ศาลพิพากษา ยกฟ้อง ‘โรม’ คดีหมิ่นฯ อดีตส.ว.อุปกิต ชี้ทำตามหน้าที่ส.ส.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5245875
.
.
ศาลพิพากษา ยกฟ้อง ‘โรม’ คดีหมิ่นฯ อดีตส.ว.อุปกิต ชี้ทำตามหน้าที่ส.ส. ติชมด้วยความเป็นธรรม
.
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ห้องพิจารณา 911 ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ1743/66 ที่ นาย
อุปกิต ปาจรียางกูร อดีตสว.เป็นโจทก์ ฟ้อง นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เป็นจำเลยความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 66 นายรังสิมันต์ ได้ให้สัมภาษณ์ที่ทำการพรรค พาดพิงถึงนายอุปกิต โจทก์ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัวตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
.
นาย
รังสิมันต์ เปิดเผยก่อนเข้าฟังคำพิพากษาว่า มั่นใจในพยานหลักฐานที่ได้มีการชี้แจงก่อนหน้านี้ ไม่รู้สึกกังวลอะไร ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ฝ่ายโจทก์ศาลพิพากษายกฟ้องมาแล้ว 2 สำนวนก็ตาม โดยยืนยันว่าตนเองทำหน้าที่ในฐานะส.ส.ที่อภิปรายในสภาและพูดนอกสภา เนื่องจากมีสื่อมวลชนมาสอบถาม ก็ต้องได้อธิบายไปตามข้อเท็จจริง โดยไม่มีการสร้างพยานหลักฐานเพิ่มเติมขึ้นมาแต่อย่างใด
.
นาย
รังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ที่ฝ่ายโจทก์ได้ยื่นฟ้องตนเองมาสองสำนวน ศาลชั้นต้นก็พิพากษายกฟ้องไปแล้วเช่นกัน หากวันนี้คำพิพากษาเป็นคุณกับตัวเอง ส่วนตัวก็ยังมีหน้าที่ที่ต้องทำคือปัญหาเกี่ยวกับเรื่องชายแดน ซึ่งจะต้องกลับไปทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป ยืนยันว่าวันนี้ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษและไม่รู้สึกกังวลอะไร พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลพยายามจะกลบเกลื่อนปัญหาสถานการณ์ชายแดน และพยายามจะทำเรื่องของการปรับคณะรัฐมนตรีมากกว่า ทั้งที่ปัญหาชายแดนเป็นเรื่องใหญ่
.
ต่อมา เวลา 10.30 น. มีรายงานว่า ศาลพิพากษายกฟ้อง นาย
รังสิมันต์ คดีอดีต สว.อุปกิต ฟ้องหมิ่นประมาท กรณีกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด ชี้เป็นการติชมด้วยความเป็นธรรม เป็นการทำหน้าที่ส.ส. ตรวจสอบบุคคลสาธารณะ
.
.
พริษฐ์ เตือน อย่าฟังฮุนเซน มากปมได้นายกฯใหม่ใน 3 เดือน แนะ อิ๊งค์ เร่งสางคดีสังหารฝ่ายค้านกัมพูชาในไทย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5246020
.
พริษฐ์ เตือน อย่าฟังฮุนเซน มากปมได้นายกฯใหม่ใน 3 เดือน แนะ อิ๊งค์ เร่งสางคดีสังหารฝ่ายค้านกัมพูชาในไทย ใช้แต้มต่อเวทีนานาชาติ
.
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 มิถุนายน ที่รัฐสภา นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ภายใน 3 เดือน ว่า เป็นความพยายามของสมเด็จฮุน เซน ที่พยายามชี้นำสังคมว่าตนเองรับรู้ ถึงขั้นมีส่วนร่วมกับการเมืองไทย ดังนั้น เราอย่าไปหลงตามคำพูดของสมเด็จ
ฮุน เซน เลย แต่สิ่งที่รัฐบาลควรจะพุ่งเป้ามากกว่าคือ เรื่องการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อเท็จจริ งกรณีมีการสังหารนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาในประเทศไทย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องดำเนินการ แต่เรายังไม่ได้ยินความชัดเจนจากนายกรัฐมนตรี เพราะเกี่ยวข้องในเรื่องสิทธิมนุษยชน เป็นสิ่งที่ควรดำเนินการ
.
