ชวนคุยขำๆนะครับ เพราะมันไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงหรอก ผมเอาไอเดียนี้มาจาก dota2 นี่แหละ รื้อ Format เก่าออกหมด แล้วแข่ง Format ใหม่ เป็นแบบ Double Elimination แทน เหมือนการแข่งขัน e-sports ตัวอย่างแบบในรูปนี้เลยครับ

*ยกตัวอย่างจากอันดับในปีล่าสุดนะครับ
รูปแบบการแข่งขัน
การจัดอันดับ Seed
ทีมที่จบ อันดับ 1–4 ของแต่ละสาย (East/West) จะอยู่ใน สายบน
ทีม อันดับ 5–8 จะอยู่ใน สายล่าง ต้องเจอกันเองก่อน
รูปแบบซีรีส์แต่ละรอบ
รอบแรกของสายล่าง (Seed 5–8) แข่งแบบ BO3 (Best-of-3)
รอบอื่นทั้งหมด (รวมถึงรอบชิง) แข่งแบบ BO5 (Best-of-5)
เส้นทางการแข่งขัน
สายบน: ใครแพ้จะ ตกลงไปแข่งต่อในสายล่าง ยังไม่ตกรอบทันที
สายล่าง: แพ้ = ตกรอบทันที
ผู้ชนะจากสายล่าง จะได้ชิง NBA Grand Final กับชนะสายบน
รอบ Playoffs ทั้งหมดจะจัดที่ สนามกลางเมืองเดียวกัน
อาจเลือกเป็นเมืองที่ไม่มีทีมผ่านเข้ารอบ เช่น Seattle, Las Vegas หรือเมืองต่างประเทศ (เช่น ปารีส ปักกิ่ง โตเกียว)
แข่งที่สนามกลาง ลดความได้เปรียบ-เสียเปรียบจากการเป็นเจ้าบ้านที่มากกว่าในรอบชิง
การแข่งขันใน Regular Season ที่เข้มข้นมากขึ้น เพราะอันดับ Seed 1-4 จะมีสายบนเป็นเดิมกัน
และจำนวนเกมที่ต้องแข่งจะน้อยกว่าทีมจากสายล่างมาก ทำให้ได้เปรียบเรื่องการพักการเตรียมทีม
มีจำนวนเกมเฉลี่ยน้อยกว่าเล็กน้อย
แบบปัจจุบัน
ต่ำสุด 60 เกม
สูงสุด 105 เกม
แบบในกระทู้
ต่ำสุด 59 เกม
สูงสุด 97 เกม
แต่ทีมสายล่างจะค่อนข้างหนัก เพราะอาจจะต้องเล่นมากสุดถึง 35 เกม (*ถ้าร่วงจากสายบนแล้วต้องเล่นทุกเกมจากสายล่างจนถึงรอบชิง)
จำนวนเกมของทีมแชมป์
NBA Playoffs แบบปกติ
สูงสุด: 28 เกม
ต่ำสุด (ถ้าชนะรวด 4-0 ทุกซีรีส์): 16 เกม
ระบบ Double Elimination
- กรณี 1: ทีมแชมป์ "ไร้พ่าย" อยู่ Upper Bracket ตลอด
สูงสุด: 20 เกม
ต่ำสุด (ถ้าชนะรวด BO5 ทั้งหมด 3-0): 12 เกม
- กรณี 2: ทีมแชมป์ "แพ้รอบแรกของ Upper Bracket" แล้วไต่สายล่างจนกลับมาแชมป์
สูงสุด: 35 เกม
ต่ำสุด (ชนะรวดหลังจากแพ้รอบแรก): 21 เกม
- กรณีที่ 3 ทีมแชมป์ "มาจากสายล่างตั้งแต่รอบแรก" ตบทุกทีมจนได้แชมป์
สูงสุด: 33 เกม
ต่ำสุด: 20 เกม
จุดเด่นของกติกานี้
ให้รางวัลทีมที่ตั้งใจเล่นจริงในฤดูกาลปกติ
เปิดโอกาสให้เกิด ทีมม้ามืดจากสายล่าง
ลดการได้เปรียบจาก "สนามเหย้า"
เพิ่มความตื่นเต้น และเนื้อเรื่องแบบ underdog ที่แฟนๆ ชอบ
ข้อเสียของกติกานี้
1. จำนวนเกมไม่แน่นอนและไม่สมดุล
2. กระทบเรื่องการถ่ายทอดสดและตารางแข่งขัน
3. เสียรายได้จากสนามเหย้า
4. ต้นทุนและการจัดการสูงขึ้น
5. แฟนทีมต่างเมืองอาจไม่สามารถเดินทางมาชมได้
6. จุกจิก ยุ่งยาก และเข้าใจยากเกินไป
ถ้า NBA Playoffs เปลี่ยน Format การแข่งขันใหม่เป็นแบบนี้ คิดว่าจะสนุกกว่าปัจจุบันมั๊ยครับ?
