้าไม่เหยียบ” ตอกย้ำซ้ำอีกว่า “ประเทศไทยจะมีนายกฯ คนใหม่ใน 3 เดือน” พร้อมเอ่ยชื่ออนุทินที่กระเด็นไปตบยุง ร้องจะอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่ยังไม่ออกโผรัฐมนตรีกันเลย
แผนอย่างนี้ต้องระดับเซียนถึงอ่านออก “ตำราพิชัยสงคราม” ต้องพลิกไปที่บทสุดท้าย เมื่อผลประโยชน์ขัดกันก็ต้องบรรลัย นักการเมืองเขมรกับนักการเมืองไทย พับผ่าสิ! เหมือนคลอดเป็นฝาแฝดคลานตามกันมา
มนต์เขมรของดูจะแรง เรื่องความปลิ้นปล้อน นักการเมืองไทยไม่ได้กินเขมรหรอก ผลประโยชน์ระดับแสนล้านของคาสิโน กับดีลเดิมพันถล่มทักษิณ
เที่ยวที่แล้วความแค้นยังไม่จางหาย ยิ่งแก่ยิ่งจำแม่น “ครูใหญ่” หรือจะสู้ “นายใหญ่” ฮุนเซน เข้าข้างใคร? โถ… ดูเอาแล้วกันว่า ใครพูดเขมรคล่องกว่า”
.
https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/posts/pfbid02pSv5VHhoj6CXtYgFpKC4saK4aPPhyFXGxY85Xv8iUDnKTicLkSfPCueFje9nUXUQl
.
.
ตร.ไซเบอร์ ชี้ ฮุนเซน ปล่อยเฟกนิวส์ ไทยเป็นแหล่งสแกมเซ็นเตอร์ ย้อนแย้งสถิติโลก 80% อยู่ที่เขมร
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9824391
.
ตร.ไซเบอร์ ชี้ ฮุนเซน ปล่อยเฟกนิวส์ ไทยเป็นแหล่งสแกมเซ็นเตอร์ ย้อนแย้งสถิติโลก 80% อยู่ที่เขมร แจงยังไม่มีข้อมูล 7 นักการเมือง ใกล้ชิดรัฐบาลเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์
.
วันที่ 26 มิ.ย.2568 พล.ต.ท.
ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน โพสข้อความระบุว่า มี 7 นักการเมืองใกล้ชิดรัฐบาลไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ การฟอกเงินในประเทศกัมพูชา ว่า ในกรณีดังกล่าว หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ มีหลักฐานที่ชัดเจนทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง
.
ซึ่งการที่เจ้าหน้าที่จะมีข้อมูลในส่วนตรงนี้ แบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. รู้จากการสืบสวนสอบสวนหรือได้ข้อมูลจากสายข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามหรือออกนาม 2. การที่มีหลักฐานที่นำเข้าไปประกอบในสำนวนก่อนส่งอัยการนั้น จะต้องมีหลักฐานที่มีข้อเท็จจริง
.
ดังนั้นรายชื่อที่นาย
วิโรจน์ พูดว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์รู้แล้วว่าเป็นใคร แต่ก็ยังไม่ทราบว่าพูดถึงบุคคลใด และไม่รู้ว่ามีนักการเมืองท่านใดเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ที่ผ่านมา ก็มีคดี สจ.
กอล์ฟมีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ที่อยู่ประเทศกัมพูชา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เองก็ต้องมีข้อมูลอยู่แล้ว เพราะเป็นคนดำเนินคดี
.
เมื่อถามว่าส่วนกรณีที่
ฮุนเซน เผยว่าประเทศไทยเป็นแหล่งสแกมเซ็นเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในการสร้างปัญหา พล.ต.ท.
ไตรรงค์ กล่าวว่า จากสถิติของสากลโลก ตรงกับข้อมูลสถิติของประเทศว่า แหล่งสแกมเซ็นเตอร์ 80% อยู่ที่ประเทศกัมพูชา และอีก 20% อยู่ประเทศเมียนมา รวมไปถึงสถิติการร้องเรียนที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งการที่ฮุนเซนออกมาเพยแพร่แบบนี้ จะต้องเข้าไปดูว่าเราก็สามารถดำเนินคดีอะไรได้บ้าง เนื่องจากเป็นกล่าวหาและให้ข้อมูลเท็จผ่านทางโซเชียล
.