นาย
พริษฐ์ กล่าวต่อว่า การดำเนินการสอบสวนตรงนี้จะทำให้เรามีแต้มต่อในเวทีต่างประเทศ ที่จะสะท้อนให้เห็นว่าเรายึดมั่นในหลักสากลและสิทธิมนุยชน ในกรณีที่เรามีข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่เกิดขึ้นอาจจะลุกลามถึงเวทีนานาชาติ ตนคิดว่าการมีพันธมิตรจากประเทศอื่นในโลกจะเป็นแต้มต่อให้กับประเทศไทยได้ ถ้านายกรัฐมนตรีจริงจังและเดินหน้าเรื่องนี้ จะลบข้อครหาว่าตนเองรับรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นในสมัยที่ น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าไม่ดำเนินการ คนก็จะตั้งคำถามต่อว่าสาเหตุที่ไม่ดำเนินการเป็นเพราะรับรู้ด้วยหรือไม่
.
เมื่อถามว่าการที่กัมพูชาออกมาโจมตีว่าไทยให้ข้อมูลว่า กัมพูชาเป็นศูนย์กลางของอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ เป็นการทำลายมิตรภาพในภูมิภาค เราสามารถใช้กลไกใดตอบโต้ได้บ้าง นาย
พริษฐ์ กล่าวว่า การทำงานในประชาคมอาเซียน ซึ่งมักพูดเสมอว่า เราต้องมองเป็น 1 ประชาคม ถ้ามีส่วนไหนของประชาคมทำอะไรที่ทำลายความมั่นคง คุณภาพชีวิตของคนไทย จะให้อยู่นิ่งเฉยก็คงไม่ใช่ ดังนั้น ตนยืนยันว่าความร่วมมือระหว่างประเทศก็สำคัญ แต่ความร่วมมือระหว่างประเทศต้องไม่มาจากการทำให้การดำเนินการบางอย่างของเพื่อนบ้านมาทำลายคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของคนไทย
.
เมื่อถามว่ามีคำแนะนำให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการอย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า เรื่องการเจรจาทวิภาคี คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาฯ ของนาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน จะมีการประชุมในวันที่ 26 มิ.ย. นี้ จะมีการเชิญนาย
มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ มาชี้แจง แต่ไม่รู้ว่าจะมาเองหรือส่งตัวแทนมา ตนคิดว่าข้อเสนอตรงนี้เป็นข้อเสนอที่มีน้ำหนัก เพราะใน กมธ. มีตัวแทนของทุกพรรคการเมือง ซึ่งข้อเสนอก็จะส่งต่อให้รัฐบาล เรายืนยันเรื่องกลไกทวิภาคี แต่การมีพันธมิตรจากประชาคมโลกก็สำคัญ ฉะนั้น การเอาจริงเอาจังกับเรื่องสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่เป็นการรักษาเพื่อสิทธิอย่างเดียว แต่เป็นแต้มต่อให้กับประเทศไทย
.
.
กลัวเสียของ! ปชน.ยังกั๊กยื่นซักฟอก เย้ยชะลอกม.คอมเพล็กซ์ ฟ้องเสถียรภาพรบ.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9820298
.
พริษฐ์ ยังไม่ฟันธงร่วมยื่นซักฟอก ขอรอดูหน้า ครม.ใหม่ก่อน ชี้เป็นอาวุธหนักต้องตรงเป้าหวังผลได้ ใช้ได้ครั้งเดียวไม่เช่นนั้นเสียของ เย้ยรัฐบาลชะลอถก พ.ร.บ.คอมเพล็กซ์ ฟ้องเสถียรภาพ ย้ำทางออกที่ดี ถอนออกไป
.
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 มิ.ย.2568 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงพรรคภูมิใจไทย เตรียมเสนอขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯและครม. ตามมาตรา 151 ในการเปิดสมัยการประชุมนี้ ว่า ต้องขอบคุณฝ่ายค้านน้องใหม่ อย่างพรรคภูมิใจไทยที่เลือกใช้วิธีเชิญชวนพรรคร่วมฝ่ายค้านผ่านสื่อ เรื่องแนวคิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151
.
แต่พรรคประชาชนเราวางหลักการไว้ว่าตั้งแต่เป็นฝ่ายค้าน ยืนยันว่าจะใช้ทุกกลไกของรัฐสภา ตรวจสอบรัฐบาล แก้ไขปัญหาให้กับประเทศ การอภิปรายตามมาตรา 151 และ 152 รวมถึงคณะกรรมาธิการ ท่ามกลางสภาวะที่ประชาชนจำนวนไม่น้อยเริ่มสูญเสียความไว้วางใจต่อรัฐบาลมากขึ้น เราก็พร้อมเป็นตัวแทนตรวจสอบรัฐบาล
.
