คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
การไว้หนวดเครา ของชาติพันธุ์โบราณอย่าง สุเมเรียน และ จีน ทำไมคนโบราณเขาถึงได้นิยมไว้หนวดเคราที่ยาวเฟื้อย ดูมีสไตล์ และมีความหมายอะไรซ่อนอยู่บ้าง?
ทำไมหนวดเคราในชาติพันธุ์โบราณถึงสำคัญ?
อยากชวนทุกคนมองภาพรวมก่อนว่า หนวดและเคราสำหรับคนโบราณน่ะ ไม่ใช่แค่เรื่องแฟชั่นหรืออยากเท่เฉย ๆ นะ แต่เป็น สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม ที่มีความหมายลึกซึ้งมาก ๆ
สัญลักษณ์ของความเป็นชายและอำนาจ ในหลาย ๆ อารยธรรม หนวดเคราถูกมองว่าเป็นเครื่องหมายของความเป็นชาย ความแข็งแกร่ง และความเป็นผู้นำ ใครหนวดเครายาว ดก ดำ มักจะดูมีบารมี ดูน่าเกรงขาม
สถานะทางสังคม คนที่มีหนวดเคราที่ได้รับการดูแลอย่างดี (เช่น ถักเปีย ตกแต่ง หรือย้อมสี) มักจะเป็นชนชั้นสูง ขุนนาง หรือผู้นำ เพราะการดูแลเคราต้องใช้เวลาและทรัพยากร
ความเชื่อทางศาสนาและจิตวิญญาณ บางวัฒนธรรมเชื่อว่าเคราผูกพันกับความศักดิ์สิทธิ์ หรือเป็นสิ่งที่พระเจ้ามอบให้ การตัดเคราอาจถูกมองว่าเป็นการดูหมิ่น
การปกป้องและสภาพแวดล้อม ในบางพื้นที่ เช่น ทะเลทราย หนวดเคราช่วยปกป้องใบหน้าจากลมและฝุ่น (แบบนี้ก็เท่และมีประโยชน์ไปพร้อมกันเลย)
สุเมเรียน หนวดเคราดกในประติมากรรมหิน

ถ้าพูดถึง สุเมเรียน (Sumerians) อารยธรรมเก่าแก่แห่งเมโสโปเตเมีย (ประมาณ 4,500-1,900 ปีก่อนคริสต์ศักราช) เพื่อน ๆ คงนึกถึงภาพแกะสลักหินหรือรูปปั้นดินเผาที่มีหนวดเคราดกหนา ดูสง่างามใช่มั้ยล่ะ? เดี๊ยนเห็นแล้วก็อิจฉาความดกของเคราพวกเขาเหมือนกัน! มาดูกันว่าทำไมสุเมเรียนถึงให้ความสำคัญกับหนวดเคราขนาดนี้
คติและความหมายของหนวดเคราสุเมเรียน
สัญลักษณ์ของความเป็นผู้นำและศักดิ์ศรี ในศิลปะสุเมเรียน เรามักเห็นกษัตริย์หรือเทพเจ้าถูกแกะสลักด้วยเคราที่ยาวและมีการจัดแต่งอย่างประณีต เช่น ถักเป็นเปียหรือม้วนเป็นลอน ซึ่งแสดงถึงสถานะสูงส่งและความน่าเคารพ ตัวอย่างเช่น รูปปั้นของ กูเดีย (Gudea) เจ้าเมืองลากัช (Lagash) ที่มักถูกแกะสลักด้วยเคราที่ดูสมมาตรและเป็นระเบียบสุด ๆ
การเชื่อมโยงกับความศักดิ์สิทธิ์ ชาวสุเมเรียนนับถือเทพเจ้าหลายองค์ และมักแสดงภาพเทพเจ้าด้วยเคราที่ยาวเพื่อแสดงถึงความเป็นอมตะและพลังศักดิ์สิทธิ์ การไว้เคราจึงเป็นเหมือนการเลียนแบบเทพเจ้า
แฟชั่นและการดูแล จากหลักฐานทางโบราณคดี เช่น ดินแดงที่ใช้ย้อมเคราหรือเครื่องประดับที่ใช้ตกแต่งเคราพบในสุสาน แสดงว่าชาวสุเมเรียนใส่ใจกับการดูแลเคราสุด ๆ บางครั้งเคราถูกถักเปียหรือประดับด้วยลูกปัดทองคำ ฟังแล้วรู้สึกว่าเป็นงานศิลปะชิ้นนึงเลย
