ในงานเปิดตัวเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก อย่างเป็นทางการ ของ JAS ที่ปากเกร็ด มีสองเรื่อง

เรื่องแรก คือตะลึงความสวย ของ "โอปอล สุชาตา ช่วงศรี" มิสเวิลด์มงฟ้า คนแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่มาเป็นแขกรับเชิญพิเศษในงานนี้

ผมพูดได้คำเดียวว่า เธอ "คู่ควรแล้ว" กับตำแหน่งคนที่สวยที่สุดในโลก

หน้าคมกริบ สไตล์สาวภูเก็ต ความงดงามทั้งหมด รวมอยู่ในใบหน้าเล็กๆ เป็นความสวยแบบ Universal ที่คนชาติไหนก็คงยอมรับตรงกันว่า เออ นี่แหละ ความสวย

ผมดูโอปอลอยู่ด้านล่างเวที เห็นถึงออร่าพุ่งทะยานออกมา และไม่ใช่แค่สวย แต่เธอมีความสง่างาม ดู Classy มีระดับ คือเข้าใจเลย ว่าทำไมเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ ถึงยอมหักกับมิส ยูนิเวิร์ส แล้วดึงเธอไปประกวดที่อินเดีย

ไม่รู้ JAS ทำได้ยังไง ที่ดึงตัวโอปอล ที่คิวทองสุดๆ มางานเปิดตัวพรีเมียร์ลีกแบบนี้ได้ ต้องถือว่า สายป่าน และเงินทุนของพวกเขาไม่ธรรมดาจริงๆ

เรื่องตะลึงอย่างที่สอง คือการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ว่าประชาชนต้องจ่ายเงินกี่บาทเพื่อดูพรีเมียร์ลีกได้

และคำตอบนั้น มันเป็นตัวเลขที่ถูกแบบเหลือเชื่อมากๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะทำราคาแบบนี้ได้

โดยราคานี้ "หารไม่ได้" คือล็อกอิน 1 ไอดี ก็ดูได้ 1 จุดนะครับ แต่ถึงกระนั้น ตัวเลขนี้ถือว่าเหลือเชื่อสุดๆ เท่าที่คุณจะจินตนาการได้แล้ว

299 บาท คือราคาบุฟเฟ่ต์สุกี้ MK 1 มื้อ ขณะที่ 199 บาท คือราคาบุฟเฟ่ต์ สุกี้ตี๋น้อย 1 มื้อ คิดดูว่า ประหยัดเงินค่าสุกี้มื้อเดียว แต่ดูบอลพรีเมียร์ลีกได้ทั้งเดือน มันคุ้มค่าขนาดไหน

แล้วที่สำคัญไม่ใช่แค่ พรีเมียร์ลีก แต่ยังรวมถึง ไทยลีกอีกด้วย สมัครไปรอบเดียว ได้ดูทั้งบอลอังกฤษ และบอลไทย สองลีกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศแบบครบถ้วนเลย

ที่มันน่าตะลึง เพราะคนเอาไปเทียบกับ True Visions ในฤดูกาลที่แล้วทันที ที่มีราคาต่างกันครึ่งต่อครึ่ง

แพ็กเกจดูพรีเมียร์ลีกของทรูวิชั่นส์ ในซีซั่นที่แล้ว (2024-25) EPL POP ราคาเดือนละ 599 บาท แต่ถ้าซื้อแบบครบทั้งฤดูกาล EPL Season Pass อยู่ที่ 5,490 บาท ดูได้สองจอ

ถ้าเราลองเทียบราคารายปี กันตรงๆ คือ

1,999 บาท ของ AIS Play

2,999 บาท ของ MONOMAX

5,490 บาท ของ True Visions

JAS กับ AIS แย่งคอนเทนต์มาจาก True แล้วยังดั๊มพ์ราคาลง แบบเอาให้เห็นกันชัดๆ ไปเลย มันคือเจตนาที่ชัดเจนมากๆ ว่าต้องการแย่งลูกค้าทรูทั้งหมด มาอยู่ในมือพวกเขาแทน

True Visions ยังมีคอนเทนต์กีฬาดีๆ ในมือเยอะ ทั้งอเมริกันเกมส์ ทั้งเทนนิส ทั้งกอล์ฟ แต่ถ้าเรายอมรับด้วยความสัตย์จริง คนดูในกลุ่มนั้น มีจำนวนที่เทียบไม่ได้ กับพรีเมียร์ลีก + ไทยลีก

