นโยบายกระตุ้นเศรษบกิจ ของสหรัฐฯ (รอบใหญ่)

สุภาษิตโบราณกล่าวไว้ว่า สงครามคือธุรกิจที่ดี Raytheon ( NYSE:RTX )

พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าราคาหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในการซื้อขายช่วงบ่ายของวันพุธ มีรายงานว่าสหรัฐฯ

อาจพร้อมที่จะจัดหาระบบขีปนาวุธแพทริออตให้กับยูเครน และนั่นจะทำให้ Raytheon มีคำสั่งซื้อใหม่

credit : _{https://news.lockheedmartin.com/2018-06-13-Lockheed-Martin-Selects-Raytheon-to-Deliver-Next-Generation-F-35-Sensor-System#assets_all}

RTX ซึ่งเดิมรู้จักกันในชื่อ Raytheon เป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่และเป็นที่รู้จักมากที่สุดในภาคการบินและอวกาศและการป้องกันประเทศ โดยมีมูลค่าตลาดเกือบ 200 พันล้านดอลลาร์ บริษัทก่อตั้งขึ้นจากการควบรวมกิจการในปี 2020 ระหว่างธุรกิจการบินและอวกาศและการป้องกันประเทศของ Raytheon และ United Technologies ปัจจุบัน RTX ดำเนินงานผ่านสามกลุ่มหลัก

ประการแรก Collins Aerospace ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านระบบการบินและอวกาศขั้นสูงและระบบป้องกันประเทศ สร้างรายได้ 28,300 ล้านดอลลาร์ในปี 2024 ประการที่สอง Pratt & Whitney ซึ่งเป็นผู้นำด้านเครื่องยนต์และระบบพลังงานอากาศยานสร้างรายได้ 28,100 ล้านดอลลาร์ในปี 2024และสุดท้าย Raytheon ซึ่งมุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีการป้องกันประเทศรวมถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์ มีส่วนสนับสนุน 26,700 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว

ด้วยการกระจายรายได้ที่เกือบจะเท่าเทียมกันในทุกแผนก RTX จึงเป็นบริษัทอุตสาหกรรมที่มีความสมดุลดี แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุด แต่ RTX ยังให้บริการพันธมิตรระดับโลก เช่น โปแลนด์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น จึงช่วยเสริมสร้างความเกี่ยวข้องทางภูมิรัฐศาสตร์ของบริษัท

หุ้นมีกำไรเพิ่มขึ้นเกือบ 40% ในปีที่ผ่านมา และปัจจุบันซื้อขายที่ 25 เท่าของประมาณการกำไรปี 2025 ซึ่งสูงกว่าค่า P/E ล่วงหน้าของ S&P 500 ที่ 21.5 เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มีราคาสูงเกินไปเมื่อพิจารณาจากขนาดและความเสถียรของบริษัท

RTX ยังดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการรับผลตอบแทนจากเงินปันผลอีกด้วย โดยให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 1.8%ซึ่งสูงกว่า S&P 500 เพียงเล็กน้อยที่ 1.3% แต่สิ่งที่โดดเด่นอย่างแท้จริงคือการเติบโตของเงินปันผล ด้วยการเพิ่มขึ้นของเงินปันผลติดต่อกัน 32 ปี RTX จึงได้รับตำแหน่งในกลุ่ม Dividend Aristocrats ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างยาวนานในการคืนมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น