
หุ้น KTC-XPG ดิ่งฟลอร์ 14% กังวลฟอร์ซเซล หลักบัญชีมาจิ้น 16.30% คาดผู้ถือหุ้นใหญ่ขายออก
.
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 23 มิ.ย.2568 เวลา 11.00 น.หุ้น KTC ปรับตัวลงแรง 14.39% ลดลง 5.00 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 29.75 บาท ขณะที่ XPG ร่วง 14.08% ลดลง 0.10 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 0.61 บาท
.
กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า หุ้น KTC และ XPG ปรับตัวร่วงแรงดิ่งฟลอร์วันนี้ ถือเป็นปัจจัยเฉพาะตัว ซึ่งได้มีการเช็กไปทางบริษัท ไม่ได้มีพัฒนาการที่สำคัญในเชิงของพื้นฐาน ทำให้คาดการณ์ว่า รายได้ในส่วนของสินเชื่อ KTC น่าจะปรับตัวลดลงไม่ถึงเป้าหมายที่ได้วางไว้ในช่วงแรก ด้วยภาพเศรษฐกิจมหาภาคในขณะนี้ การใช้จ่ายอาจจะซบเซา ทำให้การขยายตัวของสินเชื่อไม่ได้มากเท่าที่ตั้งเป้าไว้ แต่ทว่า KTC มีการคุมค่าใช้จ่ายได้ดี เพราะฉะน้ันมองตัวเลขในแง่ของกำไรไม่ได้น่าจะทำให้หุ้นปรับตัวลงมาได้มากขนาดนี้
.
ดังนั้นหุ้นที่ปรับตัวลงมาฟลอร์ไม่ได้มาจากปัจจัยพื้นฐานและมาจากปัจจัยอื่น ๆ โดยคำแนะนำเป็นชะลอการลงทุนไปก่อน แนะนำขายราคาเป้าหมายที่ 35 บาท
.
นอกจากนี้ยังมีความกังวลในส่วนของการฟอร์ซเซล ในหลักบัญชีมาจิ้นซื้อที่ 16.30% ที่ยังคงค้างอยู่ และยังคงเป็นประเด็นที่มีการตั้งคำถามเกี่ยวข้องกันหรือไม่ รวมถึงการขายของผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งยังไม่แน่ชัด
.
"KTC กับ XPG เป็นหุ้นกลุ่มเดียวกัน ทำให้มีการร่วงลงมาตามกัน ซึ่งยังคงต้องรอความชัดเจน ซึ่งทางบริษัทบอกยังไม่ได้มีพัฒนาการที่เป็นนัยสำคัญ ต้องรอเช็กกันอีกทีว่าเกิดอะไรขึ้น"
หุ้น KTC-XPG ดิ่งฟลอร์ 14% กังวลฟอร์ซเซล หลักบัญชีมาจิ้น 16.30% คาดผู้ถือหุ้นใหญ่ขายออก
หุ้น KTC-XPG ดิ่งฟลอร์ 14% กังวลฟอร์ซเซล หลักบัญชีมาจิ้น 16.30% คาดผู้ถือหุ้นใหญ่ขายออก
.
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 23 มิ.ย.2568 เวลา 11.00 น.หุ้น KTC ปรับตัวลงแรง 14.39% ลดลง 5.00 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 29.75 บาท ขณะที่ XPG ร่วง 14.08% ลดลง 0.10 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 0.61 บาท
.
กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า หุ้น KTC และ XPG ปรับตัวร่วงแรงดิ่งฟลอร์วันนี้ ถือเป็นปัจจัยเฉพาะตัว ซึ่งได้มีการเช็กไปทางบริษัท ไม่ได้มีพัฒนาการที่สำคัญในเชิงของพื้นฐาน ทำให้คาดการณ์ว่า รายได้ในส่วนของสินเชื่อ KTC น่าจะปรับตัวลดลงไม่ถึงเป้าหมายที่ได้วางไว้ในช่วงแรก ด้วยภาพเศรษฐกิจมหาภาคในขณะนี้ การใช้จ่ายอาจจะซบเซา ทำให้การขยายตัวของสินเชื่อไม่ได้มากเท่าที่ตั้งเป้าไว้ แต่ทว่า KTC มีการคุมค่าใช้จ่ายได้ดี เพราะฉะน้ันมองตัวเลขในแง่ของกำไรไม่ได้น่าจะทำให้หุ้นปรับตัวลงมาได้มากขนาดนี้
.
ดังนั้นหุ้นที่ปรับตัวลงมาฟลอร์ไม่ได้มาจากปัจจัยพื้นฐานและมาจากปัจจัยอื่น ๆ โดยคำแนะนำเป็นชะลอการลงทุนไปก่อน แนะนำขายราคาเป้าหมายที่ 35 บาท
.
นอกจากนี้ยังมีความกังวลในส่วนของการฟอร์ซเซล ในหลักบัญชีมาจิ้นซื้อที่ 16.30% ที่ยังคงค้างอยู่ และยังคงเป็นประเด็นที่มีการตั้งคำถามเกี่ยวข้องกันหรือไม่ รวมถึงการขายของผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งยังไม่แน่ชัด
.
"KTC กับ XPG เป็นหุ้นกลุ่มเดียวกัน ทำให้มีการร่วงลงมาตามกัน ซึ่งยังคงต้องรอความชัดเจน ซึ่งทางบริษัทบอกยังไม่ได้มีพัฒนาการที่เป็นนัยสำคัญ ต้องรอเช็กกันอีกทีว่าเกิดอะไรขึ้น"