ผมอายุ34ปีเป็นผู้พิการประเภท3เดินด้วยตัวเองไม่ได้บวกกับภาวะซีกซ้ายอ่อนแรงจำเป็นต้องใช้รถเข็นในการดำเนินชีวิต เกิดจากอุบัติเหตุรถรถยนต์ชนรถมอเตอร์ไซด์ ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานลงข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ลักษณะการมาทำงานคือน้องชายและแม่ขับรถยนต์มารับ-ส่ง6วันทำงานระยะทางจากบ้านมาบริษัทประมาณเกือบจะ20กิโลเมตร และเนื่องจากน้องชายต้องคอยเป็นคนขับรถมารับ-ส่งทำให้น้องชายไม่สามารถที่จะไปทำงานที่อื่นไกลบ้านได้ และด้วยลักษณะการทำงานของผมที่อยู่ในแผนกวิเคราะห์ข้อมูล ทำให้ต้องทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวันและใช้สายตาและสมองหนักๆทั้งวัน วันหนึ่งแม่ผมก็เลยบอกว่าสิ้นปีนี้งวดรถจะหมดสงกรานต์ปีหน้าลาออกเถอะแล้วให้น้องได้ไปใช้ชีวิตทำการทำงานที่จะเป็นชิ้นเป็นอันให้ได้ตั้งหลักชีวิตบ้างเถอะเพราะตั้งแต่จบวิศวฯสิ่งแวดล้อมมา5-6ปีก็ไม่ได้ทำงานตั้งหลักให้ชีวิตตัวเองเลยมีก็แต่คอยเป็นคนขับรถให้ที่บ้านและก็ไปส่งของบ้างบางครั้งที่ลูกค้าสั่งจิ้งหรีด(ที่บ้านเปิดฟาร์มจิ้งหรีด)แม่ยังบอกอีกว่าแม่ก็แก่แล้วตัวผมเองก็ไม่หายซักทีเกิดอุบัติเหตุมาแล้ว5-6ปี และงานที่ทำอยู่มันคค่อนข้างจะเครยดและซีเรียสแม่เป็นห่วงกลัวจะมีผลกระทบต่อสมองไปมากกว่านี้ แต่ผมเองมีความคิดที่ไม่อยากจะอยู่ที่บ้านเฉยๆอยากออกมาทำงานให้ได้เจอผู้คนพูดคุยมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆบ้าง ผมเลยบอกกับแม่ว่าเนี้ยที่บริษัทจะย้ายให้ไปทำงานที่แผนกจัดซื้องานมันน่าจะหนักน้อยลงถ้ามันไปได้ดีจะไม่ขอออกได้ไหมเพราะเงินเดือนก็หมื่นต้นๆสามารถจุนเจือครอบครัวได้ค่อนข้างจะเยอะแม้จะต้องเติมน้ำมันรถเกือบจะทุกวัน อยากทราบว่าการที่เราใช้สมองในการทำงาน+เครียด/ซีเรียสมันจะส่งผลเสียต่อสมองเราได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอบวกกับผมเป็นคนที่ชอบตื่นมากลางดึกทำให้เวลามาทำงานก็จะง่วงนอนแล้วก็แก้ปัญหาด้วยการดื่มกาแฟวันละหลายแก้ว+เครื่องดื่มชูกำลังเพื่อแก้ง่วงด้วย
สอบถามคนพิการที่เคยมีประบการณ์คล้ายๆกัน