แอมนาสตี้แฉกัมพูชา เจตนาปล่อยแก๊งคอลทารุณเหยื่อ-ค้ามนุษย์อื้อ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9822149
.
.
แอมนาสตี้แฉกัมพูชา เจตนาปล่อยแก๊งคอลทารุณเหยื่อ-ค้ามนุษย์อื้อ
.
แอมนาสตี้แฉกัมพูชา – วันที่ 26 มิ.ย.
รอยเตอร์ รายงานว่า องค์การนิรโทษกรรมสากล หรือแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยแพร่ข้อมูลโดยกล่าวหาว่ารัฐบาลกัมพูชาปล่อยให้การเป็นทาสและการทรมานเกิดขึ้นในศูนย์สแกมเมอร์ที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม (
อ่านฉบับเต็ม)
.
.
ข้อมูลดังกล่าวมาจากการลงพื้นของหน่วยงานแอมนาสตี้ที่ทำรายงานศึกษาศูนย์สแกมเมอร์กว่า 50 แห่งตลอด 18 เดือน และคำให้การผู้รอดชีวิตเผยรายละเอียดการค้ามนุษย์ การเป็นทาส และการบังคับใช้แรงงานที่กระทบผู้คนหลายพันราย รวมถึงข้อค้นพบชี้ถึงความเกี่ยวข้องของรัฐต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่กระทำโดยกลุ่มอาชญากรรมชาวจีน
.
แอกเนส คาลามาร์ด เลขาธิการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวถึงการถูกหลอก ถูกจับค้ามนุษย์ และถูกกดขี่ ว่ามาจากเรื่องเล่าของผู้รอดชีวิตจากศูนย์เหล่านี้ เช่น ตนติดอยู่ในฝันร้าย เพราะถูกบังคับให้เข้าองค์กรอาชญากรรมที่กระทำการภายใต้ความยินยอมที่เห็นได้ชัดของรัฐบาลกัมพูชา
.
ข้อค้นพบของแอมเนสตี้บ่งชี้ถึงการประสานงานและอาจถึงขั้นสมรู้ร่วมคิดระหว่างหัวหน้าศูนย์ชาวจีนกับตำรวจกัมพูชาที่อยู่เบื้องหลังความล้มเหลวในการสั่งปิดศูนย์เหล่านี้ แม้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนสารพัดอยู่ภายใน
.
“งานวิจัยของแอมเนสตี้เปิดโปงวิกฤตการณ์ที่น่าหวาดกลัวนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กัมพูชาดำเนินการไม่มากพอในการปราบปราม ความล้มเหลวนี้ทำให้เครือข่ายอาชญากรรมที่แผ่ขยายข้ามพรมแดนเหิมเกริมยิ่งขึ้น ทำให้ผู้คนนับล้านได้รับผลกระทบจากการหลอกลวง” คาลามาร์ดระบุ
.
รายงานดังกล่าวทางแอมนาสตี้รวบรวมไว้ถึง 240 หน้า ระบุถึงศูนย์สแกมเมอร์อย่างน้อย 53 แห่งในกัมพูชา และสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิต 58 คนจากแปดสัญชาติที่รวมเด็กจำนวน 9 คน
.
แอมเนสตี้ยังตรวจสอบบันทึกผู้เสียหายจากศูนย์เหล่านี้อีก 336 ราย โดยผู้ให้สัมภาษณ์ดังกล่าวคือผู้ที่หลบหนีออกมาแล้วได้รับการช่วยเหลือ หรือครอบครัวจ่ายค่าไถ่ให้ปล่อยตัว
.
ลิซ่า (นามสมมติ) ผู้รอดชีวิตอายุ 18 ปี กล่าวว่า ตนหางานทำช่วงปิดเทอมที่ประเทศไทยก่อนถูกจับค้ามนุษย์ โดยนายหน้าบอกกับตนว่าจะให้ทำงานธุรการพร้อมส่งภาพโรงแรมที่มีสระว่ายน้ำมาให้ แถมค่าตอบแทนนั้นเป็นเงือนเดือนที่สูงมาก
.