หนวดเคราสุเมเรียนในศิลปะ
เพื่อน ๆ ที่บอกว่าเห็นเคราสุเมเรียนในประติมากรรมหิน เพราะศิลปะสุเมเรียนเน้นการแสดงรายละเอียดของเคราอย่างชัดเจน เช่น
ลักษณะของเคราสุเมเรียน มักเป็นเคราที่ยาว ดกหนา และมีลวดลายเป็นระเบียบ (เหมือนถักเปียหรือม้วนเป็นลอน) บางครั้งมีการย้อมสีหรือประดับด้วยเครื่องประดับ ตัวอย่างในงานศิลปะ ดูได้จาก แท่นศิลาจารึกของกูเดีย หรือ ประติมากรรมของเทพเจ้า ในพิพิธภัณฑ์ เช่น พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre) ที่มีรูปปั้นแสดงเคราสวย ๆ ของผู้นำสุเมเรียน
ลองนึกภาพตัวเองเป็นสาวสุเมเรียน
ถ้าเราเป็นสาวสุเมเรียน คงต้องยอมรับว่าเคราดก ๆ นี่คือสัญลักษณ์ของความเท่และบารมีจริง ๆ ถ้าขนบางแบบเพื่อน ๆ ล่ะก็ อาจจะต้องพึ่งเครื่องประดับหรือน้ำมันย้อมเคราที่ชาวสุเมเรียนใช้ (เหมือนเจลแต่งผมสมัยนั้นเลย ฮ่า ๆ) เพื่อให้เคราดูเด่นขึ้นมา
จีนโบราณ หนวดเคราพรึ่บพรั่บแบบในงิ้ว

มาถึง จีนโบราณ กันบ้าง เพื่อน ๆ ที่ดูหนังจีนย้อนยุคหรืองิ้ว คงนึกภาพขุนนางหรือนักปราชญ์ที่มีเครายาวสลวย ไว้ลูบเล่นตอนครุ่นคิด (แบบในละครที่ตัวละครชอบลูบเคราตอนคิดแผนการ) เราเองก็เคยฝันอยากมีเคราลูบได้แบบนั้นเหมือนกัน มาดูกันว่าคติการไว้หนวดเคราของจีนโบราณมีความหมายยังไง
คติและความหมายของหนวดเคราจีน
ลัทธิขงจื๊อและความกตัญญู ตามลัทธิขงจื๊อ (Confucianism) ซึ่งมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมจีนมาแต่โบราณ ร่างกาย เส้นผม และเคราถือเป็นของขวัญจากพ่อแม่ การตัดผมหรือเคราถือเป็นการไม่เคารพต่อพ่อแม่และบรรพบุรุษ ดังนั้น ผู้ชายจีนโบราณจึงมักไว้ผมและเครายาว เพื่อแสดงถึงความกตัญญูและความเคารพ
สัญลักษณ์ของปัญญาและวุฒิภาวะ ในจีนโบราณ หนวดเคราที่ยาวมักถูกเชื่อมโยงกับความฉลาดและประสบการณ์ ผู้เฒ่าหรือปราชญ์มักถูกพรรณนาว่ามีเคราสวย ๆ เช่น ขงจื๊อ (Confucius) หรือนักปราชญ์ในราชสำนักที่มักมีเคราสลวย
สถานะทางสังคม ขุนนางและชนชั้นสูงในราชวงศ์ต่าง ๆ เช่น ราชวงศ์ฮั่น (Han) หรือราชวงศ์ถัง (Tang) มักไว้หนวดเคราที่ได้รับการดูแลอย่างดี เพื่อแสดงถึงความสง่างามและอำนาจ
ในศิลปะการแสดง (งิ้ว) ในงิ้วจีน หนวดเคราถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของตัวละคร เช่น ตัวละครที่มีเคราสีดำยาวมักเป็นตัวละครที่มีอำนาจหรือฉลาด ส่วนเคราสีขาวแสดงถึงความสูงวัยและปัญญา การลูบเคราบนเวทีงิ้วยังเป็นท่าทางที่สื่อถึงการครุ่นคิดหรือวางแผน
ลักษณะของหนวดเคราจีน
