ดุสิตโพล ชี้ คนสนใจเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 แต่ไม่เชื่อมั่นรัฐบาลส่งเสริมท่องเที่ยว
.
.
สวนดุสิตโพล ชี้ คนยังพอมีเงินพอเที่ยวครึ่งปีหลัง แต่ต้องประหยัดมากขึ้น สนใจลงทะเบียนเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 แต่ไม่เชื่อมั่นรัฐบาลจัดการ-ส่งเสริมท่องเที่ยว
.
วันที่ 22 มิถุนายน 2568 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับการท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,189 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 17-20 มิถุนายน 2568 มีผลเป็นดังนี้
.
จากสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพในปัจจุบัน ประชาชนยังมีเงินพอสำหรับท่องเที่ยวหรือไม่
ร้อยละ 43.48 ยังพอมีเงินพอเที่ยวได้บ้าง แต่ต้องประหยัดมากขึ้น
ร้อยละ 26.91 มีเงินไม่พอเที่ยวเลย หรือต้องงดเที่ยวไปก่อน
ร้อยละ 17.16 ยังมีเงินพอเที่ยวได้ตามปกติ
ร้อยละ 12.45 ไม่แน่ใจ / ยังไม่มีแผน
.
นอกจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจแล้ว ปัจจัยใดที่มีผลต่อการตัดสินใจท่องเที่ยวของประชาชนมากที่สุด
ร้อยละ 62.83 โรคระบาดต่างๆ และปัญหาสุขภาพ
ร้อยละ 58.40 สภาพอากาศและภัยธรรมชาติ
ร้อยละ 42.03 ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
.
โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 เปิดให้ลงทะเบียนในมิถุนายนนี้ ประชาชนสนใจจะเข้าร่วมหรือไม่
ร้อยละ 73.68 สนใจ
ร้อยละ 26.32 ไม่สนใจ
.
ในคำถามว่า หากประชาชนมีแผนเที่ยวครึ่งปีหลัง 2568 (กรกฎาคม - ธันวาคม) ตั้งใจจะไปเที่ยวแบบใด
ร้อยละ 59.48 เที่ยวในประเทศ
ร้อยละ 32.22 เที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ร้อยละ 8.30 เที่ยวต่างประเทศ
.
ทางด้านคำถามประชาชนสนใจการท่องเที่ยวประเภทใดมากที่สุด
ร้อยละ 63.98 ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ผจญภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ร้อยละ 54.83 ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ เรียนรู้วิถีชีวิตท้องถิ่น
ร้อยละ 48.56 ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ เวลเนส พักผ่อนหย่อนใจในโรงแรม รีสอร์ต
ขณะที่เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นในการจัดการและส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลชุดปัจจุบันมากน้อยเพียงใด
ร้อยละ 57.53 ไม่เชื่อมั่น
ร้อยละ 42.47 เชื่อมั่น
.
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า การท่องเที่ยวไทยยังพอมีแรงขับเคลื่อน แม้อยู่ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่ตึงตัวและรายจ่ายที่ต้องรัดเข็มขัด แต่คนไทยยังไม่ละทิ้งการเดินทาง เพราะการท่องเที่ยวนั้นช่วยคลายความเครียดจากชีวิตประจำวันที่หนักหน่วง หากรัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนที่ตรงจุดและตอบโจทย์จริง โอกาสฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังพอมีให้จับต้องได้ แม้ประชาชนจะยังไม่เชื่อมั่นต่อบทบาทของรัฐบาลในด้านการท่องเที่ยวก็ตาม
.
ทางด้าน ผศ.ดร.พิมพ์มาดา วิชาศิลป์ คณบดีโรงเรียนการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า จากผลสวนดุสิตโพล พบว่า คนไทยกว่า 70% ยังต้องจำกัดงบประมาณในการท่องเที่ยว สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเดือนมิถุนายน 2568 ที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คาดการณ์ว่าจะเติบโตเพียง 1.5-2.0% ซึ่งเศรษฐกิจที่ชะลอตัวกระทบกำลังซื้อโดยตรง ทำให้การท่องเที่ยวกลายเป็นกิจกรรมที่ต้องวางแผนอย่างระมัดระวัง นอกจากนั้น โรคระบาดและภัยธรรมชาติยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ประชาชนพิจารณาก่อนการเดินทาง
.