แต่เมื่อตนเดินลักลอบข้ามไปกัมพูชาตอนกลางคืน กลับถูกควบคุมตัวไว้กว่า 11 เดือน โดยมียามที่มีอาวุธครบคอยจับตา พร้อมบังคับให้ทำงานหลอกลวง ต่อมาตนพยายามหลบหนีแต่ไม่สำเร็จก็ถูกทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง
.
“มีผู้ชายอยู่สี่คน สามคนกดตัวหนูไว้ให้หัวหน้าใช้ท่อนเหล็กตีฝ่าเท้าหนู พวกมันบอกว่าถ้ายังร้องไม่หยุด มันจะตีจนกว่าจะเงียบ” ลิซ่าระบุ
.
รายงานของแอมเนสตี้พบว่า รัฐบาลกัมพูชาล้มเหลวในการสืบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่แพร่กระจายในศูนย์สแกมเมอร์ ทั้งที่ได้รับแจ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า
.
มอนต์เซ เฟอร์เรอร์ ผู้อำนวยการภูมิภาคฝ่ายวิจัย เผยว่า ทางการกัมพูชารู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นในศูนย์สแกมเมอร์ แต่กลับปล่อยให้ดำเนินต่อไป ข้อค้นพบเผยให้เห็นรูปแบบความล้มเหลวของรัฐที่เอื้อให้อาชญากรรมเฟื่องฟู และทำให้เกิดคำถามต่อแรงจูงใจของรัฐบาล (กัมพูชา)
.
รัฐบาลกัมพูชาอ้างว่ากำลังแก้ปัญหาวิกฤตสแกมเมอร์ผ่านคณะกรรมการต่อต้านการค้ามนุษย์กัมพูชา (NCCT) และคณะทำงานระดับกระทรวงหลายชุดที่ควบคุมตำรวจในการ “
ช่วยเหลือ” เหยื่อจากศูนย์สแกมเมอร์หลายครั้ง
.
ศูนย์สแกมเมอร์กว่า 2 ใน 3 ที่ระบุในรายงานยังคงดำเนินการอยู่ แม้ถูกตำรวจบุกและ “
ช่วยเหลือ” แล้ว รวมถึงมีสื่อรายงานอย่างกว้างขวาง ว่าศูนย์แห่งหนึ่งในอำเภอโบตุมซาโกร์นั้นลอบค้ามนุษย์ แม้ตำรวจเข้าแทรกแซงเพื่อช่วยเหยื่อหลายครั้ง สถานที่ดังกล่าวก็ยังดำเนินการอยู่
.
ขณะเดียวกัน ทางการกัมพูชากลับพุ่งเป้าไปที่ผู้เปิดโปงปัญหาศูนย์สแกมเมอร์ มีนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและสื่อหลายรายที่ทำข่าวนี้ถูกจับกุม ขณะเดียวกันยังมีนิตยสารข่าว Voice of Democracy ที่ถูกสั่งปิดในปี 2566 เพื่อตอบโต้การรายงานเรื่องวิกฤตสแกมเมอร์
.
“
รัฐบาลกัมพูชาสามารถหยุดการละเมิดเหล่านี้ได้ แต่เลือกที่จะไม่ทำ การแทรกแซงของตำรวจที่บันทึกไว้ดูจะเป็นเพียง ‘การสร้างภาพ’ เท่านั้น” เฟร์เรอร์กล่าว
.
ทั้งนี้ ผู้รอดชีวิตที่แอมเนสตี้สัมภาษณ์มาจากจีน ไทย มาเลเซีย บังกลาเทศ เวียดนาม อินโดนีเซีย ไต้หวัน และเอธิโอเปีย นอกจากนี้ แอมเนสตี้ยังมีบันทึกของผู้เสียหายอีกหลายร้อยคนจากอินเดีย เคนยา เนปาล และฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศอื่นๆ
.
แอมนาสตี้เรียกร้องให้ทางการกัมพูชารับประกันว่าจะไม่มีผู้หางานคนใดถูกค้ามนุษย์เข้าสู่ประเทศเพื่อเผชิญการทรมาน การเป็นทาส หรือการละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่นใดอีก
.
