จากความวุ่นวายในหัวใจ ถึงแก้วน้ำปั่นที่ร้านเล็ก ๆ”

หลังจากที่ฉันตัดสินใจลาออกจากงานประจำ ความว่างเปล่าก็เทเข้ามาในชีวิตอย่างไม่ทันตั้งตัว
ฉันเคยคิดว่าการลาออกจะพาชีวิตไปสู่จุดที่สิ้นหวังจะจางหายไป
แต่ความจริงกลับไม่ได้ง่ายอย่างนั้น
ความสิ้นหวังยังคงอยู่ และกลายเป็นความว่างเปล่าที่หนักหน่วงกว่าเดิม

ด้วยความสับสนและอัดอั้นใจ ฉันจึงไประบายความรู้สึกใน Pantip
ไม่คิดว่าคำตอบที่ได้กลับมาจะใส่ใจและละเอียดอ่อนจนเหมือนเป็นการพักเบา ๆ ให้ฉันได้หายใจ
คำแนะนำให้ลอง “คุยกับตัวเองในกระจก” เป็นเหมือนการเริ่มก้าวแรก
ก้าวเล็ก ๆ ที่ทำให้ฉันได้หยุดฟังเสียงในใจตัวเอง

จากการคุยกับตัวเอง ฉันได้คำตอบที่ชัดเจน
ฉันอยากใช้ชีวิตแบบช้า ๆ
อยากสร้างพื้นที่เล็ก ๆ ที่เป็นของตัวเอง
ซึ่งท้ายที่สุดก็กลายมาเป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ริมทางที่ฉันเปิดขึ้น

ร้านนี้ไม่ได้แค่ขายน้ำปั่นหรือกาแฟ
แต่มันเป็นที่ที่ฉันได้อยู่กับตัวเอง
ได้พัก ได้ฟังเสียงหัวใจ
และได้เดินหน้าต่อไปในแบบของฉันเอง


ขอบคุณคำตอบสมาชิกหมายเลข 4627729 

"คุยแล้วค่ะคุยตั้งแต่กับคนในครอบครัว กับเพื่อน กับพระ ไปจนถึงกับหมอ  แต่ที่คุยด้วยแล้วสะบายใจที่สุดคือกับสุนัข"

ถ้างั้นผมคิดว่าจริงๆแล้วคุณแค่อยากหาที่ระบายมากกว่า ระบายแบบอีกฝ่ายไม่ต้องพูดอะไรเลย ไม่ต้องให้ความคิดเห็น ไม่ต้องเห็นใจ ไม่ต้องปลอบใจ ไม่ต้องหาทางช่วยหรืออะไรเลย แค่นั่งฟังคุณระบายก็พอ เดาว่าตอนนี้ จขกท. น่าจะรู้สึกอึดอัดมากๆแต่มีอะไรบางอย่างขวางอยู่ไม่ให้ระบายออกได้เต็มที่ แม้ว่ามีโอกาสจะได้พูดคุยกับคนอื่นก็ยังต้องคอยดูคอยห่วงว่าสิ่งที่จะพูดออกไปนั้น จะพูดดีรึป่าว และไม่กล้าจะพูดออกมาทั้งหมด ไม่ต่างอะไรกับการปวดฉี่แต่ไม่กล้าฉี่เพราะรู้สึกว่าไม่ใช่ที่ๆจะฉี่ได้หรือห้องน้ำไม่สะอาดพอ คุณก็เลยรู้สึกว่าไม่ว่าใครจะแนะนำมาอย่างไรมันก็ดีลกับปัญหาที่มีไม่จบซะที

ผมไม่แนะนำให้คุณเขียนระบายในช่องทางออนไลน์นะครับ เพราะ 1.มันจะเป็น Cyber Footprint ที่ในอนาคตหากคุณรู้สึกต่างไปจากตอนนี้แล้วย้อนกลับมาอ่านสิ่งที่เคยเขียนระบายไว้ คุณอาจรู้สึกไม่ดีกลับมาใหม่ได้อีกครั้ง หรือ 2.อาจมีคนไม่หวังดีเอาสิ่งที่คุณเคยเขียนไปทำอะไรในทางไม่ดีได้ ถ้าอยากจะหาคนคุยผ่านช่องทางออนไลน์จริงๆ ควรนัดไปคุยกันในช่องทางส่วนตัวจะดีกว่า แต่ถึงกระนั้นก็ควรใช้วิจารณญาณและการกลั่นกรองอย่างมาก เพราะทุกวันนี้มีมิจฉาชีพอยู่เต็มทุกพื้นที่ทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ การจะเลือกคุยกับใครจึงเป็นการที่คุณต้องแบกรับความเสี่ยงในเรื่องนี้ด้วย แม้ว่าจะเป็นช่องทางที่เปิดให้คุยกันได้แบบไม่ระบุตัวตนก็ตาม (ขอไม่ลงรายละเอียดนะครับ)
ฉะนั้น ทางที่ดีและง่ายที่สุด ก็คือการฝึก คุยกับตัวเอง ครับ มันอาจจะทดแทนการระบายใส่คนอื่นไม่ได้ แต่อย่างน้อยมันก็เป้นวิธีนึงในการควบคุมอารมณ์และจัดการความเครียดที่เราทำได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น ฝึกทำให้รู้ว่าเรามีตัวเองเป็นเพื่อนตัวเองอยู่เสมอในทุกๆสถานการณ์ ไม่ว่าจะดีร้ายอย่างไรก็ตาม การหยุดถามและฉุกคิดด้วยการถามเพื่อนอีกคนนั่นคือตัวเราเอง จะเป็นการเรียกสติที่ดีอีกวิธีนึง เพราะเมื่อเรามีสติเราก็จะจัดการกับปมปัญหาต่างๆที่มีได้ สามารถแยกปัญหาทั้งหมดที่รวมกันเป็นก้อนเดียวใหญ่ๆ ให้แตกออกเป็นก้อนเล็กๆหลายๆก้อน แล้วค่อยๆพิจารณาไปทีละก้อน แก้ไขไปเรื่อยๆจนหมด อารมณ์ที่เคยเป็นทุกข์ ที่เคยเศร้า มันก็จะค่อยๆทุเลาลงไปเองครับ แน่นอนว่าแรกๆอาจจะรู้สึกฝืนๆและต้องใช้เวลาในการฝึกทำ แต่พอเริ่มทำเป็นแล้วมันก็จะไปต่อได้เองครับ และถ้าทำเก่งแล้วก้จะสามารถป้องกันความเศร้าให้เกิดได้ยากขึ้นอีกด้วย

ขอบคุณสำหรับกระจก1 ชิ้น  ที่เป็นเหมือนเชือก​ช่วยชีวิตเส้นหนึ่ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่