ที่เรามาประพฤติปฏิบัติธรรมะนั้นอยู่ที่กายกับใจ ไม่ใช่อยู่ที่ตำราตัวหนังสือ

ที่เรามาประพฤติปฏิบัติธรรมะนั้นอยู่ที่กายกับใจ ไม่ใช่อยู่ที่ตำราตัวหนังสือ
ยืน เดิน นั่ง นอน ล้วนเป็นธรรมะ กายและใจเรามีอยู่กับตัวอยู่แล้วไม่มาก
ก่อนจะมากคือ ใจมันปรุงแต่งหลงไปอารมณ์  นักปฏิบัติก็มัวไปกำหนดของนอกกายและนอกใจเรา
เช่น รูป รส กลิ่น เสียง เป็นต้น ซึ่งเป็นอาการทางกายที่ออกจากใจ

การมานั่งกรรมฐานกันเพื่อฝึกใจ ให้จิตสงบ ความว่าจิตสงบนั้น ก็คือ  จิตที่ไม่วุ่นวาย
เมื่อมานั่งปฏิบัติที่วัดหนองป่าพงนี้  ก็เป็นกายวิเวก  จิตใจเราก็แปลกแล้วคือ
จิตใจพลอยสงบไปด้วยเป็นจิตวิเวกก็พลอยจะตามกายวิเวกไปด้วยทำให้รู้สึกสบาย
เมื่อจิตเราสงบแล้วปัญญาก็เกิดขึ้นที่ใจ ใจก็สะอาดแล้ว  ก็เอาใจนี้มาพิจารณากาย
โดยแยกเป็นดิน น้ำ ไฟ ลมแล้วปัญญาก็เกิด จิตจะเห็นว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่เป็นแก่นสาร ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล
สักแต่ว่าเป็นของตามธรรมชาติเท่านั้น ซึ่งเมื่อมีเหตุ มีปัจจัย มันจึงเกิดขึ้นมาได้มีความตั้งอยู่ และแปรไปตามเหตุและปัจจัย และสลายไปในที่สุด
ร่างกายเราทุกคนก็เช่นเดียวกัน พิจารณาอย่างนี้เป็นธรรมะ และเห็นว่า อนิจจังเป็นของไม่เที่ยง
ทุกขังเป็นทุกข์ อนัตตาเป็นของไม่ใช่ตัวตน อุปาทานที่ยึดมั่นกายและใจก็หมดลง ก็ไม่เป็นทุกข์

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่