ความยาวและความเรียบร้อย เคราจีนโบราณมักยาวและได้รับการดูแลอย่างดี บางครั้งถักเป็นเปียเล็ก ๆ หรือปล่อยให้ยาวสลวย บางคนใช้ผ้าไหมหรือเครื่องประดับตกแต่ง ในราชสำนัก ขุนนางมักไว้เคราที่ตัดแต่งอย่างประณีต เพื่อให้ดูเหมาะสมกับสถานะ
ตัวอย่างในประวัติศาสตร์ เช่น ขงจื๊อ หรือตัวละครในนิยายอย่าง สามก๊ก (Three Kingdoms) เช่น ขงเบ้ง (Zhuge Liang) ที่มักถูกพรรณนาว่ามีเคราสวยและใช้พัดลูบเคราตอนวางกลยุทธ์
ลอฃนึกภาพตัวเองไว้เคราจีน
เพื่อน ๆ ที่บอกว่าขนบาง อยากไว้เคราลูบได้แบบในงิ้ว เราแนะนำว่า ถ้าอยู่ในยุคจีนโบราณ อาจต้องพึ่ง น้ำมันใส่ผม หรือ เครื่องประดับ เช่น ผ้าไหมหรือลูกปัดที่ขุนนางจีนใช้ตกแต่งเครา หรือถ้าขนน้อยจริง ๆ อาจลองใช้เคราปลอมแบบที่นักแสดงงิ้วใช้ (ฮ่า ๆ คิดถึงละครจีนเลย) เพื่อให้ได้ลุคปราชญ์จีนโบราณ
เปรียบเทียบสุเมเรียและจีน ความเหมือนและต่าง
ความเหมือน
สัญลักษณ์ของอำนาจและสถานะ ทั้งสุเมเรียนและจีนใช้หนวดเคราสื่อถึงความเป็นผู้นำ ความน่าเคารพ และสถานะทางสังคม
การดูแลอย่างประณีต ทั้งสองวัฒนธรรมมีการตกแต่งเคราด้วยการถักเปีย ย้อมสี หรือใช้เครื่องประดับ
ความเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณ สุเมเรียนเชื่อมโยงเครากับเทพเจ้า ส่วนจีนเชื่อมโยงกับความกตัญญูและลัทธิขงจื๊อ
ความต่าง
บริบทวัฒนธรรม สุเมเรียนเน้นความศักดิ์สิทธิ์และการเลียนแบบเทพเจ้า ส่วนจีนเน้นความกตัญญูและปัญญาตามปรัชญาขงจื๊อ
สไตล์ เคราสุเมเรียนมักถักเปียหรือม้วนเป็นลอนชัดเจน ส่วนเคราจีนมักยาวสลวยและบางครั้งปล่อยให้เป็นธรรมชาติมากกว่า
การใช้งานในศิลปะ สุเมเรียนเห็นเคราชัดเจนในประติมากรรมหิน ส่วนจีนเห็นในภาพวาด งานเขียน และการแสดงงิ้ว
แนะนำสำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากลองไว้หนวดเคราสไตล์โบราณ
เพื่อน ๆ ที่บอกว่าขนบาง หนวดเคราน้อย แต่อยากลองมีเคราพรึ่บพรั่บแบบสุเมเรียนหรือจีนโบราณ เรามีไอเดียมาแนะนำ
แรงบันดาลใจจากสุเมเรีย
ลองไว้เคราสั้น ๆ แล้วถักเปียเล็ก ๆ หรือใช้เจลจัดแต่งให้ดูเป็นระเบียบ (เลียนแบบลอนเคราสุเมเรียน)
ถ้าขนน้อย อาจใช้เครื่องประดับ เช่น ลูกปัดหรือริบบิ้นเล็ก ๆ ตกแต่ง (แบบโบราณสุด ๆ)
ลองดูรูปปั้นสุเมเรียนในพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ เช่น พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ หรือ British Museum เพื่อหาไอเดีย
แรงบันดาลใจจากจีนโบราณ
ถ้าอยากได้ลุคปราชญ์จีน ลองไว้เคราที่ยาวสักหน่อย (ถ้าขนบาง อาจใช้เคราปลอมแบบในงิ้วได้นะคะ ฮ่า ๆ)
ใช้ผ้าไหมหรือริบบิ้นผูกเคราบางส่วนให้ดูสง่างาม
