เสียงของ "ครู" ที่ไม่มีใครได้ยิน ยังมีครูอีกไม่น้อยที่จะฆ่าตัวตาย...

หลังจากที่ผมได้ยินข่าวการฆ่าตัวตายของครูท่านหนึ่งในภาคอีสาน ผมเองไม่รู้สึกแปลกใจเลยที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเพราะผมเองเข้าใจดีว่าอาชีพครูมันกดดันแค่ไหน ต้องรับมือกับผู้บบริหารที่งี่เง่า เจ้าอำนาจ เพื่อนครูร่วมงานที่ขี้อิจฉา นักเรียนที่ด้อยโอกาส ทุกอย่างครูรับหมด
           เรื่องการดูแลเด็กพวกผมทำตามหน้าที่อยู่แล้ว บางครั้งอาจจะต้องดูแลกันมากกว่าพ่อแม่  เด็กบางคนไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ บางคนอยู่กับตายายแก่ๆ ไม่รู้หนังสือ ครูก็คอยให้ความช่วยเหลือเสมอ สิ่งเหล่านี้ครูทำด้วยความเต็มใจ
            แต่เมื่อมีงานอื่นเข้ามาแทรก ครูก็ถูกดึงออกจากห้องเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียนที่ผอ.ไรร้คุณธรรม บริหารงานแบบกลั่นแกล้งลูกน้อง กลัวลูกน้องจะสบาย โยนงานตัวเองให้ลูกน้องทำ ส่วนตัวเองนั่งห้องแอร์เล่นเฟส ฟังเพลง บางครั้งมานอนหลับในที่ทำงาน โดยถืออำนาจว่าตัวเองเป็นผู้บังคับบัญชา เป็นสิ่งที่ควรทำหรือไม่ บังคับให้ครูมาร.ร.ตั้งแต่ 7 โมงเช้า เลิกงาน 17.00 ส่วนตัวเองคอยจับผิดว่าใครจะเข้าสาย ใครจะกลับก่อน จากนั้นก็เรียกประชุมตลอดจนไม่มีเวลาทำงาน การประชุมคือการเรียกครูมาตำหนิ พูดจาประชดประชัน
         เวลามีความเครียด (ซึ่งความเครียดนั้นเกิดจากการกระทำของตนเอง) ก็มาระเบิดอารมณ์ใส่ครูและนักเรียน ทั้งด่าและใช้วาจาข่มขู่สารพัด บางครั้งเป็นการพูดหหน้าเสาธง ชาวบ้านก็ได้ยินทั่ว บางครั้งด่าครูต่อหน้านักเรียน โดยไม่เกรงใจสาธารณชน  แต่ครูในร.ร.ก็ไม่มีใครกล้าเถียงเพราะเถียงไปก็ไม่มีประโยชน์ จะมีครูอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งกลุ่มนี้เลียเก่งและหาผลประโยชน์ให้กัน พวกเค้าจะได้ขั้นพิเศษกันทุกรอบ แม้ว่าจะขาด ลา มาสายและไม่สอน คนของตัวเองทำผิดได้และปกป้องกัน แต่ถ้าเป็นคนอื่นทำ ไม่ช่วยแน่นอน
        ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับชุมชนก็มีปัญหาครับ เพราะไม่เคยมีส่วนร่วมอะไรเลยจากชุมชน กรรมการสถานศึกษาก็ไม่ให้ความร่วมมือในการเข้าประชุมและที่หนักหน่อยก็คือเรื่องผ้าป่าศิษย์เก่าที่จะสร้างโดม แต่ไม่มีการสร้าง
        ถ้าครูต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ พวกผมจะเอาแรงกายแรงใจที่ไหนไสอนเด็กละครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่