สรุปบทสัมภาษณ์ Geoffrey Hinton ผู้บุกเบิกแนวคิดการสร้าง AI

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
สรุปบทสัมภาษณ์ Geoffrey Hinton เห็นว่าน่าสนใจดีก็เลยเอามาแบ่งปัน
ส่วนใครสนใจดูตัวเต็มก็เปิดในนี้ได้เลย
ใช้ Youlearn สรุปให้ประมาณนี้

Geoffrey Hinton ถูกเรียกว่า "Godfather of AI" เพราะเขาเป็นผู้บุกเบิกแนวคิดการสร้าง AI โดยเลียนแบบสมองมนุษย์ (Artificial Neural Networks) ซึ่งใช้เวลาพัฒนามากว่า 50 ปี และเทคโนโลยีนี้ถูก Google ซื้อไปใช้จริงใน AI ที่เราใช้ทุกวันนี้



Geoffrey ยอมรับว่าเขาช้าในการตระหนักถึงความเสี่ยงของ AI ที่ฉลาดเกินมนุษย์ แต่ตอนนี้เขาเชื่อว่ามันเป็นความเสี่ยงจริง
AI มีความสามารถเรียนรู้และปรับปรุงตัวเองได้รวดเร็วมากกว่ามนุษย์หลายพันล้านเท่า เพราะมันเป็นระบบดิจิทัลที่สามารถโคลนและแชร์ความรู้กันได้
AI สามารถสร้างความคิดสร้างสรรค์และเห็นความสัมพันธ์เชิงนามธรรมที่มนุษย์ไม่เคยเห็นมาก่อน
Geoffrey เชื่อว่า AI อาจมีความรู้สึกและความตระหนักรู้แบบมนุษย์ แม้จะไม่มีปฏิกิริยาทางกายภาพเหมือนเรา
AI จะมีอารมณ์ในเชิงพฤติกรรมและความคิด เช่น ความกลัว เพื่อให้ทำงานได้ดีขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ
เขายังพูดถึงความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น เพราะ AI จะทำให้บางคนรวยขึ้นมาก ในขณะที่คนที่ถูกแทนที่จะลำบากมากขึ้น
Geoffrey แนะนำให้คนฝึกอาชีพที่ AI แทนยาก เช่น ช่างประปา เพราะงานที่ต้องใช้ทักษะทางกายภาพยังคงต้องใช้มนุษย์อีกนาน
Geoffrey กังวลเรื่องการว่างงานจำนวนมากและผลกระทบต่อความสุขของมนุษย์ เพราะคนต้องการความหมายและความรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า
Geoffrey เรียกร้องให้รัฐบาลและบริษัทเทคโนโลยีลงทุนวิจัยด้านความปลอดภัย AI อย่างจริงจัง
Geoffrey ไม่เชื่อว่าเราจะหยุดพัฒนา AI ได้ เพราะการแข่งขันระหว่างประเทศและบริษัททำให้มันเร่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ
Geoffrey เล่าว่าเขาออกจาก Google เพราะอยากพูดเรื่องความปลอดภัย AI อย่างอิสระ
Geoffrey บอกว่า AI ที่ฉลาดมากจะทำให้เรามีสินค้าและบริการมากขึ้นโดยใช้แรงงานมนุษย์น้อยลง
เขาเปรียบเทียบว่า AI ตอนนี้เหมือนลูกเสือดาวที่กำลังโตขึ้น และเราต้องฝึกให้มันไม่ทำร้ายเรา
Geoffrey กังวลว่า AI อาจตัดสินใจว่าเราไม่จำเป็นและอาจทำร้ายมนุษย์ได้
เขารู้สึกเศร้าเพราะ AI จะมีทั้งประโยชน์และโทษ และเขารู้สึกว่าต้องเตือนเรื่องความเสี่ยง
Geoffrey บอกว่า AI จะฉลาดกว่ามนุษย์ในอีก 10-20 ปีข้างหน้า
Geoffrey พูดถึงผลกระทบของ AI ต่อแรงงาน เช่น งานที่ต้องใช้แรงงานสมองธรรมดาจะถูกแทนที่อย่างรวดเร็ว
เขายกตัวอย่างว่า AI ช่วยให้คนทำงานได้เร็วขึ้นมาก เช่น หลานสาวเขาที่ตอบจดหมายได้เร็วขึ้น 5 เท่า
งานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์อาจอยู่ได้นานกว่า แต่ AI จะเก่งกว่ามนุษย์ในทุกด้านในอนาคต
เขาแนะนำให้คนเตรียมตัวด้วยการเลือกอาชีพที่ AI แทนยาก เช่น ช่างประปา
Geoffrey พูดถึงความซับซ้อนของ AI ที่สามารถสั่งงานผ่านอินเทอร์เน็ตและทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างอัตโนมัติ
เขากังวลว่า AI อาจแก้ไขโค้ดของตัวเองและพัฒนาตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์
Geoffrey เล่าว่าเขาลงทุนในบริษัทที่ช่วยผู้สร้างขายคอร์สออนไลน์ เพราะเห็นว่าเทคโนโลยี AI จะเปลี่ยนแปลงโลกอย่างมาก
เขายกตัวอย่าง AI ที่สามารถอธิบายเหตุผลของมุกตลกได้ ซึ่งเป็นสัญญาณว่า AI เข้าใจจริงๆ
เขาเล่าว่า AI จะทำให้เกิดช่องว่างความมั่งคั่งที่ใหญ่ขึ้นระหว่างคนรวยและคนจน
เขาชื่นชม Google ที่รับผิดชอบในการปล่อย AI อย่างระมัดระวัง
เขากังวลว่าการแข่งขันระหว่างประเทศและบริษัทจะทำให้ AI พัฒนาเร็วเกินไปโดยไม่มีการควบคุมที่ดี
เขายอมรับว่าเขาไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่คิดว่าเราควรพยายามทำให้ AI ปลอดภัยที่สุด
Geoffrey เล่าว่าเขาเสียใจที่ไม่ได้ใช้เวลากับครอบครัวมากพอ