“ขอยืนยันว่ากลไกตามมาตรา 151 เป็นอาวุธที่มาแน่นอน แต่กลไกนี้เป็นอาวุธที่ทรงพลัง และแม่นยำ แต่ใช้ได้เพียงหนึ่งครั้งต่อสมัยการประชุม คือตั้งแต่ในวันที่ 3 ก.ค. 68 ถึง 2 ก.ค.69 จะใช้กลไกนี้ได้แค่ครั้งเดียว เราต้องใช้อย่างแม่นยำ และต้องหวังผล ทั้งมติในสภาฯและความไม่ชอบธรรมของรัฐบาล แต่อีกมุมหนึ่งก็ไม่ต้องการให้ใช้อาวุธนี้อย่างเสียของ”นายพริษฐ์กล่าว
.
นายพริษฐ์ กล่าวว่า หากใช้อาวุธนี้แล้ว ถ้าสมมติ นายกฯ พ้นจากตำแหน่งไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆ จะกลายเป็นว่าเราไม่สามารถใช้อาวุธนี้ได้อีก แม้จะมีนายกฯ คนใหม่เข้ามา จึงจำเป็นต้องหารือเรื่องจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 โดยจะหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน
.
ส่วนที่รัฐบาล ระบุว่าเพิ่งปรับครม.ใหม่ ควรให้เวลาทำงานก่อนนั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้น เพราะนายกฯ ยังเป็นคนเดิม แม้ปรับครม.จะเปลี่ยนไปบ้าง ก็เชื่อว่ารัฐมนตรีใหม่ส่วนหนึ่งเป็นคนที่ทำงานอยู่ในรัฐบาลชุดนี้อยู่แล้ว จึงต้องขอดูก่อนว่า ครม.ใหม่ ประกอบด้วยใครบ้าง จะได้สรุปถูกว่า นอกจากจะยื่นไม่ไว้วางใจนายกฯแล้วจะยื่นไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีคนใดอีกบ้าง
.
“การที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่าคลิปเสียงที่คุยกับสมเด็จฮุนเซน ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศ สะท้อนว่านายกฯยังไม่ทบทวนอย่างจริงจังในข้อผิดพลาดที่ทำไปเป็นอย่างไร จึงอยากให้นายกฯทบทวนว่าพร้อมทำหน้าที่ต่อหรือไม่ หากทบทวนแล้ว คิดว่าไม่สามารถเรียกความไว้วางใจจากประชาชนกลับคืนมาได้ ทางออกที่ดีที่สุดคือยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน เพราะเมื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว ทางเลือกของนายกฯ ในการยุบสภา จะไม่มีอีกต่อไป” นายพริษฐ์ กล่าว
.
เมื่อถามว่าเมื่อพรรคภูมิใจไทยประกาศจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจออกมาแล้วจะมีการทบทวนหรือชะลออย่างไรนั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านต้องหารือร่วมกัน ทั้งเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 และสัดส่วนวิปฝ่ายค้าน
.
เมื่อถามว่าเป็นเพราะมีข้อมูลไม่เพียงพอหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ปัจจัยไม่ใช่เรื่องข้อมูล แต่เป็นเรื่องของจังหวะเวลาที่จะใช้ได้ผลและไม่เสียของ ซึ่งทุกคนเห็นถึงสถานการณ์และความไม่พอใจของสังคมต่อการทำหน้าที่นายกฯ ดังนั้น ข้อมูลที่พรรคภูมิใจไทยมี ต้องนำมากางเพื่อพูดคุยกัน เพราะอาจทำให้ชัดเจนขึ้นว่าเหตุใดจึงควรไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดนี้ แต่จะมีคำถามกลับไปเหมือนกันว่าที่ผ่านมาหากมีข้อมูลนี้มาตลอด ทำไมพรรคภูมิใจไทยถึงพึ่งมานำเสนอตอนนี้
.
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะรีบหารือกัน และหวังว่าในวันที่ 3 ก.ย.นี้ จะเปิดสมัยประชุมสภา ซึ่งมีข่าวแว่วมาว่าจะไม่มีการเรียกประชุม เพราะยังไม่มีหนังสือเชิญ ถือว่าผิดวิสัยมาก ปกติหากวันเปิดสมัยการประชุมตรงกับวันพฤหัสฯ ซึ่งจะมีเพียงวันเดียว แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่ไม่เคยไม่เรียกประชุมสภาฯ หวังว่าประธานสภาฯจะเร่งดำเนินการเรื่องนี้
.
ต่อข้อถามว่ามองว่ารัฐบาลยังมีเสถียรภาพและเสียงสนับสนุนเพียงพอใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มองเรื่องนั้น ความจริงการที่รัฐบาลตัดสินใจชะลอ ร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็เป็นการยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ แม้จะอ้างว่าเพื่อรอรับฟังเสียงของประชาชนเพิ่มเติม
.