ลองฝึกท่าลูบเคราตอนคิด (แบบขงเบ้งในสามก๊ก) เพื่ออินเนอร์ปราชญ์เต็มขั้น
เคล็ดลับสำหรับคนขนบาง
ใช้น้ำมันบำรุงหนวดเคราที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันอาร์แกน เพื่อให้ขนดูหนาขึ้น
ถ้าอยากลองลุคโบราณจริง ๆ อาจปรึกษาช่างแต่งหน้าละครหรือใช้เคราปลอมคุณภาพดี (สมัยนี้มีแบบเนียนมาก)
ลองศึกษาเทคนิคแต่งหนวดเคราจากช่างแต่งหน้างิ้วจีน หรือดูคลิปสอนแต่งเคราสไตล์โบราณใน YouTube
สรุปแล้วหนวดเคราสะท้อนตัวตนและวัฒนธรรม
การไว้หนวดเคราของชาติพันธุ์โบราณอย่างสุเมเรียนและจีนไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามหรือแฟชั่น แต่เป็น สะท้อนตัวตน วัฒนธรรม และคติความเชื่อ ชาวสุเมเรียนใช้เคราสื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์และอำนาจ ส่วนชาวจีนโบราณใช้เคราสื่อถึงความกตัญญูและปัญญา ไม่ว่าจะเป็นเคราถักเปียสุดปราณีตของสุเมเรียน หรือเครายาวสลวยแบบในงิ้วจีน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทำให้เรารู้สึกทึ่งและอยากลองมีเคราบ้าง (ถึงขนจะบางก็เถอะ ฮ่า ๆ)
เพื่อน ๆ ที่อยากลองลุคโบราณแบบนี้ เราเชียร์ให้ลองเลย ไม่ต้องกลัวขนน้อย เพราะสมัยนี้เรามีทั้งเครื่องสำอาง เคราปลอม และเทคนิคจัดแต่งเยอะแยะ อยากให้ลองสนุกกับการแต่งตัวย้อนยุคดูสักครั้ง แล้วแชร์รูปมาให้เราดูบ้างนะ
ทำไมหนวดเคราในชาติพันธุ์โบราณถึงสำคัญ?

อยากชวนทุกคนมองภาพรวมก่อนว่า หนวดและเคราสำหรับคนโบราณน่ะ ไม่ใช่แค่เรื่องแฟชั่นหรืออยากเท่เฉย ๆ นะ แต่เป็น สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม ที่มีความหมายลึกซึ้งมาก ๆ
สัญลักษณ์ของความเป็นชายและอำนาจ ในหลาย ๆ อารยธรรม หนวดเคราถูกมองว่าเป็นเครื่องหมายของความเป็นชาย ความแข็งแกร่ง และความเป็นผู้นำ ใครหนวดเครายาว ดก ดำ มักจะดูมีบารมี ดูน่าเกรงขาม
สถานะทางสังคม คนที่มีหนวดเคราที่ได้รับการดูแลอย่างดี (เช่น ถักเปีย ตกแต่ง หรือย้อมสี) มักจะเป็นชนชั้นสูง ขุนนาง หรือผู้นำ เพราะการดูแลเคราต้องใช้เวลาและทรัพยากร
ความเชื่อทางศาสนาและจิตวิญญาณ บางวัฒนธรรมเชื่อว่าเคราผูกพันกับความศักดิ์สิทธิ์ หรือเป็นสิ่งที่พระเจ้ามอบให้ การตัดเคราอาจถูกมองว่าเป็นการดูหมิ่น
การปกป้องและสภาพแวดล้อม ในบางพื้นที่ เช่น ทะเลทราย หนวดเคราช่วยปกป้องใบหน้าจากลมและฝุ่น (แบบนี้ก็เท่และมีประโยชน์ไปพร้อมกันเลย)
สุเมเรียน หนวดเคราดกในประติมากรรมหิน


ถ้าพูดถึง สุเมเรียน (Sumerians) อารยธรรมเก่าแก่แห่งเมโสโปเตเมีย (ประมาณ 4,500-1,900 ปีก่อนคริสต์ศักราช) เพื่อน ๆ คงนึกถึงภาพแกะสลักหินหรือรูปปั้นดินเผาที่มีหนวดเคราดกหนา ดูสง่างามใช่มั้ยล่ะ? เดี๊ยนเห็นแล้วก็อิจฉาความดกของเคราพวกเขาเหมือนกัน! มาดูกันว่าทำไมสุเมเรียนถึงให้ความสำคัญกับหนวดเคราขนาดนี้
