ดีลแรก สู้เพื่อพ่อ ดีลที่สอง สู้เพื่อเขมร นายกอิ๊งไม่เหมาะทำงานส่วนรวม...

ถ้านี่คือการตัดสินใจด้วยตนเองอย่างผู้บรรลุวุฒิภาวะ โดยไม่ปรึกษาพ่อ
นายกควรรับผิดชอบต่อความผิดพลาด หล่ะหลวมในการทำงาน ด้วยการลาออก

สังเกตเวลาเจรจา/ตอบปัญหางานบ้านงานเมือง ไม่สามารถเจาะประเด็น แตกประเด็นได้อย่างมั่นใจ
ตอบคำถามไม่ฉะฉาน ไม่มีวุฒิภาวะ ไม่มี insight ปัญหาแต่ละอย่างของชาติอย่างทะลุปรุโปร่ง
เข้าใจประเด็นเพียงผิวเผิน ไม่มีแผนกลยุทธิ์ของตัวเอง แต่เน้นมอบงานให้คนอื่นทำ

แม้จะมีคุณพ่อเป็นที่ปรึกษา แต่อย่าลืมว่า ถึงเวลานั่งประชุมทำงาน
บริหารราชการแผ่นดิน นายก ต้องมีเทคนิกวิธีและกระบวนการคิด พ่อไม่ได้นั่งข้างหลังได้ตลอดเวลา

นายก เป็นลูกที่ดีของพ่อแม้ว เป็นหลานที่ดีของ Uncle
แต่ผลประโยชน์ทับซ้อนกำลังสุ่มเสี่ยง  การดำรงตำแหน่งที่ดี
จะต้องแยกเรื่องส่วนรวมกับส่วนตัวได้ชัดเจน
แม้ภาษาเชิงบวกจะเรียกสิ่งนี้ว่าคอนเน็คชั่น แต่การเจรจายังไม่อาจ
ใช้คอนเน็คชั่น หรือ เสน่ห์ รวมถึงข้อได้เปรียบ ได้อย่างแยบยล

การแก้เกมส์ฮุนเซน โดยเชื่อว่า อ้อนขอช่วยได้อย่างหลานสาวคนหนึ่ง
คือ พลาดมาก "ไม่เป็นมวย" ฮุนเซนสู้รบทางจิตวิทยา เดินเลย
จากความสัมพันธ์แบบส่วนตัวมาไกลมากแล้ว

พลาด 1. อาศัยความเป็นหลาน แล้วคิดว่าเขาจะช่วยไทย เขาชักธงรบขนาดนั้น
พลาด 2. ในฐานะผู้นำของประเทศที่ใหญ่กว่า ทำไมต้องอ่อนต่อกัมพูชา
แทนที่จะวางตัวให้ประเทศเพื่อนบ้านเกรงใจ
พลาด 3. สรรพกำลังทางความรู้ ด้าน กม ระหว่างประเทศ ไปสู้ที่ศาลโลก
เมื่อรู้อยู่แล้ว ว่ากัมพูชาไปศาลโลกแน่ เราก็น่าจะมีดรีมทีม รับมือ
เช่น เราถูกบังคับเรื่องแผนที่จากอำนาจของฝรั่งเศสในยุคนั้น ใช่หรือไม่
ความเป็นมาจุดไหนบ้างในประวัติศาสตร์ ที่เชื่อได้ว่า พื้นที่นี้คือของไทย
เชื่อว่า ศาลโลก คงไม่ตัดสินจากแผนที่แบบเดียว แต่ดูปัจจัยอื่นประกอบด้วย
และฝรั่งเศสเอง เราต้องกล้าเจรจาให้เข้าใจฝ่ายเรา
พลาด 4  ความขัดแย้งกับกัมพูชาครั้งนี้ เป็นโอกาสในการกวาดล้างธุรกิจสีเทา
ไทยควรจับมือกับอเมริกา ซึ่งตั้งคำถามต่อบทบาทฐานธุรกิจสีเทาของกัมพูชา
ที่ลามทำให้ประชาคมโลกเดือดร้อน

