AIPAC ผู้มีอิทธิพลเบื้องหลังการเมืองสหรัฐ


American Israel Public Affairs Committee (AIPAC) หรือคณะกรรมการกิจการสาธารณะอเมริกัน-อิสราเอล เป็นหนึ่งในกลุ่มล็อบบี้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่ออิสราเอลในสภานิติบัญญัติและฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ AIPAC ก่อตั้งขึ้นในปี 1954 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสหรัฐฯ และอิสราเอล ผ่านการสนับสนุนด้านการเงินและการล็อบบี้ทางการเมือง อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานของ AIPAC ได้จุดประกายความไม่ไว้วางใจในหมู่ชาวอเมริกันบางกลุ่มที่เชื่อว่าอิทธิพลของกลุ่มนี้ทำให้อิสราเอลมีอำนาจควบคุมนโยบายของนักการเมืองสหรัฐมากเกินไป บทความนี้จะสำรวจบทบาทของ AIPAC และเหตุผลที่นำไปสู่ความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของอิสราเอลในระบบการเมืองสหรัฐ
AIPAC คืออะไร และทำงานอย่างไร

AIPAC เป็นองค์กรที่อ้างว่ามีสมาชิกมากกว่า 5 ล้านคนทั่วสหรัฐฯ และมีงบประมาณการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง จากงบประมาณเพียง 3 แสนดอลลาร์ในปี 1973 เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 7 ล้านดอลลาร์ในช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดในยุค 1980s กลุ่มนี้มีสำนักงานภูมิภาค 17 แห่งและมีเครือข่ายผู้บริจาคจำนวนมาก ซึ่งช่วยให้สามารถระดมทุนและสนับสนุนนักการเมืองที่สนับสนุนนโยบายที่เป็นมิตรต่ออิสราเอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
AIPAC ไม่เพียงแต่ล็อบบี้สภาคองเกรสเพื่อสนับสนุนความช่วยเหลือด้านการเงินและการทหารแก่อิสราเอลเท่านั้น แต่ยังจัดตั้ง Political Action Committee (PAC) และ Super PAC อย่าง United Democracy Project (UDP) เพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินโดยตรงแก่นักการเมืองที่สอดคล้องกับเป้าหมายของกลุ่ม ในรอบการเลือกตั้งปี 2023-2024 AIPAC และ PAC ที่เกี่ยวข้องใช้เงินกว่า 45 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนผู้สมัครที่สนับสนุนอิสราเอลหรือต่อต้านผู้สมัครที่มีท่าทีสนับสนุนปาเลสไตน์ การสนับสนุนนี้ครอบคลุมทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ซึ่งแสดงถึงลักษณะที่เป็น "สองพรรค" (bipartisan) ของ AIPAC

ตัวอย่างที่เด่นชัดของอิทธิพลของ AIPAC คือการเลือกตั้งในปี 2024 ซึ่งกลุ่มนี้ใช้เงิน 8.5 ล้านดอลลาร์เพื่อเอาชนะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร Cori Bush ผู้สนับสนุนสิทธิปาเลสไตน์ในรัฐมิสซูรี และยังประสบความสำเร็จในการต่อต้านผู้สมัครที่มีท่าทีวิพากษ์วิจารณ์อิสราเอล เช่น Andy Levin และ Marie Newman การเคลื่อนไหวเหล่านี้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับอิทธิพลของเงินในการเมืองสหรัฐและการที่กลุ่มล็อบบี้สามารถกำหนดผลการเลือกตั้งได้

ภาพประกอบ -ไม่ว่าชาวอเมริกาจะเลือกพรรคไหนก็ได้ AIPAC หมด

ความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของ AIPAC มีรากฐานมาจากความรู้สึกว่ากลุ่มนี้มีอำนาจมากเกินไปในการกำหนดนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลและปาเลสไตน์ นักวิจารณ์มองว่า AIPAC ใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อ "ซื้อ" ความภักดีของนักการเมือง ทำให้เกิดการรับรู้ว่านักการเมืองสหรัฐบางคนอาจให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของอิสราเอลมากกว่าผลประโยชน์ของสหรัฐหรือความต้องการของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
การใช้เงินในการเลือกตั้ง: AIPAC และ PAC ที่เกี่ยวข้อง เช่น UDP ใช้เงินจำนวนมากในการเลือกตั้งเพื่อสนับสนุนผู้สมัครที่เห็นด้วยกับนโยบายของอิสราเอลและต่อต้านผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์การกระทำของอิสราเอล เช่น การรุกรานในกาซา การสำรวจจาก OpenSecrets ระบุว่าในรอบการเลือกตั้งปี 2024 AIPAC ใช้เงินกว่า 51.8 ล้านดอลลาร์ในด้านการบริจาคและ 37.8 ล้านดอลลาร์ในด้านการใช้จ่ายนอกเหนือจากการบริจาคโดยตรง การใช้เงินในลักษณะนี้ทำให้เกิดข้อกล่าวหาว่า AIPAC พยายาม "ควบคุม" ผลการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งที่ผู้สมัครฝ่ายก้าวหน้า (progressive) มีแนวโน้มที่จะได้รับเลือก