โดยกัมพูชาต้องเร่งสืบสวนและปิดศูนย์สแกมเมอร์ทั้งหมด พร้อมระบุตัว ช่วยเหลือ และคุ้มครองเหยื่ออย่างเหมาะสม เพราะการเป็นทาสจะเติบโตได้เมื่อรัฐบาลเมินเฉย
.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่กำลังเขียนรายงานเรื่องข้างต้น ผู้สื่อข่าวได้รับโทรศัพท์จากเบอร์ที่คาดว่าเป็นมิจฉาชีพ สะท้อนถึงปัญหาข้างต้นที่กำลังส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อประชาคมโลก.
.
https://www.reuters.com/sustainability/society-equity/amnesty-says-cambodia-is-enabling-brutal-scam-industry-2025-06-26/
.
https://www.amnesty.or.th/news/2025/06/cambodia-government-allows-slavery-torture-flourish-inside-scamming-compounds/
.
.
กมธ.วุฒิ บี้ถอนกม.คอมเพล็กซ์ ออกจากวาระสภา หากยังดื้อ โดนร้องศาลรธน.แน่
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9822244
.
กมธ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯวุฒิสภา จับพิรุธรัฐบาล เร่งตั้งกาสิโนถูกกฎหมาย ซัดเข้าข่ายทำผิดรัฐธรรมนูญหลายมาตรา เจอยื่นศาลรธน.แน่ หากมีการเสนอร่างกฎหมาย ไล่ให้ถอนออกจากวาระ
.
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย2568 ที่รัฐสภา นพ.วีระพันธ์ สุวรรณามัย สว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ วุฒิสภา แถลงว่า จากที่กมธ.ศึกษาและเชิญบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบข้อสังเกต ข้อพิรุธมากมาย หากเดินหน้าเสนอกฎหมายดังกล่าวจะเป็นอันตรายต่อประเทศ กมธ.มีข้อกังวลคือ
.
1. การทำผิดรัฐธรรมนญหลายมาตราได้แก่ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 58 มาตรา 63 มาตรา 65 ในกมธ.มีการเสนอหลายครั้งว่า หากจะเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องใช้คำว่ากาสิโนลงไปด้วยให้ชัดเจน หากไม่มีอาจผิดเชิงนโยบาย เพราะการแถลงนโยบายของรัฐบาลบอกแค่จะเป็นสถานบันเทิงครบวงจร ไม่มีกาสิโน และคำว่ากาสิโน เกิดขึ้นภายหลัง อาจเข้าข่ายผิดยุทธศาสตร์ชาติด้วย
.
มีความเป็นไปได้ว่า หากมีการเสนอร่างกฎหมายนี้เข้า อาจมีผู้ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวผิดรัฐธรรมนูญในหลายมาตรา
.
2. ด้านเศรษฐกิจ ได้เชิญสำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)มาให้ข้อมูลยืนยัน การมีกาสิโนไม่ช่วยให้จีดีพีประเทศเพิ่มขึ้น ขณะนี้ธุรกิจการพนันเป็นขาลง แต่ประเทศไทยกำลังจะดำเนินการธุรกิจขาลง จะได้ไม่คุ้มเสีย รายได้ของธุรกิกาสิโนตกอยู่ที่นายทุน ไม่ได้ตกกับรัฐ มีแนวโน้มเงินรั่วไหลออกไป
.
3. ด้านสังคม การระบุว่าการตั้งกาสิโนถูกกฎหมาย จะแก้ปัญหาการธุรกิจใต้ดินได้ แปลว่าคนไทยต้องเล่น แต่รัฐบาลอ้างว่า จะให้คนมีเงินฝากมากกว่า 50ล้านบาท เข้าไปเล่นกาสิโนได้ แต่ประเทศไทย คนที่มีเงินฝากมากกว่า 50 ล้านบาท มีแค่ 10,000 คน จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนหมื่นคนจะเข้าไปเล่นทั้งหมด ทั้งนี้ กมธ.พบข้อพิรุธการเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้คือ มีความเร่งรีบผิดปกติผลักดันกฎหมายเข้าสภาฯ
.
“แม้จะมีข่าวจะเลื่อนร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯ วันที่ 3 ก.ค. แต่ไม่แน่ใจ จะเลื่อนจริงหรือไม่ ทางที่ดีควรถอนออกไปเลย หากได้กลับมาเป็นรัฐบาลค่อยเสนอร่างกฎหมายตัวนี้กลับเข้าอยู่ในนโยบายรัฐบาลอีกครั้ง” นพ.วีระพันธ์
.