ส่วนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 ได้รับความสนใจจากประชาชนกว่า 73% บ่งบอกว่าประชาชนมีความหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อนโยบายมีผลต่อความสำเร็จของมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว การวางแผนนโยบายควรเน้นความต่อเนื่องและตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน ขณะเดียวกัน การมีข้อมูลที่เปิดเผยและการประเมินผลโครงการอย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและประสิทธิภาพของการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย
.
.
ผู้ตรวจการแผ่นดินยุติหาข้อเท็จจริงกรณีสปายแวร์เพกาซัส หลังศาลปกครองรับคำฟ้อง
.
iLaw เผยผู้ตรวจการแผ่นดินยุติการแสวงหาข้อเท็จจริงเรื่องการใช้สปายแวร์เพกาซัส หลังศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณา การยุติการพิจารณาครั้งนี้เป็นไปตามมาตรา 37 (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560 ที่ห้ามมิให้ผู้ตรวจการแผ่นดินรับเรื่องที่เป็นคดีอยู่ในศาลไว้พิจารณา
.
22 มิถุนายน 2568 เพจ
iLaw รายงานว่า เมื่อ 6 มิถุนายน 2568 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีคำวินิจฉัยยุติเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสปายแวร์เพกาซัส (Pegasus Spyware) โดยหน่วยงานภาครัฐของไทย โดยให้เหตุผลว่า เรื่องดังกล่าวได้ถูกฟ้องร้องเป็นคดี และศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณา การยุติการพิจารณาครั้งนี้เป็นไปตามมาตรา 37 (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560 ที่ห้ามมิให้ผู้ตรวจการแผ่นดินรับเรื่องที่เป็นคดีอยู่ในศาลไว้พิจารณา
.
อย่างไรก็ดี มาตรา 37 (2) ยังมีข้อยกเว้นให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาเรื่องร้องเรียนต่อไปได้ถ้าเป็นการศึกษาเพื่อประโยชน์ในการเสนอแนะให้มีการปรับปรุงกฎหมายหรือกฎที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม แต่ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ได้ใช้เงื่อนไขนี้เพื่อศึกษาข้อมูลเรื่องการใช้สปายแวร์เจาะข้อมูลในโทรศัพท์มือถือให้ชัดเจนและโปร่งใสมากขึ้น
.
คำร้องฉบับนี้เริ่มจากเหยื่อจากการใช้สปายแวร์เพกาซัส ยื่นเรื่องต่อกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ (กมธ.ความมั่นคงฯ) ซึ่งมีรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ประธาน เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 และในวันที่ 1 สิงหาคม 2567 กมธ.ความมั่นคงฯ ได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงหลายแห่ง รวมทั้งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจัก (กอ.รมน.) เข้ามาชี้แจงเรื่องการใช้สปายแวร์เพกาซัสเพื่อเข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมืองและประชาชน
.
ต่อมา ทางกมธ.ความมั่นคงฯ ได้ทำหนังสือขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินสืบหาข้อเท็จจริงกรณีที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร, สำนักข่าวกรองแห่งชาติ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, กองทัพบก, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ, กระทรวงการคลัง, คณะกรรมการกำกับดูแลด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ มีการใช้เทคโนโลยีเพกาซัสสปายแวร์ และสอบถามไปยังผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ตรวจสอบว่ามีการจัดซื้อจัดจ้างหรือใช้งบประมาณแผ่นดินสำหรับเพกาซัสสปายแวร์ในหน่วยงานใดหรือไม่
การวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินครั้งนี้ ถือเป็นการส่งไม้ต่อให้ศาลปกครองได้พิจารณาอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม คำถามเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและใช้งบประมาณแผ่นดินสำหรับเพกาซัสสปายแวร์ รวมถึงความรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ และยังไม่ชัดเจนว่า กระบวนการของศาลปกครองสูงสุดจะมีแนวทางในการแสวงหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ได้มากน้อยเพียงใด
.
