อาจารย์ มธ. ชี้กัมพูชาล้ำเส้นกฎหมายโลก จี้ฝ่ายไทยต้องโต้กลับทางกฎหมาย
https://www.dailynews.co.th/news/4840362/
.
.
นักวิชาการ มธ. เตือนรัฐบาลไทยอย่านิ่งเฉย! ชี้การปล่อยคลิปเสียงนายกฯ และโพสต์ภาพห้อง “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ที่เคยพำนักระหว่างอยู่ที่ประเทศกัมพูชา อาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ จี้รัฐบาลไทยควรเดินเกมรุกทางกฎหมาย
.
จากกรณีการปล่อยคลิปเสียงสนทนาระหว่าง นางสาว
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีประเทศไทย กับ สมเด็จ
ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่าส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อภาพรวมการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงที่กัมพูชากำลังเดินเกมส่งเรื่องข้อพิพาทเข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก อีกทั้ง สมเด็จ
ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยังได้โพสต์ภาพชุดในตอนที่นำ น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร และสามี ชมห้องซึ่ง นาย
ทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยพำนักระหว่างอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้
.
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ดร.
ภัทรพงษ์ แสงไกร” อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์วิเคราะห์ถึงประเด็น “
กัมพูชาล้ำเส้นกฎหมายระหว่างประเทศ ปมคลิปเสียงและโพสต์ภาพ พร้อมเผยรัฐบาลไทยควรเดินเกมรุกทางกฎหมาย” ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “
Phil Saengkrai“
.
โดยดร.
ภัทรพงษ์ ระบุข้อความว่า “
หลังจากเกิดกรณีคลิปเสียงนายกฯ หลุด ตามมาด้วยกรณีท่านฮุนเซนโพสต์ภาพห้อง “ทักษิณ” ห้อง “ยิ่งลักษณ์” ผมคิดว่า ฝ่ายไทยเราต้องเริ่มเล่นเกมรุกทางกฎหมายกับกัมพูชาบ้าง การกระทำลักษณะนี้ของกัมพูชา (ผ่านเจ้าหน้าที่ของรัฐกัมพูชา) ซึ่งน่าจะเกิดซ้ำอีก เข้าข่ายผิดหลักกฎหมายระหว่างประเทศข้อหนึ่ง คือ หลักห้ามก้าวก่าย (non-interference) และอาจจะเข้าข่ายผิดหลักห้ามแทรกแซง (non-intervention) ด้วยหลักห้ามก้าวก่าย (non-interference) ปรากฏในกฎหมายหลายฉบับ ที่ชัดเจนมากๆ คือ ความตกลงระหว่างกัมพูชากับอีก 18 ประเทศรวมทั้งไทย ซึ่งทำขึ้นหลังสงครามในกัมพูชา”
.
อีกทั้ง
“หลักการนี้ห้ามกัมพูชาก้าวก่ายกิจการภายในประเทศ และการต่างประเทศของไทย ไม่ว่าจะรูปแบบใด ไม่ว่าจะด้วยทางตรงหรือทางอ้อม การเผยแพร่คลิปเสียง เพื่อบั่นทอนเสถียรภาพรัฐบาลก็ดี เพื่อทำลายสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพก็ดี เหล่านี้ขัดต่อหลักห้ามก้าวก่ายแน่ๆ ความตกลงฉบับนี้เป็นความตกลงที่ท่านฮุนเซนยกขึ้นมาอ้างเอง ในวันที่ 28 ที่มีการปะทะกัน เป็นส่วนหนึ่งของความตกลงสันติภาพกรุงปารีส ดังนั้น เราจึงอ้างฉบับเดียวกันนี่แหละ ย้อนเกล็ดกลับไปเล่นงานกัมพูชาต่อไป”
.
นอกจากนี้
“หากกัมพูชาใช้คลิปเสียงหรือเครื่องมืออื่นๆ มาแบล็คเมล์หรือบีบบังคับให้รัฐบาลไทย ต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง ทั้งๆ ที่ไทยควรจะมีอำนาจตัดสินใจเองได้ เช่น การเจรจาเรื่องพื้นที่พิพาท การปิดเปิดด่าน การรับแรงงานชาวกัมพูชา การกระทำของกัมพูชาจะเข้าข่ายขัดต่อหลักห้ามแทรกแซง (non-intervention) ด้วยข้อนี้เป็นหลักการทั่วไปในกฎหมายระหว่างประเทศอยู่แล้ว ผลที่ตามมาในทางกฎหมายคือ กัมพูชาต้องเยียวยา เช่น การกล่าวคำขอโทษต่อประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และต้องประกันว่าห้ามทำซ้ำอีก ตรงนี้ ต้องหาทางผูกมัดกัมพูชาให้ได้ เพราะอาจจะมีการปล่อยอะไรออกมาอีก”
.