นพ.วีระพันธ์ กล่าวด้วยว่า กฎหมายนี้ออกแบบให้คณะกรรมการนโยบายมีอำนาจล้นฟ้า ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง มีอำนาจอนุมัติทุกขั้นตอน ทั้งจำนวนเงิน สถานที่ตั้ง ค่าธรรมเนียม ขัดกับหลักการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจ และให้ยกเว้นกฎหมายสำคัญเช่น กฎหมายสิ่งแวดล้อม กฎหมายผังเมือง กฎหมายการมีส่วนร่วม ที่เป็นกลไกหลักตรวจสอบสิทธิมนุษยชนและชุมชน รวมทั้งไม่มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อการจัดตั้งสถานที่
แม้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงต่อกมธ. ระบุว่า ยังไม่มีการกำหนดสถานที่ตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่เอกชนที่มีแนวโน้มจะมาลงทุนธุรกิจนี้ต่างทราบแล้วว่า จะมีสถานที่ตั้งอยู่ กทม.2 แห่ง เชียงใหม่ 2แห่ง พัทยา 1แห่ง ภูเก็ต 1 แห่ง มีการเก็บภาษี 17% ต้องรอดูจะเป็นจริงตามนี้หรือไม่
.
ถ้าเก็บภาษี 17% ถือว่าน้อยมาก ทำให้เราไปอยู่ในกลุ่ม กัมพูชา ฟิลิปปินส์ ที่เก็บภาษีน้อย เพราะประเทศที่เจริญแล้วอย่างมาเก๊าและญี่ปุ่นเก็บภาษี 35-40% ซึ่งเอกชนประเมินไว้แล้ว หากมีคนไทยมาเล่นน้อยกว่า 50% ก็ไม่คุ้มที่จะลงทุน ตัวเลขเหล่านี้เอกชนได้อย่างไร ถ้าไม่ได้มาจากคนกำหนดนโยบาย
.
นพ. วีระพันธุ์กล่าวว่า กมธ.มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลคือ รัฐบาลไม่ทำตามขั้นตอนการเสนอกฎหมายคือ ไม่รับฟังความคิดเห็น สร้างความเข้าใจกับประชาชน การกำหนดพื้นที่เพื่อศึกษาผลกระทบในทุกมิติ การไม่พิจารณากฎหมายระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน แต่กลับไปเขียนร่างกฎหมายก่อน ถือเป็นการเร่งรีบ
.
ส่วนที่รัฐบาลอ้างว่า ได้ทำประชาพิจารณ์สอบถามความเห็นประชาชนแล้ว พบว่า มีคนเห็นด้วย 80% นั้น การทำประชาพิจารณ์กับประชามติเป็นคนละเรื่องกัน การทำประชาพิจารณ์ไม่สามารถกำหนดเป็นตัวเลขได้ ดังนั้น ตัวเลขดังกล่าว รัฐบาลกำลังทำให้ประชาชนเข้าใจผิด โดยกมธ.จะนำข้อเสนอ ข้อสังเกต และข้อพิรุธต่างๆเสนอต่อที่ประชุมวุฒิสภาในวันที่ 7 ก.ค.นี้ ทันทีที่เปิดประชุมสภาฯรอบใหม่
JJNY : แอมนาสตี้แฉกัมพูชา│กมธ.วุฒิ บี้ถอนกม.คอมเพล็กซ์│จเรตำรวจฯ ยังไม่ได้รับมติแพทยสภา│ไลน์ก๊วนอีสาน พท.ผิดหวังโผครม.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9822149
.
แอมนาสตี้แฉกัมพูชา เจตนาปล่อยแก๊งคอลทารุณเหยื่อ-ค้ามนุษย์อื้อ
.
แอมนาสตี้แฉกัมพูชา – วันที่ 26 มิ.ย. รอยเตอร์ รายงานว่า องค์การนิรโทษกรรมสากล หรือแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยแพร่ข้อมูลโดยกล่าวหาว่ารัฐบาลกัมพูชาปล่อยให้การเป็นทาสและการทรมานเกิดขึ้นในศูนย์สแกมเมอร์ที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ( อ่านฉบับเต็ม)
.
