สวัสดีเพื่อน ๆ ชาว Pantip ค่ะ!!
💕วันนี้แอดอยากจะมาแชร์ข้อมูลที่
มีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังวางแผน
ไปเที่ยวเกาะเชจู โดยเฉพาะเรื่อง
“การเดินทางรอบเกาะเชจู” ที่เป็น
อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ต้องคิดให้ดีเลย
ก่อนออกเดินทาง 🤔
หลายคนอาจลังเลว่าจะเช่ารถ
ขับเองดีไหม หรือใช้ขนส่งสาธารณะดี?
ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีต่างกันไป
แต่รอบนี้เรามาลอง❄️ ‘ออกเดินทาง
ตะลอนเที่ยวตามชายฝั่งตะวันออก
ของเกาะเชจูโดย City Bus!’ 🚌
ที่ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก!✨
🖖รู้ไหมว่า…ตอนนี้ที่เกาะเชจูสามารถ
จ่ายค่าโดยสารรถบัสผ่าน QR Code
ได้แล้วนะ! คือมันสะดวกมาก
ไม่ต้องพกบัตร ไม่ต้องกังวลเรื่อง
ยอดเงินใน T-money แค่มีแอปก็
ขึ้นรถได้เลย!🐶
โดยรอบนี้เรามาลองเที่ยวเกาะเชจูด้วย
รถบัสสาย 201 และ 101 กันดูดีกว่า
มีทั้งวิวทะเล คาเฟ่น่ารัก ๆ และ
จุดถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ!
ถ้าอยากรู้ว่าจะมีแพลนเที่ยวเด็ด ๆ
ที่ไหนบ้าง เผื่อใครกำลังเตรียมตัวไป
จะได้วางแผนง่ายขึ้น~💦
ก็ตามแอดกันมาได้เลย!!!!!
.
.
.
1️⃣ ควรเลือกนั่งรถบัสสายไหน: สาย 201 หรือสาย 101?
📍ถ้าใครกำลังวางแผนเที่ยว
ชายฝั่งตะวันออกของเกาะเชจู
ที่นี่มีรถบัสหลัก ๆ อยู่ 2 สายให้เลือก
คือ สาย 201 และ สาย 101
โดยแอดจะพาทุกคนไปดูจุดเด่นของ
แต่ละเส้นทาง เพื่อให้ทุกคนได้
เปรียบเทียบและเลือกเส้นทางที่
ตรงใจและเหมาะกับสไตล์ของตัวเอง
ได้ง่ายขึ้น!~🌿
Bus No. 201
🚎 รถบัสสาย 201 เป็นรถบัสประจำทางที่วิ่งเลียบชายฝั่งตะวันออกของเกาะเชจู โดยเริ่มต้นจากสถานีขนส่งเจจูซิตี้ (Jeju City Bus Terminal, 제주시외버스터미널) ไปยังสถานีขนส่งซอกวีโพ (Seogwipo City Bus Terminal, 서귀포시외버스터미널) 🎯 รถบัสสายนี้จะแวะจอดเกือบทุกป้ายระหว่างทาง ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ ไป ✨
จุดเด่น
✅ แวะจอดแทบทุกแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
✅ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเที่ยวแบบไม่เร่งรีบ ใช้เวลาเก็บบรรยากาศ
✅ ค่าโดยสารถูก (1,150 วอน เมื่อจ่ายด้วยบัตร)
จุดด้อย
❌ ไม่จอดที่สนามบินนานาชาติเชจู ต้องต่อรถอีกทีหากเดินทางไปหรือมาจากสนามบิน
😢 ความถี่ของรถค่อนข้างน้อย (ทุก 30 - 80 นาที) เพราะจอดหลายป้าย ทำให้ใช้เวลาเดินทางนาน
Bus No. 101
🚎 รถบัสสาย 101 เป็นอีกหนึ่งสายที่วิ่งเลียบชายฝั่งตะวันออกของเกาะเชจู โดยเชื่อมต่อระหว่างสนามบินนานาชาติเชจู กับเขตนัมวอน-อึบในเมืองซอกวีโพ ถือเป็นเวอร์ชันด่วนของรถบัสสาย 201 เพราะใช้เส้นทางคล้ายกัน แต่วิ่งระยะทางสั้นกว่า และจอดน้อยกว่ามาก💸 แม้ค่ารถจะสูงกว่ารถบัสประจำทางทั่วไปเล็กน้อย แต่สายนี้ช่วยประหยัดเวลาได้เยอะ ขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทางของแต่ละบุคคล
จุดเด่น
✅ จอดที่สนามบินนานาชาติเชจู สะดวกสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางเข้า–ออกจากสนามบิน
✅ แวะจอดน้อยกว่า เดินทางได้เร็วกว่า
จุดด้อย
‼️ ค่ารถแพงกว่ารถบัสทั่วไปเล็กน้อย (ประมาณ 2,000 วอน เมื่อจ่ายด้วยบัตร / ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง
😢 รถอาจไม่จอดที่จุดหมายที่คุณต้องการ
หมายเหตุ:
***ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2024 เป็นต้นไป
เกาะเชจูได้ประกาศใช้ระบบรถบัสไร้เงินสด
อย่างเป็นทางการ รถบัสทุกสายในเกาะเชจู
จะไม่รับชำระค่าโดยสารเป็นเงินสดอีกต่อไป
.
.
2️⃣ วิธีชำระค่าโดยสารด้วย QR Code
① เมื่อขึ้นรถบัส ให้มองหา QR Code
โดยปกติ QR Code จะติดอยู่ที่
เสาตรงใกล้ ๆ คนขับรถ
มีคำแนะนำการใช้งานหลายภาษา
แสดงอยู่ข้าง QR Code 🤟
② สแกน QR Code แล้วใส่
จำนวนเงินค่าโดยสาร
รถบัสธรรมดา (สาย 201) 1,150 วอน
รถบัสด่วน (สาย 101) 2,000 วอน 💰
③ เมื่อชำระเงินเสร็จแล้ว
ให้แสดงหน้าจอผลการชำระเงิน
ให้คนขับดู 🖥️
.
.
3️⃣ การใช้ ZeroPay กับบัตรต่างประเทศ
👉🏻 ZeroPay คือแอปสำหรับทำ
ธุรกรรมการชำระเงินที่ให้ผู้ใช้
สามารถจ่ายเงินผ่านอุปกรณ์มือถือ
ได้อย่างสะดวกในประเทศเกาหลีใต้
ZeroPay เชื่อมต่อกับบริการ
ชำระเงินต่าง ๆ ในเอเชีย เช่น
Alipay, TrueMoney, Touch ‘n Go
และอื่น ๆ อีกมากมาย
👉🏻 ลองตรวจสอบด้านล่างว่าแอปที่
ใช้อยู่รองรับการชำระเงินผ่าน
ZeroPay หรือไม่
☀️ ออกเดินทางตะลอนเที่ยวตามชายฝั่งตะวันออกของเกาะเชจูโดย City Bus! 🚌