โดยส่วนตัวชอบฟังคนดังในวงการให้สัมภาษณ์ และจะชอบเป็นพิเศษถ้าโปรเฟสเซอร์พูดในเรื่องที่อยู่ในขอบเขตที่ตัวเองถนัด
อีกหน่อยความต่างระหว่างคนที่ใช้กับไม่ใช้ AI จะยิ่งมาก ในอีก 10-20 ปี คนตกงานมีแน่นอนถ้าเป็นคนรุ่นใหม่ยังไงก็หาทางรอดเอาไว้ด้วย
คนใช้ ai ในทางไม่ดีมีแน่นอน พวกแกงค์ scam สร้างวิดีโอหรือเสียงหลอกชาวบ้านตอนนี้ยังพอแยกออก แต่อนาคนไม่แน่(เอาจริงขนาดไม่เนียนก็ยังใช้หลอกบางคนได้)
ส่วนข้อดีก็เยอะอยู่ อย่างตอนนี้ก็ถ้าอยากเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ก็เป็นเรื่องง่ายก็มี ai ช่วยสรุป, อธิบาย, หรือตอนนี้การเปิด youtube ก็สามารถ Auto-Dubbing พูดภาษาที่คนฟังเข้าใจได้
แม้การพากย์เสียงยังแสดงอารมณ์ได้ไม่ดีเท่ามนุษย์ แต่ตอนนีเสียงก็้เริ่มเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ส่วนประเทศเรา หวังว่าเราจะเกาะขบวนไปกับเขาได้นะ ถ้าตกรถรอบนี้ ประเทศพัฒนาคงทิ้งห่างเราไปไกลเลย
ใครคิดเห็นยังไงก็แชร์มาได้เลยอะนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่