สวัสดีเพื่อนๆ ชาว Pantip
จากกระทู้รถมือสอง ต่ำกว่าแสน
https://pantip.com/topic/43562801
กีมีบาง คห บอกว่ามันไม่น่าใช้ กลัวพัง ซ่อมแพง รถไม่ควรเกิน 7 ปี จริงไหม
บอกเลยว่า
"จริง" สำหรับคนที่ไม่พร้อม และ
"ไม่เลย" สำหรับคนที่มีความเข้าใจ!
สำหรับคนที่มี
งบประมาณจำกัด หรืออยากได้แค่รถเอาไว้ขับทำงาน ส่งลูก ซื้อของเข้าบ้าน ไม่ได้ต้องการความหรูหราอลังการ
รถมือสองราคาถูกคือทางออกที่ครับ! มันช่วยให้คุณมีรถขับในราคาที่จับต้องได้ ไม่ต้องไปเป็นหนี้ก้อนใหญ่ผ่อนรถป้ายแดงจนกระเป๋าฉีก แต่ทีนี้คนที่กลัวนักกลัวหนาเนี่ย ส่วนใหญ่คือพวกที่
ขาดความรู้ในการเลือกดูรถ! เจอรุ่นไหนสวยก็เอา พอเจอรถที่เจ้าของเดิมไม่เคยดูแล หรือพวกย้อมแมวมาขาย พังทีก็โวยวายว่า "ซ่อมแพง! กินข้าวลิง!" ซึ่งก็เป็นบทเรียนราคาแพงที่ต้องเจอไปครับ
น่าแปลกนะ... บางคนก็ยังติดกรอบว่ารถต้องไม่เกิน 7 ปี กลัวจุกจิก กลัวซ่อมแพง คนที่บอกว่า "รถไม่ควรเกิน 7 ปี" เนี่ย อาจจะเป็นพวกที่ไม่เคยศึกษาประวัติหรือการดูแลรถอย่างละเอียดรึเปล่า?
รถมือสองไม่ได้ถูกจำกัดด้วยอายุ หากมันถูกดูแลมาอย่างดีเยี่ยม!
สุดท้ายแล้ว ไอ้เรื่อง
รถมือสองราคาถูก เนี่ย มันไม่ได้อยู่ที่
"โชคชะตา" อย่างเดียวหรอกครับ มันอยู่ที่
"ความรู้" กับ
"วิจารณญาณ" ถ้าคุณมีความรู้ ดูรถเป็น รู้จุดอ่อนแต่ละรุ่น หรือมีอู่ที่ไว้ใจได้ ต่อให้ราคาถูกแค่ไหน คุณก็สามารถค้นพบรถดีๆ ที่คุ้มค่าได้! แต่ถ้าคุณไม่มีข้อมูลอะไรเลยนอกจากเงินในมือ แล้วดันไปเจอพวกเต็นท์รถที่ไม่ซื่อสัตย์ รถย้อมแมว อาจจะไม่ได้แค่กินข้าวลิงหรอกครับ อาจจะหมดตัวกับการซ่อมได้เลย!
มุมมองของ "คนมีเงิน" ต่อรถยนต์
สำหรับคนที่มี
ทุนทรัพย์ไม่จำกัด หรือที่เรียกว่า
"งบเยอะ" เนี่ย เขามีมุมมองต่อรถยนต์ที่แตกต่างออกไปอย่างชัดเจนครับ ไม่ว่าจะเป็นรถป้ายแดงหรือรถมือสอง ก็มีเหตุผลในการเลือกใช้ของเขาเอง
1. รถป้ายแดง: ทางเลือกของ "ความสบาย" และ "เวลา"
คนกลุ่มนี้ไม่มาเสียเวลาชีวิตกับเรื่องจุกจิกกวนใจของรถมือสองหรอกครับ! พวกเขามองว่า
รถป้ายแดง คือความสะดวกสบายขั้นสุด แค่เดินไปซื้อ แล้วใช้ไป 5-7 ปี พอเริ่มเบื่อ เริ่มตกรุ่น หรืออยากได้เทคโนโลยีใหม่ๆ เขาก็เปลี่ยนคันใหม่ไปเลยทันที ไม่ต้องมานั่งคิดเล็กคิดน้อยเรื่องค่าซ่อม หรือค่าเสื่อมราคาให้มันรกสมอง
นี่คือไลฟ์สไตล์ของคนที่ให้ความสำคัญกับ:
ความสบายใจสูงสุด: ไม่ต้องมานั่งลุ้นว่าจะเสียตรงไหนเมื่อไหร่ เพราะได้ใช้รถใหม่แกะกล่องตลอดเวลา
เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเสมอ: รถรุ่นใหม่ย่อมมาพร้อมฟังก์ชันและนวัตกรรมที่ทันสมัยกว่าเสมอ
ภาพลักษณ์: รถป้ายแดงสะท้อนถึงความสำเร็จและสถานะทางสังคมได้อย่างชัดเจน