คติและความหมายของหนวดเคราสุเมเรียน
สัญลักษณ์ของความเป็นผู้นำและศักดิ์ศรี ในศิลปะสุเมเรียน เรามักเห็นกษัตริย์หรือเทพเจ้าถูกแกะสลักด้วยเคราที่ยาวและมีการจัดแต่งอย่างประณีต เช่น ถักเป็นเปียหรือม้วนเป็นลอน ซึ่งแสดงถึงสถานะสูงส่งและความน่าเคารพ ตัวอย่างเช่น รูปปั้นของ กูเดีย (Gudea) เจ้าเมืองลากัช (Lagash) ที่มักถูกแกะสลักด้วยเคราที่ดูสมมาตรและเป็นระเบียบสุด ๆ
การเชื่อมโยงกับความศักดิ์สิทธิ์ ชาวสุเมเรียนนับถือเทพเจ้าหลายองค์ และมักแสดงภาพเทพเจ้าด้วยเคราที่ยาวเพื่อแสดงถึงความเป็นอมตะและพลังศักดิ์สิทธิ์ การไว้เคราจึงเป็นเหมือนการเลียนแบบเทพเจ้า
แฟชั่นและการดูแล จากหลักฐานทางโบราณคดี เช่น ดินแดงที่ใช้ย้อมเคราหรือเครื่องประดับที่ใช้ตกแต่งเคราพบในสุสาน แสดงว่าชาวสุเมเรียนใส่ใจกับการดูแลเคราสุด ๆ บางครั้งเคราถูกถักเปียหรือประดับด้วยลูกปัดทองคำ ฟังแล้วรู้สึกว่าเป็นงานศิลปะชิ้นนึงเลย
หนวดเคราสุเมเรียนในศิลปะ
เพื่อน ๆ ที่บอกว่าเห็นเคราสุเมเรียนในประติมากรรมหิน เพราะศิลปะสุเมเรียนเน้นการแสดงรายละเอียดของเคราอย่างชัดเจน เช่น
ลักษณะของเคราสุเมเรียน มักเป็นเคราที่ยาว ดกหนา และมีลวดลายเป็นระเบียบ (เหมือนถักเปียหรือม้วนเป็นลอน) บางครั้งมีการย้อมสีหรือประดับด้วยเครื่องประดับ ตัวอย่างในงานศิลปะ ดูได้จาก แท่นศิลาจารึกของกูเดีย หรือ ประติมากรรมของเทพเจ้า ในพิพิธภัณฑ์ เช่น พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre) ที่มีรูปปั้นแสดงเคราสวย ๆ ของผู้นำสุเมเรียน
ลองนึกภาพตัวเองเป็นสาวสุเมเรียน

ถ้าเราเป็นสาวสุเมเรียน คงต้องยอมรับว่าเคราดก ๆ นี่คือสัญลักษณ์ของความเท่และบารมีจริง ๆ ถ้าขนบางแบบเพื่อน ๆ ล่ะก็ อาจจะต้องพึ่งเครื่องประดับหรือน้ำมันย้อมเคราที่ชาวสุเมเรียนใช้ (เหมือนเจลแต่งผมสมัยนั้นเลย ฮ่า ๆ) เพื่อให้เคราดูเด่นขึ้นมา
จีนโบราณ หนวดเคราพรึ่บพรั่บแบบในงิ้ว


มาถึง จีนโบราณ กันบ้าง เพื่อน ๆ ที่ดูหนังจีนย้อนยุคหรืองิ้ว คงนึกภาพขุนนางหรือนักปราชญ์ที่มีเครายาวสลวย ไว้ลูบเล่นตอนครุ่นคิด (แบบในละครที่ตัวละครชอบลูบเคราตอนคิดแผนการ) เราเองก็เคยฝันอยากมีเคราลูบได้แบบนั้นเหมือนกัน มาดูกันว่าคติการไว้หนวดเคราของจีนโบราณมีความหมายยังไง
คติและความหมายของหนวดเคราจีน
