สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิพ
ขออนุญาตใช้พื้นที่นี้แชร์เรื่องราวการเงินของตัวเอง เผื่อเป็นกำลังใจให้ใครที่กำลังเจอเรื่องคล้ายกัน หรือกำลังมองหาทางออกเหมือนที่เราก็เคยหา
เราเป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งค่ะ เคยคิดว่าแค่มีงาน มีรายได้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร... จนกระทั่งหนี้มันเริ่มพอกขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว
หนี้ทั้งหมดที่เรามี:
สินเชื่อบ้าน(คอนโด) ประมาณ 1,500,000 บาท
สินเชื่อส่วนบุคคล + บัตรเครดิต รวมประมาณ 840,000 บาท
ยอดรวมคือประมาณ 2,340,000 บาท ค่ะ
แน่นอนว่ารายได้เราต่อเดือนมันไม่พอรับไหว จนวันหนึ่งเริ่มมีเบี้ยวบัตร เบี้ยวหนี้บางส่วน พอโทรศัพท์เริ่มดังบ่อยเข้า... เราเลยรู้สึกว่า พอแล้ว เราต้องจัดการอะไรสักอย่างกับชีวิตนี้
เราเริ่มยังไง?
**เข้าโครงการ "คลินิกแก้หนี้"
ไม่ได้ยื่นได้ทุกหนี้นะคะ แต่บางส่วนของหนี้บัตรเครดิตกับสินเชื่อที่ผ่านคุณสมบัติ เราส่งเข้าไปได้บางก้อน
ได้ปรับโครงสร้างหนี้ ดอกเบี้ยน้อยลง จ่ายเป็นงวดระยะยาว
ตอนนั้นแค่รู้ว่า “ยอดหยุดนิ่ง” และ “ไม่โดนทวงทุกวัน” ก็รู้สึกโล่งใจมากแล้วค่ะ
ส่วนที่เข้าโครงการไม่ได้ → หาทางกู้ดอกเบี้ยต่ำมาโปะ
โชคดีที่แม่อยู่กลุ่มชาวนาที่มีการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ แม่กำลังจะกู้มาต่อเติมบ้านพอดี เราเลยขอกู้ร่วมด้วยแล้วใช้หนี้เองทั้งหมด ซึ่งเราก็ได้มาโปะบางก้อน ลดดอกที่เคยสูงมากจากสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต
ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
หนี้ยังเยอะอยู่ค่ะ แต่รู้สึกว่าเริ่ม “ควบคุมได้”
รายรับ-รายจ่ายชัดขึ้น ไม่กล้าซื้อของฟุ่มเฟือยเหมือนเมื่อก่อน
เราเริ่มทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายทุกเดือนแบบจริงจัง
พยายามมองหาวิธีหารายได้เสริมในเวลาว่าง (ยังไม่ได้มาก แต่รู้สึกดีที่ทำอะไรเพิ่มขึ้น)
สิ่งที่อยากบอกทุกคน:
อย่ากลัวที่จะรับความจริงว่า “เรามีปัญหาเรื่องเงิน”
อย่ารอให้มันสายจนอะไรๆ พังหมด คุยกับเจ้าหนี้ เจรจาได้เสมอ
ถ้าเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ได้ ก็ลองดูค่ะ (แนะนำให้ศึกษาข้อมูลในเว็บไซต์ ธปท. หรือ NCB)
หนี้เยอะไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่ “ไม่ทำอะไรเลย” ต่างหากที่อันตรายกว่า
ใครที่มีคำแนะนำเพิ่มเติม หรือมีประสบการณ์คล้ายกัน อยากให้มาแชร์กันนะคะ เผื่อมีแนวทางดี ๆ ที่เราหรือคนอื่น ๆ จะได้นำไปใช้บ้าง
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังสู้กับเรื่องเงินเหมือนกัน