คำถามที่ผมคิด ในสเต็ปต่อมาคือ แล้ว JAS กับ AIS จะเอากำไรมาจากไหนหรอ? คุณลงทุนไปตั้งหมื่นล้านนะ คิดราคาต่ำขนาดนี้ กี่ปีจะคืนทุน

แต่ผมว่าพวกเขาวางกลยุทธ์ ที่ลึกซึ้งกว่านั้น คือไม่ใช่แค่สตรีมมิ่งกีฬาอย่างเดียว แต่เมื่อ AIS ระบุว่า คุณต้องเป็นลูกค้า AIS เท่านั้น ถึงจะดูได้ในราคา 199 ต่อเดือน หรือ 1,999 ต่อปี

ดังนั้น ก็อาจมีลูกค้ามือถือ หรือ เน็ตบ้าน จาก True ที่ตัดสินใจย้ายค่าย มาอยู่ AIS แทน เพื่อเอาโปรโมชั่นพรีเมียร์ลีกสุดคุ้มแบบนี้

แล้วคอยจับตาดูนะครับ ผมว่า AIS ทุบแหลกแน่ ต้องมี "โปรย้ายค่าย" มาล่อใจแฟนบอล ว่าถ้าย้ายมา เราจะให้คุณดูฟรี 3-4 เดือน ก็ว่ากันไป

AIS มองไปไกลกว่าค่าสมัครพรีเมียร์ลีก แต่หวังจะแย่งฐานลูกค้าโทรศัพท์ และ เน็ตบ้านจาก True มาเป็นของตัวเองด้วย

แล้วไม่ใช่แค่ ตีตลาด True เท่านั้น แต่การตั้งราคา 199 และ 299 บาทแบบนี้ มีความหมายอีกอย่างคือ ต้องการ ตีตลาด "กล่องเถื่อน" ด้วย

ในอดีต คนดูกล่องเถื่อน มีข้ออ้างเสมอว่า ก็ดูของลิขสิทธิ์มันแพงอะ เดือนละตั้ง 5-600 จะไปจ่ายยังไงไหว

ณ เวลานี้ กล่องเถื่อน ยี่ห้อ F ตั้งราคารายเดือนที่ 300 บาท แปลง่ายๆ ว่า ราคาของทั้ง MONOMAX และ AIS ที่ประกาศวันนี้ ถูกกว่าของเถื่อนเสียอีก!

นี่คือการโจมตีทางจิตวิทยาเลยว่า แล้วแบบนี้ คุณจะไปดูเถื่อนที่แพงกว่าทำไม สู้ซื้อของลิขสิทธิ์ไม่ดีกว่าหรอ ได้สนับสนุนคนซื้อ แถมได้ดูคอนเทนต์ที่คมชัดอีกต่างหาก

อยากจะเปิดดูที่ไหน ก็ดูได้เลย ภูมิใจเต็มที่ว่าเราซื้อของแท้ ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ แอบดูของเถื่อน

มีรายงานว่า ในประเทศไทย มีคนจ่ายเงินดูกล่องเถื่อน ในระดับหลักล้านยูเซอร์ แต่เชื่อว่า คนกลุ่มนี้จะย้ายมาซื้อลิขสิทธิ์แทน เป็นจำนวนมาก เมื่อราคาถูกลิขสิทธิ์มันต่ำขนาดนี้

นี่คือกลยุทธ์ที่ร้ายกาจมากในเชิงธุรกิจ ตั้งราคาต่ำไว้ก่อน เพื่อกระชากฐานลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาอยู่ด้วยกัน

ผมว่า ถ้าเป็นมวยสากล นี่คือการปล่อยหมัดน็อก อัดใส่ True Visions ให้ร่วงจากบัลลังก์แชมป์เลยทีเดียว

ในซีซั่นใหม่ที่กำลังจะมาถึง การต่อสู้เรื่องถ่ายทอดสดกีฬา จะเต็มไปด้วยความเข้มข้นแน่ๆ JAS กับ AIS พุ่งทะยานขึ้นมา เพราะมีฮีโร่คอนเทนต์ในมือ แต่ก็ยังมี BG Sports ที่เดินหน้าลุย ไม่ยอมถอยเช่นกัน