ส่วนมาตรการที่ทางรัฐบาลไทยได้ดำเนินการในทุกวิถีทางตัดไฟ เน็ต น้ำมัน นั้น ทำให้แก๊ง Call Center ได้รับผลกระทบประมาณ 30% นั้น ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปรับวิธีการถ่ายโอนเงินจากระบบออนไลน์กลับมาใช้รูปแบบเดิม
.
โดยใช้บัญชีม้ากดเงินในประเทศไทยก่อนนำส่งไปยังคนกลางและส่งไปให้ตัวการใหญ่ของแก๊งจีนเทา เนื่องจากมาตรการของไทยที่ปรับมารับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้นสร้างความลำบากให้กับพวกนี้เป็นอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงมาตราการในครั้งนี้ เห็นผลได้อย่างชัดเจน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมขบวนการเหล่านี้ได้มากขึ้น ทำให้สามารถนำทรัพย์สินกลับมาคืนสู่ประชาชนได้ไม่มากก็น้อย
.
เมื่อถามว่ากรณีตึก 18 ชั้น และ 25 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชานั้น พล.ต.ท.
ไตรรงค์ กล่าวว่า ตอนนี้มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งทางตำรวจไซเบอร์ได้พยายามรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมดเท่าที่ทำได้ และบูรณาการร่วมกับจเรตำรวจแห่งชาติ ในการกำชับให้ตำรวจในพื้นที่ ช่วยเป็นหูเป็นตา จนรู้ว่าแรงสแกมเซ็นเตอร์มียู่รอบประเทศเราและอยู่ตรงไหนบ้าง ตำรวจไฟเบอร์ก็พยายามเจาะข้อมูลต่างๆเพื่อสืบทราบหาบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมไปถึงทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
.
.
ร้านอาหารร้องระงม กำลังซื้อเงียบมาก ฝากการบ้านรมว.พาณิชย์คนใหม่ ดูแลศก.ปากท้อง ต้นทุนวัตถุดิบ
.
ร้านอาหารร้องระงม กำลังซื้อเงียบมาก ฝากการบ้านรมว.พาณิชย์คนใหม่ ดูแลศก.ปากท้อง ต้นทุนวัตถุดิบ
.
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลมีนโยบายเที่ยวไทยคนละครึ่งนับเป็นเรื่องดี เพราะจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในต่างจังหวัดให้มีความคึกคักได้และเป็นนโยบายที่ทุกคนก็รอคอย แม้ว่าธุรกิจร้านอาหารอาจจะไม่ได้เข้าร่วมโครงการมากนัก เนื่องจากกังวลว่ากติกาจะยุ่งยากและใช้เวลานานเหมือนก่อนหน้านี้ที่ใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะได้เงิน
.
นางฐนิวรรณกล่าวว่า สำหรับข้อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เข้าใจว่าการเมืองและปัญหาชายแดน เป็นเรื่องสำคัญในการรักษาอธิปไตยที่ต้องปกป้อง แต่ในขณะเดียวกันเรื่องปากท้องยังไม่มีกลไกจากฝ่ายข้าราชการและฝ่ายการเมืองเข้ามาช่วยอย่างจริงจัง สะท้อนจากผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศที่ร้องระงมว่ากำลังซื้อเงียบมาก โดยเฉพาะต่างจังหวัด เป็นผลจากคนไม่มีรายได้ ทำให้ประหยัดการใช้จ่าย กระทบกำลังซื้อหายไปมากกว่า 40-50%
.
“อยากฝากถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ ให้ช่วยดูแลเรื่องต้นทุนวัตถุดิบของผู้ประกอบการร้านอาหารที่กระทรวงพาณิชย์สามารถดูแลได้ เช่น ราคาหมู ผักสดต่างๆ เป็นต้น รวมถึงฝากถึงรัฐบาลใหม่เมื่อเข้ามาบริหารประเทศแล้ว ขอให้เร่งงบประมาณปี 2569 เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายงบต่อเนื่อง ไม่สะดุดหรือล่าช้าเหมือนก่อนหน้านี้ เพราะงบประมาณถือเป็นกลไกสำคัญกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงนี้ ขณะที่ภาคเอกชนเองก็คงต้องช่วยตัวเองด้วยเหมือนกัน เพื่อให้ผ่านจุดวิกฤตนี้ไปให้ได้” นางฐนิวรรณกล่าว
.