อย่างไรก็ตาม
“ประเทศไทยเราน่าจะเริ่มออกแถลงการณ์ประณามว่า การกระทำของกัมพูชาเข้าข่ายผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ชิงความได้เปรียบในเกมกฎหมาย เพื่อปูทางไปสู่ความได้เปรียบในเกมศาล ให้ไทยได้ต่อสู้ว่า การที่กัมพูชาจะนำพื้นที่พิพาท 4 จุด ไปสู่ศาลโลก ขาดความชอบธรรม ขาดความสมเหตุสมผลอย่างไรบ้าง หากไปถึงศาลจริงๆ จะได้สู้ว่ากัมพูชา “มือไม่สะอาด” ฟ้องไม่สุจริต หรือถ้าไปถึงขั้นสุดท้ายจริงๆ จะได้ฟ้องแย้งเอากัมพูชามารับผิดในส่วนที่ทำผิดด้วย”
.
ขอบคุณข้อมูล : Phil Saengkrai
https://www.facebook.com/phil.sang/posts/pfbid02c55KhjzaWuAVXUA3bXU1AZCDRPgbb8pdY8rxMvXMz47aJjbMx3317eBmFswGPdo6l
.
.
"สมชัย" ซัดแรง "แพทองธาร" เลยจุดของความสง่างามทางการเมืองไปแล้ว
.
วันที่ 22 มิ.ย.68 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า
.
แพทองธาร เลยจุดของความสง่างามทางการเมืองไปแล้ว
.
นักการเมืองเจนวายที่ชื่อแพทองธาร ชินวัตร พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ามิใช่นักการเมืองรุ่นใหม่ที่เป็นที่ภาคภูมิใจได้อีกต่อไป เมื่อไม่รู้จักแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองเมื่อทำสิ่งผิดพลาดร้ายแรง
.
ในประเทศอารยะ เราจะเห็นภาพนักการเมืองก้มโค้งตัวลงต่ำ กล่าวคำขอโทษ และแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก แม้เป็นกระทำผิดที่สังคมไทยเองอาจรู้สึกน้อยนิด แต่สำหรับเขาคือเรื่องรุนแรง
.
แต่สำหรับแพทองธาร ชินวัตร วันแรก คือ การแก้ตัว วันที่สอง ออกมาน้ำตาคลอขออภัย วันที่สามแสร้งทำกระตือรือล้นออกไปตรวจเยี่ยมและขอโทษแม่ทัพที่พาดพิงว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม
.
ไม่มีการกล่าวขอโทษแบบสำนึกผิดใด ๆ ซ้ำยังประโคมข่าวว่า นี่คือเทคนิคในการเจรจากับกัมพูชาที่ต้องด่าทหารที่ปกป้องอธิปไตยเพื่อให้ได้ใจคู่สนทนา
จนน่าตั้งคำถามว่า วันหนึ่งข้างหน้า หากเธอกำลังเจรจากับคนที่ไม่ชอบทักษิณ เธอพร้อมจะด่าบุพการีของตนว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามหรือไม่
.
จากนี้ จะเป็นการลาออกเพราะพรรคร่วมกดดัน การถูกให้ออกจากการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หรือการถูกไล่ออกจากกลุ่มผู้ชุมนุมประชาชนในทุกพื้นที่ ทุกวัน จนไม่มีที่สาธารณะที่จะกล้าปรากฏตัว ล้วนไม่ใช่ความสง่างามทางการเมือง
.
วันที่ลงจากตำแหน่ง เธอจึงสำนึกว่าเสียงในสภานั้นไม่มีความหมาย เสียงที่สำคัญกว่าคือเสียงของเธอที่พูดคำว่า “ขอโทษและขอลาออก” ซึ่งสายเกินไปที่จะพูดแล้ว
.
ขอบคุณ เฟซบุ๊ก ปั่นไปไหน – สมชัย ศรีสุทธิยากร
.
.
.
เตือนสัปดาห์หน้า “มีคนหยุด – มีคนขึ้น – ม็อบใหญ่ – ปรับ ครม.” เกมการเมืองส่อพลิก!
https://www.dailynews.co.th/news/4840509/
.
"ไพศาล"ฟันเปรี้ยง"อิ๊งค์"" สู้ไม่ถอย! ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตา "นายกฯ พักงาน" จับตาม็อบใหญ่ 1.5 แสนคนครั้งแรกในรอบหลายปี! ทหารคุมเข้มชายแดนด้วยกฎอัยการศึก! เผยคดีร้อนจ่อคิวเพียบ "ยุบพรรค-ทวงที่ดิน" และ "ปรับ ครม." ชี้ชะตาอนาคตประเทศ! พท. ต้องคิดใหม่!.