ข้อมูลดังกล่าวมาจากการลงพื้นของหน่วยงานแอมนาสตี้ที่ทำรายงานศึกษาศูนย์สแกมเมอร์กว่า 50 แห่งตลอด 18 เดือน และคำให้การผู้รอดชีวิตเผยรายละเอียดการค้ามนุษย์ การเป็นทาส และการบังคับใช้แรงงานที่กระทบผู้คนหลายพันราย รวมถึงข้อค้นพบชี้ถึงความเกี่ยวข้องของรัฐต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่กระทำโดยกลุ่มอาชญากรรมชาวจีน
.
แอกเนส คาลามาร์ด เลขาธิการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวถึงการถูกหลอก ถูกจับค้ามนุษย์ และถูกกดขี่ ว่ามาจากเรื่องเล่าของผู้รอดชีวิตจากศูนย์เหล่านี้ เช่น ตนติดอยู่ในฝันร้าย เพราะถูกบังคับให้เข้าองค์กรอาชญากรรมที่กระทำการภายใต้ความยินยอมที่เห็นได้ชัดของรัฐบาลกัมพูชา
.
ข้อค้นพบของแอมเนสตี้บ่งชี้ถึงการประสานงานและอาจถึงขั้นสมรู้ร่วมคิดระหว่างหัวหน้าศูนย์ชาวจีนกับตำรวจกัมพูชาที่อยู่เบื้องหลังความล้มเหลวในการสั่งปิดศูนย์เหล่านี้ แม้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนสารพัดอยู่ภายใน
.
“งานวิจัยของแอมเนสตี้เปิดโปงวิกฤตการณ์ที่น่าหวาดกลัวนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กัมพูชาดำเนินการไม่มากพอในการปราบปราม ความล้มเหลวนี้ทำให้เครือข่ายอาชญากรรมที่แผ่ขยายข้ามพรมแดนเหิมเกริมยิ่งขึ้น ทำให้ผู้คนนับล้านได้รับผลกระทบจากการหลอกลวง” คาลามาร์ดระบุ
.
รายงานดังกล่าวทางแอมนาสตี้รวบรวมไว้ถึง 240 หน้า ระบุถึงศูนย์สแกมเมอร์อย่างน้อย 53 แห่งในกัมพูชา และสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิต 58 คนจากแปดสัญชาติที่รวมเด็กจำนวน 9 คน
.
แอมเนสตี้ยังตรวจสอบบันทึกผู้เสียหายจากศูนย์เหล่านี้อีก 336 ราย โดยผู้ให้สัมภาษณ์ดังกล่าวคือผู้ที่หลบหนีออกมาแล้วได้รับการช่วยเหลือ หรือครอบครัวจ่ายค่าไถ่ให้ปล่อยตัว
.
ลิซ่า (นามสมมติ) ผู้รอดชีวิตอายุ 18 ปี กล่าวว่า ตนหางานทำช่วงปิดเทอมที่ประเทศไทยก่อนถูกจับค้ามนุษย์ โดยนายหน้าบอกกับตนว่าจะให้ทำงานธุรการพร้อมส่งภาพโรงแรมที่มีสระว่ายน้ำมาให้ แถมค่าตอบแทนนั้นเป็นเงือนเดือนที่สูงมาก
.
แต่เมื่อตนเดินลักลอบข้ามไปกัมพูชาตอนกลางคืน กลับถูกควบคุมตัวไว้กว่า 11 เดือน โดยมียามที่มีอาวุธครบคอยจับตา พร้อมบังคับให้ทำงานหลอกลวง ต่อมาตนพยายามหลบหนีแต่ไม่สำเร็จก็ถูกทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง
.
“มีผู้ชายอยู่สี่คน สามคนกดตัวหนูไว้ให้หัวหน้าใช้ท่อนเหล็กตีฝ่าเท้าหนู พวกมันบอกว่าถ้ายังร้องไม่หยุด มันจะตีจนกว่าจะเงียบ” ลิซ่าระบุ
.
รายงานของแอมเนสตี้พบว่า รัฐบาลกัมพูชาล้มเหลวในการสืบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่แพร่กระจายในศูนย์สแกมเมอร์ ทั้งที่ได้รับแจ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า
.