ส่วนตัวคิดว่าไม่จริง แต่มองว่าที่ต้องชะลอเพราะเสียงในสภาฯไม่พอ ต้องหักเสียงของพรรคประชาชาติออกไป และยังไม่นับสส.ของพรรคร่วมรัฐบาลบางคนที่อาจไม่เห็นด้วย
.
“สำหรับร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทางออกไม่ควรเลื่อน แต่ควรถอนออกมา ผมเดาว่ารัฐบาลน่าจะมาทางนี้ โดยให้ชะลอและอ้างการรับฟังเสียงประชาชน ดังนั้นถ้ าจริงใจที่จะฟังเสียงของประชาชน ควรถอนไม่ใช่เลื่อนออกไป” นายพริษฐ์ กล่าว
.
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทย ที่มีจุดยืนไม่ตรงกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะทำให้การทำงานมีปัญหาหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า โดยระบบรัฐสภา ฝ่ายค้านไม่มีสิทธิ์เลือก พรรคประชาชนจะเดินหน้าทำงานตามจุดยืนแนวทางของเรา อะไรที่ต้องร่วมมือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ให้เกียรติกันและกัน แต่ต้องรักษาจุดยืนและหลักการของตัวเอง
.
เมื่อถามว่าการตรวจสอบรัฐบาลอาจตรวจสอบย้อนหลังถึงพรรคภูมิใจไทยด้วย จะเกิดความขัดแย้งหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตรงไปตรงมา เราตรวจสอบทุกคนที่มีอำนาจ ใครใช้อำนาจรัฐแทนประชาชนโดยมิชอบ ใช้ภาษีของประชาชนโดยไม่สมเหตุสมผล เราจะตรวจสอบทั้งหมด
JJNY : ยกฟ้อง‘โรม’ หมิ่นฯ อุปกิต│พริษฐ์แนะเร่งสางคดีสังหารฝ่ายค้านกัมพูชา│ปชน.ยังกั๊กยื่นซักฟอก│นักสิทธิฯกัมพูชาถูกจำคุก
https://www.matichon.co.th/politics/news_5245875
.
ศาลพิพากษา ยกฟ้อง ‘โรม’ คดีหมิ่นฯ อดีตส.ว.อุปกิต ชี้ทำตามหน้าที่ส.ส. ติชมด้วยความเป็นธรรม
.
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ห้องพิจารณา 911 ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ1743/66 ที่ นายอุปกิต ปาจรียางกูร อดีตสว.เป็นโจทก์ ฟ้อง นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เป็นจำเลยความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 66 นายรังสิมันต์ ได้ให้สัมภาษณ์ที่ทำการพรรค พาดพิงถึงนายอุปกิต โจทก์ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัวตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
.
นายรังสิมันต์ เปิดเผยก่อนเข้าฟังคำพิพากษาว่า มั่นใจในพยานหลักฐานที่ได้มีการชี้แจงก่อนหน้านี้ ไม่รู้สึกกังวลอะไร ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ฝ่ายโจทก์ศาลพิพากษายกฟ้องมาแล้ว 2 สำนวนก็ตาม โดยยืนยันว่าตนเองทำหน้าที่ในฐานะส.ส.ที่อภิปรายในสภาและพูดนอกสภา เนื่องจากมีสื่อมวลชนมาสอบถาม ก็ต้องได้อธิบายไปตามข้อเท็จจริง โดยไม่มีการสร้างพยานหลักฐานเพิ่มเติมขึ้นมาแต่อย่างใด
.
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ที่ฝ่ายโจทก์ได้ยื่นฟ้องตนเองมาสองสำนวน ศาลชั้นต้นก็พิพากษายกฟ้องไปแล้วเช่นกัน หากวันนี้คำพิพากษาเป็นคุณกับตัวเอง ส่วนตัวก็ยังมีหน้าที่ที่ต้องทำคือปัญหาเกี่ยวกับเรื่องชายแดน ซึ่งจะต้องกลับไปทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป ยืนยันว่าวันนี้ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษและไม่รู้สึกกังวลอะไร พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลพยายามจะกลบเกลื่อนปัญหาสถานการณ์ชายแดน และพยายามจะทำเรื่องของการปรับคณะรัฐมนตรีมากกว่า ทั้งที่ปัญหาชายแดนเป็นเรื่องใหญ่
.
ต่อมา เวลา 10.30 น. มีรายงานว่า ศาลพิพากษายกฟ้อง นายรังสิมันต์ คดีอดีต สว.อุปกิต ฟ้องหมิ่นประมาท กรณีกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด ชี้เป็นการติชมด้วยความเป็นธรรม เป็นการทำหน้าที่ส.ส. ตรวจสอบบุคคลสาธารณะ
.
