ต้องผ่านอะไรมากแค่ไหน... ถึงจะรู้ว่าเราไม่ต้องวิ่งแข่งกับใครอีก ?

เมื่อวานเราเพิ่งไปดูหนังที่เกี่ยวกับ
“สนามแข่งรถระดับโลก”
เป็นหนังที่มีทั้งเสียงเครื่องยนต์ เส้นชัย ความเร็ว และความฝัน
แต่มันกลับมีฉากหนึ่งที่เงียบที่สุด... ที่สะเทือนใจเราที่สุด
ฉากที่คน ๆ หนึ่ง ไม่ได้อยู่ในสนาม

ไม่ได้ยืนบนโพเดียม
ไม่ได้มีใครโบกมือให้
เขาแค่ใช้ชีวิตธรรมดา
อยู่ห่างจากโลกแห่งการแข่งขัน
แล้วมีคนมาชวนเขากลับไป
ไม่ใช่เพราะเขายังเร็ว
ไม่ใช่เพราะเขาดังกว่าใคร

แต่เพราะเขา
“เข้าใจบางอย่างที่คนรุ่นใหม่ยังไม่เข้าใจ”

เรานั่งนิ่งอยู่พักใหญ่หลังหนังจบ
แล้วอยู่ ๆ คำถามนี้ก็โผล่ขึ้นมาในใจเรา...

“ต้องผ่านอะไรมากแค่ไหน... ถึงจะรู้ว่าเราไม่ต้องวิ่งแข่งกับใครอีก?”

ทุกวันนี้เราอาจยังทำงานแข่งกับเวลา
เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
ไล่ตามเป้าหมายที่บางทีก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตั้ง
แต่คนในเรื่องนั้น...
เขายัง “ขับ” อยู่
แม้จะไม่มีใครดู
เขายัง “รัก” ในสิ่งที่ทำ
แม้ไม่มีคำชื่นชม
เขาไม่ได้อยากกลับมาเพื่อ “ชนะใคร”
แต่เพื่อกลับมา “เป็นตัวเองอีกครั้ง”

เราไม่รู้ว่าคุณเคยรู้สึกแบบนี้ไหม
แต่อยากแบ่งไว้ตรงนี้
ให้คนที่เคยแข่ง... ได้พัก
ให้คนที่ยังวิ่ง... ได้หายใจ
และให้คนที่กำลังเหนื่อย... ได้รู้ว่า
“คุณไม่จำเป็นต้องเร็วกว่าคนอื่น
แค่เร็วพอ... ที่จะยังเป็นตัวคุณอยู่”

แล้วคุณล่ะ...
เคยมีช่วงเวลาไหนในชีวิต
ที่คุณ “หยุดวิ่ง” ไหม?

ไม่ใช่เพราะแพ้
แต่เพราะคุณรู้ว่า…
“ไม่ต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้ว”

หรือบางที…
คุณอาจจะยังวิ่งอยู่
แล้วกำลังถามตัวเองเหมือนที่เรากำลังถามอยู่ก็ได้ว่า…
“เรากำลังวิ่งไปเพื่ออะไร?”
“เป้าหมายที่เราไล่ตาม มันมาจากใจเราจริง ๆ… หรือแค่ไม่อยากตกขบวน?”

ใครอยากเล่า… เชิญนะครับ
เราแค่อยากเปิดพื้นที่ให้คนที่เคยเหนื่อยจากการแข่งขัน
ได้พูดอะไรบ้าง… โดยไม่ต้องชนะ (หรือแพ้) ใคร

ขอบคุณมากๆ นะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่