สำหรับคดีในศาลปกครอง ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการ iLaw และอานนท์ นำภา ผู้ตรวจพบว่าโทรศัพท์ถูกเจาะระบบโดยสปายแวร์เพกาซัส เป็นโจทก์ยื่นฟ้องหน่วยงานของรัฐตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2566 แต่ศาลปกครองใช้เวลาไปเกือบสองปีเต็ม จนวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 เพิ่งสั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณา และสั่งให้ส่งสำเนาคำฟ้องให้กับหน่วยงานของรัฐทั้งเก้าแห่งที่ถูกฟ้อง จนถึงเดือนมิถุนายน 2568 มีหน่วยงานของรัฐอย่างน้อยสองแห่ง คือ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ทำคำให้การยื่นต่อศาลแล้ว โดยทั้งสองแห่งปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับการใช้สปายแวร์ต่อผู้ฟ้องคดีทั้งสอง
.
กระบวนการหลังจากนี้เมื่อหน่วยงานของรัฐทั้งเก้าแห่งที่ถูกยื่นฟ้องส่งคำให้การครบแล้ว ผู้ฟ้องคดียังมีโอกาสยื่นคำคัดค้านคำให้การรอบใหม่อีก และคาดว่าศาลปกครองอาจใช้เวลาพิจารณาคดีนี้อีกนานกว่าสองปี
.
.
.
การเมืองร้อน ดันเงินบาทอ่อนค่า ราคาทองพุ่ง ผู้ค้าบ่นอุบ ซื้อขาย ‘ทองรูปพรรณ’ ซึมหนัก
.
การเมืองร้อน ดันเงินบาทอ่อนค่า ราคาทองพุ่ง ผู้ค้าบ่นอุบ ซื้อขาย ‘ทองรูปพรรณ’ ซึมหนัก
.
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า สถานการณ์ความร้อนแรงของการเมืองไทยในปัจจุบัน มีผลต่อค่าเงินบาทให้อ่อนค่า ถือว่ามีผลกระทบทางอ้อมเล็กน้อยต่อราคาทอง ทำให้ราคาทองในช่วงนี้จะขึ้นๆลงๆ และมีราคาแพง จึงทำให้การซื้อขายหน้าร้านไม่คึกคัก โดยเฉพาะทองรูปพรรณที่ขายออกยาก ประกอบกับคนไม่มีกำลังซื้อ กระทบยอดขายลดลงไปมากกว่า 50% แต่การทองคำแท่งยังมีการซื้อขายเพราะเป็นการซื้อเพื่อลงทุน แต่ก็ไม่ค่อยคึกคัก
.
“ส่วนค่าแรง 400 บาทที่จะปรับขึ้นวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ไม่กระทบต่อร้านทอง เพราะจ่ายสูงค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว ขณะที่ช่างทองจะทำเป็นชิ้นๆ” นายจิตติกล่าว
.
สำหรับราคาทองคำวันที่ 21 มิถุนายน 2568 ปรับขึ้นครั้งเดียว 150 บาท ทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 53,050 บาท รับซื้อบาทละ 51,104.36 บาท ทองแท่ง ขายออกบาทละ 52,250 บาท รับซื้อบาทละ 52,150 บาท ส่วนทองคำโลกอยู่ที่ 3,385.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยยังได้รับปัจจัยกดดันจากแรงเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังนาย
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศชะลอการเข้าร่วมโจมตีอิหร่าน และยังกังวลการสู้รบระหว่างอิสราเอลและอิหร่านจะยืดเยื้อ.
JJNY : ไม่เชื่อมั่นรัฐบาลส่งเสริมท่องเที่ยว│ผู้ตรวจการแผ่นดินยุติหาข้อเท็จจริง│เงินบาทอ่อนทองพุ่ง│รถมันช่องจอมห่วงเพื่อน
ร้อยละ 26.91 มีเงินไม่พอเที่ยวเลย หรือต้องงดเที่ยวไปก่อน
ร้อยละ 17.16 ยังมีเงินพอเที่ยวได้ตามปกติ
ร้อยละ 12.45 ไม่แน่ใจ / ยังไม่มีแผน
ร้อยละ 58.40 สภาพอากาศและภัยธรรมชาติ
ร้อยละ 42.03 ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ร้อยละ 26.32 ไม่สนใจ
ร้อยละ 32.22 เที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ร้อยละ 8.30 เที่ยวต่างประเทศ
ร้อยละ 54.83 ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ เรียนรู้วิถีชีวิตท้องถิ่น
ร้อยละ 48.56 ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ เวลเนส พักผ่อนหย่อนใจในโรงแรม รีสอร์ต
ร้อยละ 42.47 เชื่อมั่น