หนี้เกือบ 2.4 ล้าน ฉันเริ่มเห็นทางออกบ้างแล้ว จากคลินิกแก้หนี้และการวางแผนใหม่ครั้งนี้
ขออนุญาตใช้พื้นที่นี้แชร์เรื่องราวการเงินของตัวเอง เผื่อเป็นกำลังใจให้ใครที่กำลังเจอเรื่องคล้ายกัน หรือกำลังมองหาทางออกเหมือนที่เราก็เคยหา
เราเป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งค่ะ เคยคิดว่าแค่มีงาน มีรายได้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร... จนกระทั่งหนี้มันเริ่มพอกขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว
หนี้ทั้งหมดที่เรามี:
สินเชื่อบ้าน(คอนโด) ประมาณ 1,500,000 บาท
สินเชื่อส่วนบุคคล + บัตรเครดิต รวมประมาณ 840,000 บาท
ยอดรวมคือประมาณ 2,340,000 บาท ค่ะ
แน่นอนว่ารายได้เราต่อเดือนมันไม่พอรับไหว จนวันหนึ่งเริ่มมีเบี้ยวบัตร เบี้ยวหนี้บางส่วน พอโทรศัพท์เริ่มดังบ่อยเข้า... เราเลยรู้สึกว่า พอแล้ว เราต้องจัดการอะไรสักอย่างกับชีวิตนี้
เราเริ่มยังไง?
**เข้าโครงการ "คลินิกแก้หนี้"
ไม่ได้ยื่นได้ทุกหนี้นะคะ แต่บางส่วนของหนี้บัตรเครดิตกับสินเชื่อที่ผ่านคุณสมบัติ เราส่งเข้าไปได้บางก้อน
ได้ปรับโครงสร้างหนี้ ดอกเบี้ยน้อยลง จ่ายเป็นงวดระยะยาว
ตอนนั้นแค่รู้ว่า “ยอดหยุดนิ่ง” และ “ไม่โดนทวงทุกวัน” ก็รู้สึกโล่งใจมากแล้วค่ะ
ส่วนที่เข้าโครงการไม่ได้ → หาทางกู้ดอกเบี้ยต่ำมาโปะ
โชคดีที่แม่อยู่กลุ่มชาวนาที่มีการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ แม่กำลังจะกู้มาต่อเติมบ้านพอดี เราเลยขอกู้ร่วมด้วยแล้วใช้หนี้เองทั้งหมด ซึ่งเราก็ได้มาโปะบางก้อน ลดดอกที่เคยสูงมากจากสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต
ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
หนี้ยังเยอะอยู่ค่ะ แต่รู้สึกว่าเริ่ม “ควบคุมได้”
รายรับ-รายจ่ายชัดขึ้น ไม่กล้าซื้อของฟุ่มเฟือยเหมือนเมื่อก่อน
เราเริ่มทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายทุกเดือนแบบจริงจัง
พยายามมองหาวิธีหารายได้เสริมในเวลาว่าง (ยังไม่ได้มาก แต่รู้สึกดีที่ทำอะไรเพิ่มขึ้น)
สิ่งที่อยากบอกทุกคน:
อย่ากลัวที่จะรับความจริงว่า “เรามีปัญหาเรื่องเงิน”
อย่ารอให้มันสายจนอะไรๆ พังหมด คุยกับเจ้าหนี้ เจรจาได้เสมอ
ถ้าเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ได้ ก็ลองดูค่ะ (แนะนำให้ศึกษาข้อมูลในเว็บไซต์ ธปท. หรือ NCB)
หนี้เยอะไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่ “ไม่ทำอะไรเลย” ต่างหากที่อันตรายกว่า
ใครที่มีคำแนะนำเพิ่มเติม หรือมีประสบการณ์คล้ายกัน อยากให้มาแชร์กันนะคะ เผื่อมีแนวทางดี ๆ ที่เราหรือคนอื่น ๆ จะได้นำไปใช้บ้าง
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังสู้กับเรื่องเงินเหมือนกัน