ลัทธิขงจื๊อและความกตัญญู ตามลัทธิขงจื๊อ (Confucianism) ซึ่งมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมจีนมาแต่โบราณ ร่างกาย เส้นผม และเคราถือเป็นของขวัญจากพ่อแม่ การตัดผมหรือเคราถือเป็นการไม่เคารพต่อพ่อแม่และบรรพบุรุษ ดังนั้น ผู้ชายจีนโบราณจึงมักไว้ผมและเครายาว เพื่อแสดงถึงความกตัญญูและความเคารพ
สัญลักษณ์ของปัญญาและวุฒิภาวะ ในจีนโบราณ หนวดเคราที่ยาวมักถูกเชื่อมโยงกับความฉลาดและประสบการณ์ ผู้เฒ่าหรือปราชญ์มักถูกพรรณนาว่ามีเคราสวย ๆ เช่น ขงจื๊อ (Confucius) หรือนักปราชญ์ในราชสำนักที่มักมีเคราสลวย
สถานะทางสังคม ขุนนางและชนชั้นสูงในราชวงศ์ต่าง ๆ เช่น ราชวงศ์ฮั่น (Han) หรือราชวงศ์ถัง (Tang) มักไว้หนวดเคราที่ได้รับการดูแลอย่างดี เพื่อแสดงถึงความสง่างามและอำนาจ
ในศิลปะการแสดง (งิ้ว) ในงิ้วจีน หนวดเคราถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของตัวละคร เช่น ตัวละครที่มีเคราสีดำยาวมักเป็นตัวละครที่มีอำนาจหรือฉลาด ส่วนเคราสีขาวแสดงถึงความสูงวัยและปัญญา การลูบเคราบนเวทีงิ้วยังเป็นท่าทางที่สื่อถึงการครุ่นคิดหรือวางแผน
ลักษณะของหนวดเคราจีน
ความยาวและความเรียบร้อย เคราจีนโบราณมักยาวและได้รับการดูแลอย่างดี บางครั้งถักเป็นเปียเล็ก ๆ หรือปล่อยให้ยาวสลวย บางคนใช้ผ้าไหมหรือเครื่องประดับตกแต่ง ในราชสำนัก ขุนนางมักไว้เคราที่ตัดแต่งอย่างประณีต เพื่อให้ดูเหมาะสมกับสถานะ
ตัวอย่างในประวัติศาสตร์ เช่น ขงจื๊อ หรือตัวละครในนิยายอย่าง สามก๊ก (Three Kingdoms) เช่น ขงเบ้ง (Zhuge Liang) ที่มักถูกพรรณนาว่ามีเคราสวยและใช้พัดลูบเคราตอนวางกลยุทธ์
ลอฃนึกภาพตัวเองไว้เคราจีน

เพื่อน ๆ ที่บอกว่าขนบาง อยากไว้เคราลูบได้แบบในงิ้ว เราแนะนำว่า ถ้าอยู่ในยุคจีนโบราณ อาจต้องพึ่ง น้ำมันใส่ผม หรือ เครื่องประดับ เช่น ผ้าไหมหรือลูกปัดที่ขุนนางจีนใช้ตกแต่งเครา หรือถ้าขนน้อยจริง ๆ อาจลองใช้เคราปลอมแบบที่นักแสดงงิ้วใช้ (ฮ่า ๆ คิดถึงละครจีนเลย) เพื่อให้ได้ลุคปราชญ์จีนโบราณ
เปรียบเทียบสุเมเรียและจีน ความเหมือนและต่าง

ความเหมือน
สัญลักษณ์ของอำนาจและสถานะ ทั้งสุเมเรียนและจีนใช้หนวดเคราสื่อถึงความเป็นผู้นำ ความน่าเคารพ และสถานะทางสังคม
การดูแลอย่างประณีต ทั้งสองวัฒนธรรมมีการตกแต่งเคราด้วยการถักเปีย ย้อมสี หรือใช้เครื่องประดับ
ความเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณ สุเมเรียนเชื่อมโยงเครากับเทพเจ้า ส่วนจีนเชื่อมโยงกับความกตัญญูและลัทธิขงจื๊อ
ความต่าง
บริบทวัฒนธรรม สุเมเรียนเน้นความศักดิ์สิทธิ์และการเลียนแบบเทพเจ้า ส่วนจีนเน้นความกตัญญูและปัญญาตามปรัชญาขงจื๊อ
สไตล์ เคราสุเมเรียนมักถักเปียหรือม้วนเป็นลอนชัดเจน ส่วนเคราจีนมักยาวสลวยและบางครั้งปล่อยให้เป็นธรรมชาติมากกว่า