ส่วน True Visions ก็ต้องคิดทบทวนเยอะเลย ว่าถ้าเสียสมบัติล้ำค่าไปแล้ว ทั้งพรีเมียร์ลีก และ ไทยลีก จะทำอย่างไรที่จะดึงลูกค้าเก่าไว้กับตัวได้

ยกแรก JAS กับ AIS ชนะไปแล้วครับ เปิดตัวราคามาขนาดนี้ ประชาชนตื่นเต้นกันสุดๆ อยู่แล้ว เท่าที่เราจำความได้ ไม่เคยดูพรีเมียร์ลีกทั้งซีซั่น ในราคาต่ำกว่า 2 ใบเทา บ้าไปแล้ว

แต่ยกสองนี่ล่ะครับ ที่จะเข้มข้นขึ้น เพราะเมื่อบอลเริ่มฤดูกาลปั๊บ ผู้คนย่อมคาดหวังแน่นอน ว่าการถ่ายทอดสด ต้องทำให้ดี มีประสิทธิภาพ ไม่ล่ม ไม่กระตุก

ทีมงานเทค ทีมหลังบ้าน ของ MONOMAX และ AIS Play พร้อมหรือยัง นี่คือคำถาม

เช่นเดียวกับทีมพากย์ ที่ต้องวางโพสิชั่นให้ชัดเหมือนกัน จะมาสายฮา แบบ BG Sports หรือ จะไปโทนทางการแบบ True หรือจะครีเอตแนวทางของตัวเองขึ้นมาเลย

ไม่เพียงแค่การพากย์บอล แต่คอนเทนต์เสริมต่างๆ การวิเคราะห์ วิจารณ์ จะมีบ้างไหม สารคดี EPL หรือ ไทยลีก จะทำด้วยหรือเปล่า หรือจะถ่ายบอลอย่างเดียว

เช่นเดียวกับผู้สนับสนุน อย่าง ลีโอ ที่มาเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกัน จะมีส่วนร่วมแค่ไหน จะมีการจัดอีเวนต์ดูบอลใหญ่ๆ แบบที่เคยทำสมัยอยู่กับ True หรือเปล่า

แล้วแพลนบี มีเดียล่ะ ที่เป็นพาร์ทเนอร์อีกเจ้า จะเข้าไปช่วยตรงไหนได้ ถ้าเป็นไทยลีก เรานึกออก เพราะพวกเขาถนัดบอลไทย แต่ถ้าเป็นพรีเมียร์ลีก ก็ยังเห็นภาพไม่ชัดนัก

ยังมีความท้าทายรอผู้ถือลิขสิทธิ์ใหม่ และทีมพาร์ทเนอร์ อีกมากครับ ในพรีเมียร์ลีก ซีซั่นหน้าที่กำลังจะมาถึง

อย่างไรก็ตาม นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคตครับ ส่วนในวันนี้ ในฐานะที่เป็นคนดูบอล คนหนึ่ง ที่เสียเงินซื้อลิขสิทธิ์เองทุกปี ก็ดีใจมากเลยครับ ที่เจ้าของลิขสิทธิ์เปิดราคามาด้วยตัวเลขที่ถูกขนาดนี้

มันเป็นโอกาสดีจริงๆ ให้ทุกๆ บ้าน ได้เข้าถึงการซื้อลิขสิทธิ์มากขึ้น ผมดีใจมากเลย ที่ไทยลีก ก็ได้อานิสงส์ไปโดยปริยายกับดีลนี้

และจากนี้ไป คนดูทุกคน ไม่มีข้ออ้างแล้วนะครับ ที่จะไม่สนับสนุนของถูกลิขสิทธิ์

199 บาท ดูได้ทั้งพรีเมียร์ลีก และ ไทยลีก ถ้าตั้งราคาถูกกว่านี้ ก็เหลือแค่แจกฟรีแล้วล่ะครับ

สุดท้ายครับ ผมคิดว่า ถ้าสงครามถ่ายทอดสด ครั้งนี้ เป็นซีรีส์เรื่อง Mad Unicorn ล่ะก็ สันติ แซ่ลี ก็คงบอกกับ เฮียคณินว่า

"199 บาท ทั่วประเทศ เฮียเจอผมแน่!"

Cr. FB วิเคราะห์บอลจริงจัง