ไม่ไหวแล้ว เหนื่อยใจกับงานและเงิน

มันอาจจะแปลกนะที่หลายคนชอบบอกเราว่า ถ้ามีธุรกิจของที่บ้านให้สานต่อ เค้าคว้าไปนานแล้วถ้าเค้าเป็นเรา 

ปีนี้เราอายุ 40 เพิ่งกลับมาช่วยงานแม่ใหม่ ขอเล่าก่อนว่าเราเคยเป็นครู และรักในอาชีพ เปิดโรงเรียนเอง (แต่ไปไม่รอดเพราะทำธุรกิจไม่เก่ง) และท้อง เลยหยุดทำงาน เลี้ยงลูกเอง และทำงานปักผ้าที่สร้างรายได้พออยู่ได้ ช่วงก่อนโควิด เงินสูงไปถึง 60k แต่และแล้วเราเกิดปัญหาตาแห้งเรื้อรัง ใช้สายตามากเกิน เราเลยคิดหาทางเลือกอื่นตอนนั้นลูกคนโต 8 ขวบเราเลยสมัครไปทำงานเป็น coordinator ให้โรงเรียนแห่งหนึ่ง ทำได้ 9 เดือน เราเริ่มเห็นแล้วว่าเงินไม่พอหมุนเราเลือกทางให้ลูกสองคนเรียนอินเตอร์ มันเลยเหนื่อยใจกับเรื่องเงินมาก (สามีก็ช่วยออกค่าเทอม หารๆกันค่ะ)

ในตอนนั้นเองที่แม่เรามาเสนอให้ช่วยงานที่บ้าน (ซึ่งเราเคยลองทำแล้วก่อนเราจะไปเป็นครูเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เราไม่ชอบเลย เพราะเราไม่มีหัวธุรกิจ เลขก็แย่มาก พูดก็ไม่เก่ง ขายของแบบนิ่งๆ) 

แต่เพราะเรื่องเงิน ทำให้เราตัดสินใจออกจากงาน (ซึ่งงานโรงเรียนเราสนุกมาก ตื่นเช้าไม่ติด ทำงานแล้วเวลาผ่านเร็วรู้สึกตัวเองมีค่าอีกครั้ง ได้ใช้ความรู้ทางภาษาที่เรามี ได้อยู่กับเด็กๆ)

เราร้องไห้เลยวันที่ออกจากงาน แต่เพราะเรื่องเงินที่ขัดสน วันแรกที่ลงไปทำงานกับแม่ เราฝืนตัวเองจนจะอ้วก ทุกอย่างเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วมันย้อนกลับมา ความเกลียดในงานนี้ สิ่งที่เราไม่ชอบมันถาถมมาใส่เราทั้งหมดเลย และเราทำงานกับแม่ตัวติดกัน มันเยอะไป เล่าแต่เรื่องพ่อให้เราฟัง แต่เพราะความเป็นแม่ลูก ก็มีปากเสียงกันบ่อย เพราะเราเถียงและไม่เกรงใจ 

เราเริ่มหายไปบ่อย เข้างานสาย บางวันก็แอบรับงานปักผ้า ไม่ลงไปทำงาน 

เรารู้ว่าเราผิดกับแม่ที่เค้าพยายามช่วย แต่เราไม่มีความสุข เราไม่มี motivation อะไรเลย เราก็พยายามทำนะ ตั้งใจ แต่ทำได้สั้นๆ เราทำตำแหน่งเซลส์ ซึ่งยิ่งไม่ใช่ตัวเราเลย โทรศัพท์หาชาวบ้าน แล้วก็มีแต่เรื่องตัวเลข เราไม่อยากแม้แต่จะคิดถึงมัน 

ตอนนี้เราสับสนมาก เราทำร้ายแม่ทุกวัน และทำร้ายตัวเองด้วย และครอบครัวด้วย เราหาบาลานซ์ไม่เจอ เครียดมากและเปลี่ยนเป็นคนไม่มีความสุขกับชีวิต อืด burn out จากเป็นคนที่แอคทิฟและหัวเราะอยู่ทุกวัน ทำให้เราไม่มีความสุขกับลูกไปด้วย ยิ้มไม่ขึ้นเลย

เราไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เพราะงานที่เรารัก เราได้เงินไม่พอส่งลูกเรียน ส่วนงานที่เราเกลียดและเราก็ทำมันได้แย่มากๆ จนเราพูดกับแม่ว่า เราไม่รักงานนี้ เราไม่เคยอยากได้ เราอยู่เพื่อเงิน โดยที่แม่อยากให้เราเอาไปเลย รับช่วงต่อตอนเค้าเกษียรอีก 3 ปี  เค้าจะได้สบายใจเพราะเราอยู่รอด (ซึ่งมาอยู่กับเรามันเจ๊งแน่ๆ) และเค้าจะได้ไม่ต้องห่วงเรา เราไม่รู้แล้วว่าเราควรทำยังไง

มันทรมานใจมากๆเลยค่ะ 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่