กัมพูชา 700 ชีวิตเลือกทำงานชัยนาท ไม่กลับบ้าน กลัวไม่มีงานทำ ชี้อยู่ไทยได้ค่าแรงเยอะกว่า
https://www.matichon.co.th/region/news_5249826
.
แรงงานกัมพูชา 700 คนในชัยนาท ยังสมัครใจอยู่ครบ ไม่ขอกลับประเทศแม้แต่คนเดียว
.
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน จากปัญหาความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้ชาวกัมพูชาจำนวนมากเดินทางกลับประเทศ เพราะกังวลว่าหากเกิดการสู้รบจะไม่สามารถกลับบ้านเกิดได้ จนมีแรงงานชาวกัมพูชาติดค้างเพื่อรอข้ามแดนตามด่านต่างๆ นั้น
.
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดชัยนาท สอบถามผลกระทบจากกรณีดังกล่าว ได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ว่า ในพื้นที่ชัยนาทมีแรงงานสัญชาติกัมพูชาที่นายจ้างชาวไทยพามาขึ้นทะเบียนทำงานรวม 700 คน เป็นแรงงานในภาคอุตสาหกรรมคืองานก่อสร้าง งานโรงงาน และงานใช้แรงงานต่างๆ เกือบทั้งหมด
.
เจ้าหน้าที่เผยว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์ชายแดนขึ้น มีแรงงานบางส่วนที่เข้ามาขอคำแนะนำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ให้ข้อมูลไป โดยผู้ที่ใบอนุญาตยังไม่หมดอายุยังสามารถทำงานต่อได้ตามกำหนดเวลา และถ้ารายใดต้องการต่ออายุใบอนุญาตก็ทำได้ปกติ ไม่มีการผลักดันออกนอกประเทศตามที่แรงงานบางส่วนกังวล เพราะได้รับข้อมูลที่ผิดๆ มาจากข่าวลือในกลุ่มแรงงานด้วยกัน
.
เจ้าหน้าที่ระบุว่า จนถึงวันนี้แรงงานสัญชาติกัมพูชาใน จ.ชัยนาท ยังไม่มีรายใดขอกลับประเทศแม้แต่รายเดียว ยังสมัครใจทำงานในประเทศไทย ด้วยเหตุผลค่าเรื่องค่าแรงที่สูงกว่า และถ้ากลับประเทศไปก็ไม่มีใครรับรองได้ว่าจะมีงานให้ทำ การทำงานต่อในประเทศไทยจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
JJNY : 5in1 “ชูวิทย์”เปิดทฤษฎี│ชี้ฮุนเซนปล่อยเฟกนิวส์│ร้านอาหารร้องระงม│กัมพูชา 700ชีวิตเลือกทำงานชัยนาท│ฮุน เซนเตือนไทย
วันที่ 27 มิ.ย.68 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พลพรรครักประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊ก “แผนสมรู้ร่วมคิดของฮุนเซน” ภายหลัง สมเด็จฮุน เซน ออกมาเปิดโปงแผนลับของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ข้อความระบุว่า
“แผนสมรู้ร่วมคิดของ “ฮุนเซน” ประชาชนคนไทยลองตรองดูว่ามันมีอะไร ทะ
เคยมาเยี่ยมกันตอนป่วยถึงชั้น 14 ใส่ปลอกคอ ห้อยแขน ร่วมเฟรมถ่ายรูป ไฉนมาแฉกันว่า “แกล้งป่วย” ล่ะเพื่อนฮุน? อะไรเป็น “ผลประโยชน์” ที่ขัดกันในทฤษฎี “แผนสมรู้ร่วมคิด” ของผม