.
พริษฐ์ เตือน อย่าฟังฮุนเซน มากปมได้นายกฯใหม่ใน 3 เดือน แนะ อิ๊งค์ เร่งสางคดีสังหารฝ่ายค้านกัมพูชาในไทย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5246020
.
พริษฐ์ เตือน อย่าฟังฮุนเซน มากปมได้นายกฯใหม่ใน 3 เดือน แนะ อิ๊งค์ เร่งสางคดีสังหารฝ่ายค้านกัมพูชาในไทย ใช้แต้มต่อเวทีนานาชาติ
.
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ภายใน 3 เดือน ว่า เป็นความพยายามของสมเด็จฮุน เซน ที่พยายามชี้นำสังคมว่าตนเองรับรู้ ถึงขั้นมีส่วนร่วมกับการเมืองไทย ดังนั้น เราอย่าไปหลงตามคำพูดของสมเด็จฮุน เซน เลย แต่สิ่งที่รัฐบาลควรจะพุ่งเป้ามากกว่าคือ เรื่องการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อเท็จจริ งกรณีมีการสังหารนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาในประเทศไทย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องดำเนินการ แต่เรายังไม่ได้ยินความชัดเจนจากนายกรัฐมนตรี เพราะเกี่ยวข้องในเรื่องสิทธิมนุษยชน เป็นสิ่งที่ควรดำเนินการ
.
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า การดำเนินการสอบสวนตรงนี้จะทำให้เรามีแต้มต่อในเวทีต่างประเทศ ที่จะสะท้อนให้เห็นว่าเรายึดมั่นในหลักสากลและสิทธิมนุยชน ในกรณีที่เรามีข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่เกิดขึ้นอาจจะลุกลามถึงเวทีนานาชาติ ตนคิดว่าการมีพันธมิตรจากประเทศอื่นในโลกจะเป็นแต้มต่อให้กับประเทศไทยได้ ถ้านายกรัฐมนตรีจริงจังและเดินหน้าเรื่องนี้ จะลบข้อครหาว่าตนเองรับรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นในสมัยที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าไม่ดำเนินการ คนก็จะตั้งคำถามต่อว่าสาเหตุที่ไม่ดำเนินการเป็นเพราะรับรู้ด้วยหรือไม่
.
เมื่อถามว่าการที่กัมพูชาออกมาโจมตีว่าไทยให้ข้อมูลว่า กัมพูชาเป็นศูนย์กลางของอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ เป็นการทำลายมิตรภาพในภูมิภาค เราสามารถใช้กลไกใดตอบโต้ได้บ้าง นายพริษฐ์ กล่าวว่า การทำงานในประชาคมอาเซียน ซึ่งมักพูดเสมอว่า เราต้องมองเป็น 1 ประชาคม ถ้ามีส่วนไหนของประชาคมทำอะไรที่ทำลายความมั่นคง คุณภาพชีวิตของคนไทย จะให้อยู่นิ่งเฉยก็คงไม่ใช่ ดังนั้น ตนยืนยันว่าความร่วมมือระหว่างประเทศก็สำคัญ แต่ความร่วมมือระหว่างประเทศต้องไม่มาจากการทำให้การดำเนินการบางอย่างของเพื่อนบ้านมาทำลายคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของคนไทย
.
เมื่อถามว่ามีคำแนะนำให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการอย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า เรื่องการเจรจาทวิภาคี คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาฯ ของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน จะมีการประชุมในวันที่ 26 มิ.ย. นี้ จะมีการเชิญนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ มาชี้แจง แต่ไม่รู้ว่าจะมาเองหรือส่งตัวแทนมา ตนคิดว่าข้อเสนอตรงนี้เป็นข้อเสนอที่มีน้ำหนัก เพราะใน กมธ. มีตัวแทนของทุกพรรคการเมือง ซึ่งข้อเสนอก็จะส่งต่อให้รัฐบาล เรายืนยันเรื่องกลไกทวิภาคี แต่การมีพันธมิตรจากประชาคมโลกก็สำคัญ ฉะนั้น การเอาจริงเอาจังกับเรื่องสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่เป็นการรักษาเพื่อสิทธิอย่างเดียว แต่เป็นแต้มต่อให้กับประเทศไทย
.
.
กลัวเสียของ! ปชน.ยังกั๊กยื่นซักฟอก เย้ยชะลอกม.คอมเพล็กซ์ ฟ้องเสถียรภาพรบ.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9820298
.