มอนต์เซ เฟอร์เรอร์ ผู้อำนวยการภูมิภาคฝ่ายวิจัย เผยว่า ทางการกัมพูชารู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นในศูนย์สแกมเมอร์ แต่กลับปล่อยให้ดำเนินต่อไป ข้อค้นพบเผยให้เห็นรูปแบบความล้มเหลวของรัฐที่เอื้อให้อาชญากรรมเฟื่องฟู และทำให้เกิดคำถามต่อแรงจูงใจของรัฐบาล (กัมพูชา)
.
รัฐบาลกัมพูชาอ้างว่ากำลังแก้ปัญหาวิกฤตสแกมเมอร์ผ่านคณะกรรมการต่อต้านการค้ามนุษย์กัมพูชา (NCCT) และคณะทำงานระดับกระทรวงหลายชุดที่ควบคุมตำรวจในการ “ช่วยเหลือ” เหยื่อจากศูนย์สแกมเมอร์หลายครั้ง
.
ศูนย์สแกมเมอร์กว่า 2 ใน 3 ที่ระบุในรายงานยังคงดำเนินการอยู่ แม้ถูกตำรวจบุกและ “ช่วยเหลือ” แล้ว รวมถึงมีสื่อรายงานอย่างกว้างขวาง ว่าศูนย์แห่งหนึ่งในอำเภอโบตุมซาโกร์นั้นลอบค้ามนุษย์ แม้ตำรวจเข้าแทรกแซงเพื่อช่วยเหยื่อหลายครั้ง สถานที่ดังกล่าวก็ยังดำเนินการอยู่
.
ขณะเดียวกัน ทางการกัมพูชากลับพุ่งเป้าไปที่ผู้เปิดโปงปัญหาศูนย์สแกมเมอร์ มีนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและสื่อหลายรายที่ทำข่าวนี้ถูกจับกุม ขณะเดียวกันยังมีนิตยสารข่าว Voice of Democracy ที่ถูกสั่งปิดในปี 2566 เพื่อตอบโต้การรายงานเรื่องวิกฤตสแกมเมอร์
.
“รัฐบาลกัมพูชาสามารถหยุดการละเมิดเหล่านี้ได้ แต่เลือกที่จะไม่ทำ การแทรกแซงของตำรวจที่บันทึกไว้ดูจะเป็นเพียง ‘การสร้างภาพ’ เท่านั้น” เฟร์เรอร์กล่าว
.
ทั้งนี้ ผู้รอดชีวิตที่แอมเนสตี้สัมภาษณ์มาจากจีน ไทย มาเลเซีย บังกลาเทศ เวียดนาม อินโดนีเซีย ไต้หวัน และเอธิโอเปีย นอกจากนี้ แอมเนสตี้ยังมีบันทึกของผู้เสียหายอีกหลายร้อยคนจากอินเดีย เคนยา เนปาล และฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศอื่นๆ
.
แอมนาสตี้เรียกร้องให้ทางการกัมพูชารับประกันว่าจะไม่มีผู้หางานคนใดถูกค้ามนุษย์เข้าสู่ประเทศเพื่อเผชิญการทรมาน การเป็นทาส หรือการละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่นใดอีก
.
โดยกัมพูชาต้องเร่งสืบสวนและปิดศูนย์สแกมเมอร์ทั้งหมด พร้อมระบุตัว ช่วยเหลือ และคุ้มครองเหยื่ออย่างเหมาะสม เพราะการเป็นทาสจะเติบโตได้เมื่อรัฐบาลเมินเฉย
.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่กำลังเขียนรายงานเรื่องข้างต้น ผู้สื่อข่าวได้รับโทรศัพท์จากเบอร์ที่คาดว่าเป็นมิจฉาชีพ สะท้อนถึงปัญหาข้างต้นที่กำลังส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อประชาคมโลก.
.
https://www.reuters.com/sustainability/society-equity/amnesty-says-cambodia-is-enabling-brutal-scam-industry-2025-06-26/
.
https://www.amnesty.or.th/news/2025/06/cambodia-government-allows-slavery-torture-flourish-inside-scamming-compounds/
.
.
กมธ.วุฒิ บี้ถอนกม.คอมเพล็กซ์ ออกจากวาระสภา หากยังดื้อ โดนร้องศาลรธน.แน่
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9822244
.