ทักษิณต้องการทำ “Entertainment Complex” พรรคเพื่อไทยเดินหน้าพาเหรดโปรโมทว่าดีต่อประเทศไทยเหลือหลายสารพันอย่าง ทั้งต่อยอดเพิ่มรายได้มากมายให้ประเทศ สร้างงานให้ประชาชน เสมือนหนึ่งยาวิเศษที่จะอัดฉีดพลิกประเทศไทยให้กลับมาเฟื่องฟูสว่างไสวสถาพร
ลิ่วล้อพูดเป็นเน็ตค้างจอ ไม่มีแตกแถว แนวเดียวกันหมด “ถูกครับท่าน ดีครับผม เหมาะสมครับนาย”
แต่แท้จริงแล้ว หาก Entertainment Complex เกิดขึ้นในไทย ประเทศที่เสียหายมากสุดจะเป็นใครอื่นไม่ได้ นอกเสียจาก “เขมร” ของตระกูลฮุน ประเทศเพื่อนบ้านที่มีสารพัด “คาสิโน” เต็มทุกหัวถนน ทุกหัวเมือง ตั้งแต่ปอยเปต ไปยันสีหนุวิลล์
ความเสียหายชนิดล้มละลายของบรรดาบ่อนการพนันทั้งออนไซต์ ออนไลน์ ต่างๆ รอบชายแดน เป็นโดมิโนไปถึงบ่อนในเมือง กระทบต่อตระกูลฮุนอย่างจังเบอร์
แล้วแปลกแต่จริง จู่ๆ เกิดพรรคที่มี “คุณธรรม” ผุดขึ้นมากะทันหัน ต่อต้าน Entertainment Complex แบบหัวชนกำแพง คือ พรรคภูมิใจไทย ออกอาการไม่เห็นด้วยตั้งแต่ไก่โห่
จะแค้นเก่าแค้นใหม่ไม่รู้ แต่คนรู้ว่านี่คือ “ปฐมเหตุของการขัดแข้งขัดขากันเอง” แลกดีล “ฮั้ว ส.ว.” ไม่สุด ขอกันดีๆ ไม่ให้ เพราะต่างคนต่างไม่ไว้ใจกัน ต้องเล่นเกม “หักด้ามพร้าด้วยเข่า” ถูกถีบไปเป็น “ฝ่ายค้าน” สานแค้นเก่า “มันจบแล้วครับเน”
ฝ่าย “ฮุนเซน” ก็เปิดคลิปเสียง “นายกฯ น้อย” ล่อเป้า และตามแฉชนิด “ผีไม่เผา ขี้เถ้าไม่เหยียบ” ตอกย้ำซ้ำอีกว่า “ประเทศไทยจะมีนายกฯ คนใหม่ใน 3 เดือน” พร้อมเอ่ยชื่ออนุทินที่กระเด็นไปตบยุง ร้องจะอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่ยังไม่ออกโผรัฐมนตรีกันเลย
แผนอย่างนี้ต้องระดับเซียนถึงอ่านออก “ตำราพิชัยสงคราม” ต้องพลิกไปที่บทสุดท้าย เมื่อผลประโยชน์ขัดกันก็ต้องบรรลัย นักการเมืองเขมรกับนักการเมืองไทย พับผ่าสิ! เหมือนคลอดเป็นฝาแฝดคลานตามกันมา
มนต์เขมรของดูจะแรง เรื่องความปลิ้นปล้อน นักการเมืองไทยไม่ได้กินเขมรหรอก ผลประโยชน์ระดับแสนล้านของคาสิโน กับดีลเดิมพันถล่มทักษิณ
เที่ยวที่แล้วความแค้นยังไม่จางหาย ยิ่งแก่ยิ่งจำแม่น “ครูใหญ่” หรือจะสู้ “นายใหญ่” ฮุนเซน เข้าข้างใคร? โถ… ดูเอาแล้วกันว่า ใครพูดเขมรคล่องกว่า”
.
https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/posts/pfbid02pSv5VHhoj6CXtYgFpKC4saK4aPPhyFXGxY85Xv8iUDnKTicLkSfPCueFje9nUXUQl
.
.
ตร.ไซเบอร์ ชี้ ฮุนเซน ปล่อยเฟกนิวส์ ไทยเป็นแหล่งสแกมเซ็นเตอร์ ย้อนแย้งสถิติโลก 80% อยู่ที่เขมร
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9824391
.
