ความคิดเห็นส่วนตัวจากการสังเกตการเล่นของทีมไทยที่ผ่านมา

กระทู้สนทนา
ช่วงหลังๆ มานี้ ผมไม่ได้มีเวลาเฝ้าจอเชียร์วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยมากเท่าเมื่อก่อน เพราะมีภาระส่วนตัว แต่เมื่อไหร่ที่มีเวลาว่าง ผมก็ไม่เคยลังเลที่จะเปิดดู แต่ทุกครั้งที่ได้ดู กลับรู้สึกเหมือนดูหนังม้วนเก่า ที่เนื้อเรื่องไม่เคยเปลี่ยน และตอนจบก็เดาได้ตั้งแต่ต้น

การกลับมาของ “โค้ชอ๊อต” ที่เคยเป็นไอดอลของแฟนวอลเลย์บอลไทย กลับไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย สิ่งที่เคยเป็นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ยังคงเป็นแบบนั้นเป๊ะ ทั้งแนวคิด วิธีการ การวางทีม และการบริหารจัดการในสนาม ไม่มีอะไรอัปเดต ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นอกจากเวลาที่เปลี่ยนไป และโลกวอลเลย์บอลที่วิ่งแซงเราไปไกลแล้ว

รูปแบบการเล่นของทีมตอนนี้ดูไร้ทิศทางและไม่มีระบบชัดเจน อาศัยแค่ “ใครช่วยได้ก็ช่วยกันไป” เหมือนยุคเจ็ดเซียน แต่ลืมไปว่านักกีฬาชุดนี้ไม่ใช่เจ็ดเซียนที่มองตาก็รู้ใจ ยุคนี้ต้องพึ่งระบบ ไม่ใช่โชคช่วยหรือพรสวรรค์ล้วนๆ แต่สิ่งที่เห็นกลับคือความสับสน รับบอลแล้วเกี่ยงกัน รับแล้วไม่มั่นใจ สุดท้ายเสียแต้มแบบไม่น่าเสีย

ในระดับโลก การเสิร์ฟคืออาวุธ แต่ของทีมไทยหลายคนกลับเสิร์ฟเหมือนแค่ส่งบอลข้ามให้คู่ต่อสู้เริ่มเกม บางลูกเบาเหมือนปลายเล็บสะกิด บางคนโยนติดเน็ต โยนออกข้าง โยนเลยเส้นหลัง ราวกับไม่เคยได้รับการฝึกขั้นพื้นฐาน ขอยกเว้นไว้เพียงไม่กี่คนเช่น ออมสิน, โมเม, บีม, ไก่ ที่ยังเห็นได้ถึงความตั้งใจในการกดดันคู่แข่งผ่านการเสิร์ฟ

โลกวอลเลย์บอลไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป ยุโรปไม่ได้ช้าและทื่อเหมือนเมื่อก่อน นักกีฬาระดับโลกสูงแต่ขยับตัวเร็ว เล่นได้ครบเครื่อง แต่ทีมไทยกลับยังมุ่งสร้างผู้เล่นเตี้ยเพื่อสู้กับคนตัวสูง ทั้งที่ไม่ใช่ทุกคนจะรับดีแบบญี่ปุ่น แล้วถ้าเกมรับก็ไม่ได้ดีโดดเด่นมาก จะเอาอะไรไปสู้ ตรรกะของการเลือกตัวมันย้อนแย้งไปหมด

สิ่งที่น่าหนักใจกว่าคือ โค้ชให้สัมภาษณ์ที่ฟังแล้วไม่เหมาะสมกับภาพลักษณ์ของทีมชาติ ก่อนการแข่งขันเดินทางไปแข่งขันสนามแรก พอผลงานออกมาแย่จริง น่าจะต้องเตรียมรับแรงกระแทกจากโลกออนไลน์เอาไว้มากๆ

และนี่คือคำฝากถึงตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในสนาม กัปตันทีม ถ้าลงสนามแล้วทีมแพ้เหมือนเป็นตัวถ่วง, ถ้าไม่สามารถปลุกใจทีม, ถ้าไม่มีความฮึกเหิมหรือพลังนำอะไรเลย แล้วจะเรียกว่า “กัปตัน” ได้ไง ยิ่งเห็นน้ำตาคลอก่อนใคร ร้องไห้ก่อนเพื่อน มันไม่ใช่ภาพที่ส่งเสริมสภาพจิตใจของทีมเลย การเป็นกัปตันไม่ใช่ตำแหน่งทางเทคนิค แต่มันคือบทบาทของจิตใจ ถ้าคุณไม่มีพลังนั้นจริงๆ ก็ควรถอยให้คนอื่นที่เหมาะสมกว่า อย่าปล่อยให้ทั้งทีมต้องแบกรับพลังลบในสนามที่ความมั่นใจเป็นเรื่องสำคัญที่สุด


สุดท้าย

ผมไม่ได้ต้องการด่าหรือเหยียบย่ำใครเป็นการส่วนตัว แต่ถ้ายังยึดแนวคิดเดิม วางตัวเดิม เล่นแบบเดิม คิดแบบเดิม ทีมชุดนี้อาจไม่แค่แพ้ แต่ ตกชั้นแบบหมดศักดิ์ศรี และคำว่า “รักทีมไทย” อาจกลายเป็นเพียงความหลังของแฟนวอลเลย์บอลหลายๆ คนเท่านั้น และผมก็ยังคงหวังว่าทีมไทยจะยังมีโอกาสได้เล่น  VNL 2026 ต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่