นักวิจารณ์บางคน เช่น John Mearsheimer และ Stephen Walt ผู้เขียน The Israel Lobby and U.S. Foreign Policy อ้างว่า AIPAC ทำหน้าที่เหมือนตัวแทนของรัฐบาลอิสราเอล โดยมีอิทธิพลต่อนโยบายต่างประเทศของสหรัฐในลักษณะที่อาจขัดแย้งกับผลประโยชน์ของชาติ ความกังวลนี้รุนแรงขึ้นเมื่อมีการเปิดเผยว่า AIPAC ได้รับเงินบริจาคจากผู้บริจาคที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มอนุรักษ์นิยมและกลุ่มที่สนับสนุนนโยบายที่แข็งกร้าวต่ออิสราเอล เช่น Paul E. Singer Foundation และ Charles and Lynn Schusterman Family Foundation การที่เงินจากผู้บริจาครีพับลิกันถูกใช้ในเขตเลือกตั้งเดโมแครตยังก่อให้เกิดความโกรธในหมู่ฝ่ายก้าวหน้า ซึ่งมองว่าเป็นการแทรกแซงจากฝ่ายขวาในกระบวนการเลือกตั้งของพรรคเดโมแครต

ความไม่ไว้วางใจต่อ AIPAC ยังเพิ่มขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงในทัศนคติของชาวอเมริกัน โดยเฉพาะในกลุ่มเดโมแครตและคนรุ่นใหม่ การสำรวจโดย Data for Progress ในเดือนพฤษภาคม 2024 พบว่า 56% ของผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตเชื่อว่าอิสราเอลกำลังก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา และ 86% สนับสนุนการหยุดยิงและการถอนทหารอิสราเอลออกจากกาซา การที่ AIPAC ยังคงสนับสนุนนโยบายที่ให้การสนับสนุนอิสราเอลอย่างไม่มีเงื่อนไข ทำให้เกิดความรู้สึกว่ากลุ่มนี้ไม่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะในประเด็นสิทธิมนุษยชนและการยุติความรุนแรงในกาซา

Ted Cruz วุฒิสมาชิกสหรัฐจากรัฐเท็กซัส เมื่อถูกถามถึงเรื่อง AIPAC
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

AIPAC ถูกกล่าวหาว่าพุ่งเป้าไปที่นักการเมืองที่มีท่าทีสนับสนุนปาเลสไตน์หรือวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของอิสราเอล เช่น Ilhan Omar, Rashida Tlaib และ Bernie Sanders แม้ว่าผู้สมัครบางคนจะรอดพ้นจากการโจมตีของ AIPAC ได้ แต่หลายคนยอมจำนนต่อแรงกดดันและปรับท่าทีให้สอดคล้องกับกลุ่มนี้ การกระทำนี้ถูกมองว่าเป็นการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ และบางครั้งถูกกล่าวหาว่าเป็นการใช้กลยุทธ์ "ต่อต้านยิว" (anti-Semitism) เพื่อปิดปากนักวิจารณ์

ความไม่ไว้วางใจต่อ AIPAC ได้นำไปสู่การเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านอิทธิพลของกลุ่มนี้ ตัวอย่างเช่น ในปี 2024 กลุ่มฝ่ายก้าวหน้ากว่า 20 กลุ่ม รวมถึง Justice Democrats ได้จัดตั้งแนวร่วม "Reject AIPAC" เพื่อต่อสู้กับการที่ AIPAC พยายามปิดกั้นการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของอิสราเอลในสภาคองเกรส แนวร่วมนี้เรียกร้องให้นักการเมืองปฏิเสธการสนับสนุนจาก AIPAC และให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนนโยบายที่เคารพสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ


แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  การเมือง รัฐศาสตร์ การเมืองต่างประเทศ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่