ความพลาดเหล่านี้มาจากขาดความรู้ ความเข้าใจ ประสพการณ์
และผลประโยชน์ทับซ้อน ในอดีต และอาจมีต่อไปในอนาคต
ในระดับที่ยากจะแยกเรื่องส่วนตัวออกจากส่วนรวมได้

ในอนาคต เมื่อมีปัญหา ก็อาจจะต้องพึ่งพา Uncle ฮุนเซน
สันนิษฐานว่า เป็นจุดอ่อน ที่ฮุนเซนมองว่า ผู้นำไทยคือลูกไก่ในกำมือ
ผู้นำไทยจะไม่ยอมขัดขืน หากขัดใจ อนาคตหากต้องออกนอกประเทศ อาจต้องพึ่งพาเขา

สองปียังไม่มีผลงานชัดเจนเพื่อคนไทย "มีกินมีใช้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี"  นอกจาก..
ดีลแรก สู้เพื่อพ่อ ทำลายความฝันของประชาชนผู้เลือกตั้ง  สร้างรัฐบาลที่มีลุง
ได้อย่างเลือดเย็น ตามด้วยอภิปรายเพื่อพ่อในสภา ประเด็นอภิสิทธิชน ชั้น 14
ดีลสอง สู้เพื่อเขมร "ต้องการอะไร ขอให้บอก ไทยจะเสิร์ฟให้" ทำลายศักดิ์ศรีของชาติ

ความปลอดภัยที่ดีที่สุดของนายก ก็คือ ลาออก  แสดงสปิริต
รักชาติมากพอที่จะให้นักบริหารคนอื่นที่เชี่ยวชาญกว่า ทำหน้าที่แทน
คนที่มีความพร้อมด้านความสามารถ จริยธรรม และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
ประเภทที่เคยช่วยเหลือกันในเรื่องสำคัญๆ จนไม่อาจลืมบุญคุณ

แนะนำ นายก จำกัดความผิดพลาดไว้แค่นี้
มิฉะนั้น อาจเป็นไปอย่างเส้นทางที่อดีตนายกยิ่งลักษณ์ต้องเผชิญ
จากความรักที่มีต่อพี่ชาย เข้าสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศแบบไม่แตกฉานงานบ้านการเมือง
จนชีวิตที่เหลือแทบจะไม่มีเสียงหัวเราะ

บุคคลที่จะเป็นผู้นำอันโดดเด่น
ไม่เกี่ยวข้องกับอายุ ไม่เกี่ยวข้องกับนามสกุล
แต่เป็นความสามารถที่คนคนหนึ่งพัฒนามาทั้งชีวิต
มีความสนใจการเมืองการปกครอง เหนือกว่าคนทั่วไป แบบที่คนปานกลางไม่มี
และเมื่อเราเป็นคนปานกลาง เราจึงหาความสุขและทำงาน
รับผิดชอบในกรอบที่คนปานกลางดูแลได้

อยากให้นายก กลับไปดูแลลูก แก้ปัญหาเรื่องคดีต่างๆ และธุรกิจ
นั่นคือ งานท้าทายขั้นแรก ที่ควรทำให้ผ่านก่อน
ที่จะรับผิดชอบแก้ปัญหาให้คนไทยอีกหกสิบล้านคน

สุดท้ายนี้ ฝากถึงคนไทย เลือกคนปัญญาดี มีอุดมการณ์เข้าสู่การเมือง
จะได้ไม่เปลือง 1. งบอบรม ที่มาจากภาษีประชาชน ซึ่งคนที่เลือกไปแล้วไม่รู้ กม อำนาจรัฐ ทำงานไม่ได้ตามบทบาท
ตัวอย่าง งบอบรม สว ถ้าไม่มีความรู้อำนาจหน้าที่ในรัฐสภา อย่าสมัคร งบที่ควรจะให้ คือ งบปฐมนิเทศ ก็พอ
2. เวลา ผู้นำประเทศ ต้องทำงานได้เลย ไม่ใช่เข้ามาทดลองงาน ประเทศเสียทรัพยากรทางเวลา กับนักการเมือง
ที่ขาดทิศทางการบริหารมานานมากแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่