*ยกตัวอย่างจากอันดับในปีล่าสุดนะครับ
รูปแบบการแข่งขัน
การจัดอันดับ Seed
ทีมที่จบ อันดับ 1–4 ของแต่ละสาย (East/West) จะอยู่ใน สายบน
ทีม อันดับ 5–8 จะอยู่ใน สายล่าง ต้องเจอกันเองก่อน
รูปแบบซีรีส์แต่ละรอบ
รอบแรกของสายล่าง (Seed 5–8) แข่งแบบ BO3 (Best-of-3)
รอบอื่นทั้งหมด (รวมถึงรอบชิง) แข่งแบบ BO5 (Best-of-5)
เส้นทางการแข่งขัน
สายบน: ใครแพ้จะ ตกลงไปแข่งต่อในสายล่าง ยังไม่ตกรอบทันที
สายล่าง: แพ้ = ตกรอบทันที
ผู้ชนะจากสายล่าง จะได้ชิง NBA Grand Final กับชนะสายบน
รอบ Playoffs ทั้งหมดจะจัดที่ สนามกลางเมืองเดียวกัน
อาจเลือกเป็นเมืองที่ไม่มีทีมผ่านเข้ารอบ เช่น Seattle, Las Vegas หรือเมืองต่างประเทศ (เช่น ปารีส ปักกิ่ง โตเกียว)
แข่งที่สนามกลาง ลดความได้เปรียบ-เสียเปรียบจากการเป็นเจ้าบ้านที่มากกว่าในรอบชิง
การแข่งขันใน Regular Season ที่เข้มข้นมากขึ้น เพราะอันดับ Seed 1-4 จะมีสายบนเป็นเดิมกัน
และจำนวนเกมที่ต้องแข่งจะน้อยกว่าทีมจากสายล่างมาก ทำให้ได้เปรียบเรื่องการพักการเตรียมทีม
มีจำนวนเกมเฉลี่ยน้อยกว่าเล็กน้อย
แบบปัจจุบัน
ต่ำสุด 60 เกม
สูงสุด 105 เกม
แบบในกระทู้
ต่ำสุด 59 เกม
สูงสุด 97 เกม
แต่ทีมสายล่างจะค่อนข้างหนัก เพราะอาจจะต้องเล่นมากสุดถึง 35 เกม (*ถ้าร่วงจากสายบนแล้วต้องเล่นทุกเกมจากสายล่างจนถึงรอบชิง)
จำนวนเกมของทีมแชมป์
NBA Playoffs แบบปกติ
สูงสุด: 28 เกม
ต่ำสุด (ถ้าชนะรวด 4-0 ทุกซีรีส์): 16 เกม
ระบบ Double Elimination
- กรณี 1: ทีมแชมป์ "ไร้พ่าย" อยู่ Upper Bracket ตลอด
สูงสุด: 20 เกม
ต่ำสุด (ถ้าชนะรวด BO5 ทั้งหมด 3-0): 12 เกม
- กรณี 2: ทีมแชมป์ "แพ้รอบแรกของ Upper Bracket" แล้วไต่สายล่างจนกลับมาแชมป์
สูงสุด: 35 เกม
ต่ำสุด (ชนะรวดหลังจากแพ้รอบแรก): 21 เกม
- กรณีที่ 3 ทีมแชมป์ "มาจากสายล่างตั้งแต่รอบแรก" ตบทุกทีมจนได้แชมป์
สูงสุด: 33 เกม
ต่ำสุด: 20 เกม
จุดเด่นของกติกานี้
ให้รางวัลทีมที่ตั้งใจเล่นจริงในฤดูกาลปกติ
เปิดโอกาสให้เกิด ทีมม้ามืดจากสายล่าง
ลดการได้เปรียบจาก "สนามเหย้า"
เพิ่มความตื่นเต้น และเนื้อเรื่องแบบ underdog ที่แฟนๆ ชอบ
ข้อเสียของกติกานี้
1. จำนวนเกมไม่แน่นอนและไม่สมดุล
2. กระทบเรื่องการถ่ายทอดสดและตารางแข่งขัน
3. เสียรายได้จากสนามเหย้า
4. ต้นทุนและการจัดการสูงขึ้น
5. แฟนทีมต่างเมืองอาจไม่สามารถเดินทางมาชมได้
6. จุกจิก ยุ่งยาก และเข้าใจยากเกินไป