.
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.68 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมายและอดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองไทยในช่วงสัปดาห์หน้า โดยชี้ว่า
.
เป็นช่วง “หัวเลี้ยวหัวต่อ” ที่จะชี้ชะตาอนาคตประเทศในหลายด้าน โดยเฉพาะบทบาทของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งยังคงยืนยันไม่ลาออก ไม่ยุบสภา แม้จะเผชิญแรงกดดันทางการเมืองอย่างหนัก
.
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการจับตาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะรับคำร้องของกลุ่ม ส.ว.สายน้ำเงินที่ยื่นถอดถอนนายกฯ หรือไม่ และมีโอกาสที่จะสั่ง “หยุดปฏิบัติหน้าที่” ชั่วคราวหรือไม่ หากเกิดกรณีนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี อาจต้องทำหน้าที่ “นายกฯ รักษาการ” แทน
.
ในขณะเดียวกัน กระแสต่อต้านจากภาคประชาชนเริ่มก่อตัวอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการนัดชุมนุมใหญ่ที่คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 150,000 คน ซึ่งนับเป็นม็อบระดับแสนคนครั้งแรกนับตั้งแต่ยุค กปปส. หากสถานการณ์ลุกลาม อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ
.
อีกประเด็นร้อนคือ กองทัพเริ่มมีการใช้ อำนาจกฎอัยการศึก คุมเข้มพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ท่ามกลางความตึงเครียดด้านความมั่นคงจากกรณีพิพาทกับกัมพูชา
.
นอกจากนี้ยังมีคดีการเมืองจ่อคิวรอพิจารณาอีกจำนวนมาก อาทิ
.
• คดีอั้งยี่กลุ่ม ส.ว.
• คดียุบพรรคภูมิใจไทย
• การตรวจสอบที่ดินเขากระโดงกว่า 5,000 ไร่
• การชำแหละโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาที่อาจมีค่าปรับหลายหมื่นล้านบาท
.
รวมถึงการ “ปรับคณะรัฐมนตรี” ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ โดยไพศาลเตือนว่า พรรคเพื่อไทยควรเลือกบุคคลจากความสามารถ ไม่ใช่แค่ “สายเลือด” หรือ “พรรคพวก” มิฉะนั้นอาจกลายเป็นการผลักประเทศเข้าสู่ภาวะวิกฤตซ้ำรอยในอดีต
.
ทั้งหมดนี้ทำให้การเมืองไทยเข้าสู่โหมดตึงเครียดระดับสูง ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าทางการเมืองได้ในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า
.
JJNY : ชี้กัมพูชาล้ำเส้นกฎหมายโลก│"สมชัย"ซัดแรง"แพทองธาร"│เตือนสัปดาห์หน้า เกมการเมืองส่อพลิก!│ธุรกิจสะท้อนการเมืองวุ่น
https://www.dailynews.co.th/news/4840362/
.
นักวิชาการ มธ. เตือนรัฐบาลไทยอย่านิ่งเฉย! ชี้การปล่อยคลิปเสียงนายกฯ และโพสต์ภาพห้อง “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ที่เคยพำนักระหว่างอยู่ที่ประเทศกัมพูชา อาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ จี้รัฐบาลไทยควรเดินเกมรุกทางกฎหมาย
.
จากกรณีการปล่อยคลิปเสียงสนทนาระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีประเทศไทย กับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่าส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อภาพรวมการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงที่กัมพูชากำลังเดินเกมส่งเรื่องข้อพิพาทเข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก อีกทั้ง สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยังได้โพสต์ภาพชุดในตอนที่นำ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และสามี ชมห้องซึ่ง นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยพำนักระหว่างอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้
.
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ดร.ภัทรพงษ์ แสงไกร” อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์วิเคราะห์ถึงประเด็น “กัมพูชาล้ำเส้นกฎหมายระหว่างประเทศ ปมคลิปเสียงและโพสต์ภาพ พร้อมเผยรัฐบาลไทยควรเดินเกมรุกทางกฎหมาย” ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Phil Saengkrai“
.
