ส่วนตัวเป็นลูกค้า MK มาอย่างยาวนาน ยาวนานจริงๆ จำได้ก็น่าจะมี 27 ปีได้ เป็นลูกค้ามาอย่างเหนียวแน่น จนมาถึงรุ่นลูกก็ยังคงเป็นลูกค้าของ MK อยู่ ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงในแต่ละยุคสมัย มารุ่งๆก็ตอนที่มีออกมาเต้นในทุกๆ ชั่วโมง มีพนักงานฝึกงานที่เป็นนักศึกษาเยอะแยะมากมาย จนวันนี้ MK ก็ออกบุฟเฟ่ต์ออกมาตีตลาด แต่เอาจริงๆ ผมเห็น MK บุฟเฟ่ต์มานานแล้ว แต่เค้าอาจจะไม่ได้โปรโมทสักเท่าไหร่ เท่าที่เห็นคือ ตรงตึกคอม ชลบุรี ที่น้อยคนมากที่จะรู้ว่าที่สาขาตรงนั้น มี บุฟเฟ่ต์มานานแล้ว แต่ก็อาจจะไม่ไช่สองร้อยกว่าบาท
และอีกสาขาที่มีมาพักใหญ่แล้ว แต่ราคา 440 ก็คือตรง Big c ชลบุรี ที่มีมาพักใหญ่ ผมก็ไปกินที่นี่มาได้ 3-4 ครั้ง ไปกัน 4 คนก็ 1.6 1.7 พันบาท ประมาณนี้
แต่เอาจริงๆ แบบ a la carte ก็จะจ่ายประมาณเท่านี้ อาทิตย์ที่ผ่านมาเที่ยงๆ ก็อยากแวะไปกินพอดี วันนี้ผมเลือกกินแบบ a la carte ที่ผมคิดว่าคงจ่ายราคาเท่าๆ กับบุฟเฟ่ต์ 440 ไม่ต่างกันเท่าไหร่ จะแพงนิดถูกหน่อย ก็ไม่เป็นไร เพราะอยากกินแบบที่ต้องการมากกว่า
สิ่งที่ทำให้ผมอยากแนะนำ mk จริงๆ คือ ระบบของคุณยังไม่พร้อมจริงๆ กับการต้องมารับทั้งลูกค้า บุฟเฟ่ต์ กับ a la carte ทั้งๆ ที่เป็นบริษัทมหาชนแบบนี้ แต่ทำไมระบบถึงได้แย่มากมายเพียงนี้ ผมใช้เวลารอนานมากๆ สำหรับอาหารแต่ละชุดที่ออกมา คือ ผมไม่ได้หมายความว่าผมสั่งแบบนี้จะต้องได้เร็วกว่า บริการแตกต่างจากบุฟเฟ่ต์ แต่โดยปรกติแล้ว ควรแยกออกจากกัน ผมใช้เวลาคอยนานกว่า บุฟเฟ่ต์เสียอีก และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมยืนฟังหน้าร้านผมตกใจมาก คือ พนักงานที่ยืนหน้าร้าน บอกพนักงานในร้านผ่านทาง วอล์คกี้ ว่า พวก บัตรเครดิต หรือจ่ายด้วยอะไรก็ตามที่ประมาณไม่ใช่ QR code ให้ทำที่หลังเลย เสียเวลา ลูกค้าเยอะ ให้เอาพวก Scan QR code ก่อน ??? ความจริงจะบอกแบบนั้นได้อย่างไรครับ จะทั้งบัตร ทั้ง QR ก็เสียเวลาไม่ทิ้งกันเท่าไหร่ จะปฏิเสธ หรือเลือกปฏิบัติแบบนี้ได้อย่างไรล่ะ