ตร.ไซเบอร์ ชี้ ฮุนเซน ปล่อยเฟกนิวส์ ไทยเป็นแหล่งสแกมเซ็นเตอร์ ย้อนแย้งสถิติโลก 80% อยู่ที่เขมร แจงยังไม่มีข้อมูล 7 นักการเมือง ใกล้ชิดรัฐบาลเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์
.
วันที่ 26 มิ.ย.2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน โพสข้อความระบุว่า มี 7 นักการเมืองใกล้ชิดรัฐบาลไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ การฟอกเงินในประเทศกัมพูชา ว่า ในกรณีดังกล่าว หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ มีหลักฐานที่ชัดเจนทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง
.
ซึ่งการที่เจ้าหน้าที่จะมีข้อมูลในส่วนตรงนี้ แบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. รู้จากการสืบสวนสอบสวนหรือได้ข้อมูลจากสายข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามหรือออกนาม 2. การที่มีหลักฐานที่นำเข้าไปประกอบในสำนวนก่อนส่งอัยการนั้น จะต้องมีหลักฐานที่มีข้อเท็จจริง
.
ดังนั้นรายชื่อที่นายวิโรจน์ พูดว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์รู้แล้วว่าเป็นใคร แต่ก็ยังไม่ทราบว่าพูดถึงบุคคลใด และไม่รู้ว่ามีนักการเมืองท่านใดเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ที่ผ่านมา ก็มีคดี สจ.กอล์ฟมีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ที่อยู่ประเทศกัมพูชา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เองก็ต้องมีข้อมูลอยู่แล้ว เพราะเป็นคนดำเนินคดี
.
เมื่อถามว่าส่วนกรณีที่ ฮุนเซน เผยว่าประเทศไทยเป็นแหล่งสแกมเซ็นเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในการสร้างปัญหา พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า จากสถิติของสากลโลก ตรงกับข้อมูลสถิติของประเทศว่า แหล่งสแกมเซ็นเตอร์ 80% อยู่ที่ประเทศกัมพูชา และอีก 20% อยู่ประเทศเมียนมา รวมไปถึงสถิติการร้องเรียนที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งการที่ฮุนเซนออกมาเพยแพร่แบบนี้ จะต้องเข้าไปดูว่าเราก็สามารถดำเนินคดีอะไรได้บ้าง เนื่องจากเป็นกล่าวหาและให้ข้อมูลเท็จผ่านทางโซเชียล
.
ส่วนมาตรการที่ทางรัฐบาลไทยได้ดำเนินการในทุกวิถีทางตัดไฟ เน็ต น้ำมัน นั้น ทำให้แก๊ง Call Center ได้รับผลกระทบประมาณ 30% นั้น ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปรับวิธีการถ่ายโอนเงินจากระบบออนไลน์กลับมาใช้รูปแบบเดิม
.
โดยใช้บัญชีม้ากดเงินในประเทศไทยก่อนนำส่งไปยังคนกลางและส่งไปให้ตัวการใหญ่ของแก๊งจีนเทา เนื่องจากมาตรการของไทยที่ปรับมารับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้นสร้างความลำบากให้กับพวกนี้เป็นอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงมาตราการในครั้งนี้ เห็นผลได้อย่างชัดเจน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมขบวนการเหล่านี้ได้มากขึ้น ทำให้สามารถนำทรัพย์สินกลับมาคืนสู่ประชาชนได้ไม่มากก็น้อย
.
เมื่อถามว่ากรณีตึก 18 ชั้น และ 25 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชานั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ตอนนี้มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งทางตำรวจไซเบอร์ได้พยายามรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมดเท่าที่ทำได้ และบูรณาการร่วมกับจเรตำรวจแห่งชาติ ในการกำชับให้ตำรวจในพื้นที่ ช่วยเป็นหูเป็นตา จนรู้ว่าแรงสแกมเซ็นเตอร์มียู่รอบประเทศเราและอยู่ตรงไหนบ้าง ตำรวจไฟเบอร์ก็พยายามเจาะข้อมูลต่างๆเพื่อสืบทราบหาบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมไปถึงทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
.
.
.
กัมพูชา 700 ชีวิตเลือกทำงานชัยนาท ไม่กลับบ้าน กลัวไม่มีงานทำ ชี้อยู่ไทยได้ค่าแรงเยอะกว่า
https://www.matichon.co.th/region/news_5249826
.