โดยดร.ภัทรพงษ์ ระบุข้อความว่า “หลังจากเกิดกรณีคลิปเสียงนายกฯ หลุด ตามมาด้วยกรณีท่านฮุนเซนโพสต์ภาพห้อง “ทักษิณ” ห้อง “ยิ่งลักษณ์” ผมคิดว่า ฝ่ายไทยเราต้องเริ่มเล่นเกมรุกทางกฎหมายกับกัมพูชาบ้าง การกระทำลักษณะนี้ของกัมพูชา (ผ่านเจ้าหน้าที่ของรัฐกัมพูชา) ซึ่งน่าจะเกิดซ้ำอีก เข้าข่ายผิดหลักกฎหมายระหว่างประเทศข้อหนึ่ง คือ หลักห้ามก้าวก่าย (non-interference) และอาจจะเข้าข่ายผิดหลักห้ามแทรกแซง (non-intervention) ด้วยหลักห้ามก้าวก่าย (non-interference) ปรากฏในกฎหมายหลายฉบับ ที่ชัดเจนมากๆ คือ ความตกลงระหว่างกัมพูชากับอีก 18 ประเทศรวมทั้งไทย ซึ่งทำขึ้นหลังสงครามในกัมพูชา”
.
อีกทั้ง “หลักการนี้ห้ามกัมพูชาก้าวก่ายกิจการภายในประเทศ และการต่างประเทศของไทย ไม่ว่าจะรูปแบบใด ไม่ว่าจะด้วยทางตรงหรือทางอ้อม การเผยแพร่คลิปเสียง เพื่อบั่นทอนเสถียรภาพรัฐบาลก็ดี เพื่อทำลายสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพก็ดี เหล่านี้ขัดต่อหลักห้ามก้าวก่ายแน่ๆ ความตกลงฉบับนี้เป็นความตกลงที่ท่านฮุนเซนยกขึ้นมาอ้างเอง ในวันที่ 28 ที่มีการปะทะกัน เป็นส่วนหนึ่งของความตกลงสันติภาพกรุงปารีส ดังนั้น เราจึงอ้างฉบับเดียวกันนี่แหละ ย้อนเกล็ดกลับไปเล่นงานกัมพูชาต่อไป”
.
นอกจากนี้ “หากกัมพูชาใช้คลิปเสียงหรือเครื่องมืออื่นๆ มาแบล็คเมล์หรือบีบบังคับให้รัฐบาลไทย ต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง ทั้งๆ ที่ไทยควรจะมีอำนาจตัดสินใจเองได้ เช่น การเจรจาเรื่องพื้นที่พิพาท การปิดเปิดด่าน การรับแรงงานชาวกัมพูชา การกระทำของกัมพูชาจะเข้าข่ายขัดต่อหลักห้ามแทรกแซง (non-intervention) ด้วยข้อนี้เป็นหลักการทั่วไปในกฎหมายระหว่างประเทศอยู่แล้ว ผลที่ตามมาในทางกฎหมายคือ กัมพูชาต้องเยียวยา เช่น การกล่าวคำขอโทษต่อประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และต้องประกันว่าห้ามทำซ้ำอีก ตรงนี้ ต้องหาทางผูกมัดกัมพูชาให้ได้ เพราะอาจจะมีการปล่อยอะไรออกมาอีก”
.
อย่างไรก็ตาม “ประเทศไทยเราน่าจะเริ่มออกแถลงการณ์ประณามว่า การกระทำของกัมพูชาเข้าข่ายผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ชิงความได้เปรียบในเกมกฎหมาย เพื่อปูทางไปสู่ความได้เปรียบในเกมศาล ให้ไทยได้ต่อสู้ว่า การที่กัมพูชาจะนำพื้นที่พิพาท 4 จุด ไปสู่ศาลโลก ขาดความชอบธรรม ขาดความสมเหตุสมผลอย่างไรบ้าง หากไปถึงศาลจริงๆ จะได้สู้ว่ากัมพูชา “มือไม่สะอาด” ฟ้องไม่สุจริต หรือถ้าไปถึงขั้นสุดท้ายจริงๆ จะได้ฟ้องแย้งเอากัมพูชามารับผิดในส่วนที่ทำผิดด้วย”
.
ขอบคุณข้อมูล : Phil Saengkrai
https://www.facebook.com/phil.sang/posts/pfbid02c55KhjzaWuAVXUA3bXU1AZCDRPgbb8pdY8rxMvXMz47aJjbMx3317eBmFswGPdo6l
.
.
.
เตือนสัปดาห์หน้า “มีคนหยุด – มีคนขึ้น – ม็อบใหญ่ – ปรับ ครม.” เกมการเมืองส่อพลิก!
https://www.dailynews.co.th/news/4840509/
.
"ไพศาล"ฟันเปรี้ยง"อิ๊งค์"" สู้ไม่ถอย! ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตา "นายกฯ พักงาน" จับตาม็อบใหญ่ 1.5 แสนคนครั้งแรกในรอบหลายปี! ทหารคุมเข้มชายแดนด้วยกฎอัยการศึก! เผยคดีร้อนจ่อคิวเพียบ "ยุบพรรค-ทวงที่ดิน" และ "ปรับ ครม." ชี้ชะตาอนาคตประเทศ! พท. ต้องคิดใหม่!.
.