ผมแค่กำลังคิดว่า ยอดขายที่เพิ่มขึ้นจาก บุฟเฟ่ต์ 200 กว่าบาท อาจได้ลูกค้าที่มาเพราะ 200 กว่าบาท แล้วก็ไม่กลับมาเลย จะให้เค้ากลับมากินแบบ a la carte ที่เหมือนราคาจะเพิ่มขึ้นหรือก็ไม่รู้ แต่ฐานลูกค้าเก่าๆ ที่ยังคงยินดีที่จะจ่ายราคาปรกติ กลับกลายเป็นได้รับการบริการที่เหมือนจะไม่ใช่แบบนี้ ไปๆ มาๆ โปรโมชั่นแบบนี้ มาเหมือนไฟลามทุ่ง แล้วก็วูบหายไปเลย รวมถึงลูกค้าเก่าๆ ที่เป็นลูกค้าคุณมานานๆ ก็จะพลอยหายไปด้วย
MK Restaurant กับวันที่มีโปรบุฟเฟ่ต์ ลูกค้าเยอะขึ้น แต่อย่าได้ลืมลูกค้าเก่าๆ ที่ไม่ได้ไปกินบุฟเฟ่ต์
และอีกสาขาที่มีมาพักใหญ่แล้ว แต่ราคา 440 ก็คือตรง Big c ชลบุรี ที่มีมาพักใหญ่ ผมก็ไปกินที่นี่มาได้ 3-4 ครั้ง ไปกัน 4 คนก็ 1.6 1.7 พันบาท ประมาณนี้
แต่เอาจริงๆ แบบ a la carte ก็จะจ่ายประมาณเท่านี้ อาทิตย์ที่ผ่านมาเที่ยงๆ ก็อยากแวะไปกินพอดี วันนี้ผมเลือกกินแบบ a la carte ที่ผมคิดว่าคงจ่ายราคาเท่าๆ กับบุฟเฟ่ต์ 440 ไม่ต่างกันเท่าไหร่ จะแพงนิดถูกหน่อย ก็ไม่เป็นไร เพราะอยากกินแบบที่ต้องการมากกว่า
สิ่งที่ทำให้ผมอยากแนะนำ mk จริงๆ คือ ระบบของคุณยังไม่พร้อมจริงๆ กับการต้องมารับทั้งลูกค้า บุฟเฟ่ต์ กับ a la carte ทั้งๆ ที่เป็นบริษัทมหาชนแบบนี้ แต่ทำไมระบบถึงได้แย่มากมายเพียงนี้ ผมใช้เวลารอนานมากๆ สำหรับอาหารแต่ละชุดที่ออกมา คือ ผมไม่ได้หมายความว่าผมสั่งแบบนี้จะต้องได้เร็วกว่า บริการแตกต่างจากบุฟเฟ่ต์ แต่โดยปรกติแล้ว ควรแยกออกจากกัน ผมใช้เวลาคอยนานกว่า บุฟเฟ่ต์เสียอีก และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมยืนฟังหน้าร้านผมตกใจมาก คือ พนักงานที่ยืนหน้าร้าน บอกพนักงานในร้านผ่านทาง วอล์คกี้ ว่า พวก บัตรเครดิต หรือจ่ายด้วยอะไรก็ตามที่ประมาณไม่ใช่ QR code ให้ทำที่หลังเลย เสียเวลา ลูกค้าเยอะ ให้เอาพวก Scan QR code ก่อน ??? ความจริงจะบอกแบบนั้นได้อย่างไรครับ จะทั้งบัตร ทั้ง QR ก็เสียเวลาไม่ทิ้งกันเท่าไหร่ จะปฏิเสธ หรือเลือกปฏิบัติแบบนี้ได้อย่างไรล่ะ
ผมแค่กำลังคิดว่า ยอดขายที่เพิ่มขึ้นจาก บุฟเฟ่ต์ 200 กว่าบาท อาจได้ลูกค้าที่มาเพราะ 200 กว่าบาท แล้วก็ไม่กลับมาเลย จะให้เค้ากลับมากินแบบ a la carte ที่เหมือนราคาจะเพิ่มขึ้นหรือก็ไม่รู้ แต่ฐานลูกค้าเก่าๆ ที่ยังคงยินดีที่จะจ่ายราคาปรกติ กลับกลายเป็นได้รับการบริการที่เหมือนจะไม่ใช่แบบนี้ ไปๆ มาๆ โปรโมชั่นแบบนี้ มาเหมือนไฟลามทุ่ง แล้วก็วูบหายไปเลย รวมถึงลูกค้าเก่าๆ ที่เป็นลูกค้าคุณมานานๆ ก็จะพลอยหายไปด้วย