การใช้งานในศิลปะ สุเมเรียนเห็นเคราชัดเจนในประติมากรรมหิน ส่วนจีนเห็นในภาพวาด งานเขียน และการแสดงงิ้ว
แนะนำสำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากลองไว้หนวดเคราสไตล์โบราณ

เพื่อน ๆ ที่บอกว่าขนบาง หนวดเคราน้อย แต่อยากลองมีเคราพรึ่บพรั่บแบบสุเมเรียนหรือจีนโบราณ เรามีไอเดียมาแนะนำ
แรงบันดาลใจจากสุเมเรีย
ลองไว้เคราสั้น ๆ แล้วถักเปียเล็ก ๆ หรือใช้เจลจัดแต่งให้ดูเป็นระเบียบ (เลียนแบบลอนเคราสุเมเรียน)
ถ้าขนน้อย อาจใช้เครื่องประดับ เช่น ลูกปัดหรือริบบิ้นเล็ก ๆ ตกแต่ง (แบบโบราณสุด ๆ)
ลองดูรูปปั้นสุเมเรียนในพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ เช่น พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ หรือ British Museum เพื่อหาไอเดีย
แรงบันดาลใจจากจีนโบราณ
ถ้าอยากได้ลุคปราชญ์จีน ลองไว้เคราที่ยาวสักหน่อย (ถ้าขนบาง อาจใช้เคราปลอมแบบในงิ้วได้นะคะ ฮ่า ๆ)
ใช้ผ้าไหมหรือริบบิ้นผูกเคราบางส่วนให้ดูสง่างาม
ลองฝึกท่าลูบเคราตอนคิด (แบบขงเบ้งในสามก๊ก) เพื่ออินเนอร์ปราชญ์เต็มขั้น
เคล็ดลับสำหรับคนขนบาง
ใช้น้ำมันบำรุงหนวดเคราที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันอาร์แกน เพื่อให้ขนดูหนาขึ้น
ถ้าอยากลองลุคโบราณจริง ๆ อาจปรึกษาช่างแต่งหน้าละครหรือใช้เคราปลอมคุณภาพดี (สมัยนี้มีแบบเนียนมาก)
ลองศึกษาเทคนิคแต่งหนวดเคราจากช่างแต่งหน้างิ้วจีน หรือดูคลิปสอนแต่งเคราสไตล์โบราณใน YouTube
สรุปแล้วหนวดเคราสะท้อนตัวตนและวัฒนธรรม

การไว้หนวดเคราของชาติพันธุ์โบราณอย่างสุเมเรียนและจีนไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามหรือแฟชั่น แต่เป็น สะท้อนตัวตน วัฒนธรรม และคติความเชื่อ ชาวสุเมเรียนใช้เคราสื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์และอำนาจ ส่วนชาวจีนโบราณใช้เคราสื่อถึงความกตัญญูและปัญญา ไม่ว่าจะเป็นเคราถักเปียสุดปราณีตของสุเมเรียน หรือเครายาวสลวยแบบในงิ้วจีน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทำให้เรารู้สึกทึ่งและอยากลองมีเคราบ้าง (ถึงขนจะบางก็เถอะ ฮ่า ๆ)
เพื่อน ๆ ที่อยากลองลุคโบราณแบบนี้ เราเชียร์ให้ลองเลย ไม่ต้องกลัวขนน้อย เพราะสมัยนี้เรามีทั้งเครื่องสำอาง เคราปลอม และเทคนิคจัดแต่งเยอะแยะ อยากให้ลองสนุกกับการแต่งตัวย้อนยุคดูสักครั้ง แล้วแชร์รูปมาให้เราดูบ้างนะ
แสดงความคิดเห็น
อยากทราบคติ การไว้หนวดเครา ของชาติพันธุ์โบราณต่าง ๆ อย่างเช่น สุเมเรีย และจีน ค่ะ
ส่วนของสุเมเรีย อันนี้เห็นตามประติมากรรมแกะสลักหินค่ะ