ประหยัดเวลา: ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการซ่อมบำรุง หรือหาข้อมูลรถมือสองให้วุ่นวาย เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่สร้างประโยชน์หรือความสุขให้ชีวิตดีกว่าเยอะ
สำหรับคนกลุ่มนี้
เวลาและเงิน คือสิ่งที่แลกเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ การจ่ายแพงกว่าเพื่อซื้อความสบายใจ ประหยัดเวลาชีวิตไปทำอย่างอื่นที่สำคัญกว่า จึงเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลที่สุดครับ
2. รถมือสอง: เมื่อ "Passion" สำคัญกว่า "ราคา"
สำหรับคนที่มีทุนทรัพย์เยอะ ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ชายตามองรถมือสองเลยนะครับ แต่ถ้าเขาจะซื้อ
รถมือสอง เนี่ย มันจะไม่ใช่รถตลาดทั่วไปที่ราคาถูกๆ หรอกครับ แต่มันจะเป็นไปเพื่อ
"สนองความต้องการเฉพาะ" และ
"ความหลงใหลส่วนตัว" มากกว่า
เขาอาจจะซื้อรถมือสองที่เป็น:
รถสปอร์ตสมรรถนะสูง ที่ปีไม่เก่ามาก เพื่อเอามาขับซิ่งในสนาม หรือบนถนนที่ปลอดภัย
รถหรูรุ่นหายาก หรือ
รถคลาสสิก ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์หรือการสะสม เพื่อเอามาบูรณะ ซ่อมแซมให้กลับมาสมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อเป็นของสะสม หรือเป็นงานอดิเรก ซึ่งการลงทุนตรงนี้ไม่เกี่ยวกับความคุ้มค่าด้านการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่เป็นเรื่องของ
Passion และ
ความพึงพอใจส่วนตัว ล้วนๆ
จะเห็นได้ว่ามุมมองของคนมีเงินต่อรถแต่ละประเภทนั้นชัดเจนมากครับ
รถป้ายแดง คือความสะดวกสบายและเทคโนโลยีล่าสุด ส่วน
รถมือสอง คือความหลงใหลและคุณค่าที่ไม่ใช่ตัวเงิน!
ซื้อแสน ซ่อมแสน ใช้ยาวๆ... นี่แหละคือการลงทุนที่โคตรคุ้มค่าสำหรับ "นักเล่นรถมือสองตัวจริง"!
สำหรับคนที่พร้อมจะลงทุนใน "ความรู้" และ "เวลา" เพื่อให้ได้ "ความคุ้มค่า" สูงสุด แนวคิด
"ซื้อ 1 ซ่อม 1" คือคำตอบสำหรับ
รถมือสอง!
อย่างที่คุณบอกว่ารถเก่าราคาแสนนึง ซื้อมาแล้วเอาอีกแสนนึงไป หรืออาจจะเกินแสนเพราะเปลี่ยนให้หมด อัพเกรดทุกเม็ด
"ซ่อมเก็บจุดอ่อน" ให้มันจบจริงๆ แล้วใช้ยาวๆ 4-5 ปีเนี่ย
นี่แหละคือแนวคิดของนักลงทุนที่ชอบความคุ้มค่าและประหยัด! ไม่ใช่แค่คนที่คิดจะซื้อรถมาขับเฉยๆ นะครับ!
แนวคิด "ซื้อ 1 ซ่อม 1" เพื่อใช้ยาวๆ แบบนี้ ไม่ได้มีไว้ให้ทุกคนหรอกนะครับ ผมมองว่าคนที่จะก้าวมาถึงจุดนี้ได้คือ:
ผู้ที่มีความรู้ด้านรถยนต์: อย่างน้อยต้องพอรู้ว่าอะไรเสียบ่อย อะไรคือจุดอ่อนรุ่นนั้นๆ และที่สำคัญคือต้องมีอู่ประจำที่ไว้ใจได้ ฝีมือดี ไม่มั่ว!
ผู้ที่มีงบประมาณสำรอง: ไอ้เงินแสนที่ว่าน่ะ มันต้องเป็นเงินเย็นๆ ที่พร้อมจะลงทุน ไม่ใช่เงินหมุนที่ต้องไปกู้มาซ่อม เพราะถ้าไม่มี ก็ลำบากแน่นอน!
ผู้ที่ไม่ยึดติดกับภาพลักษณ์: ไม่ได้ต้องการรถใหม่เอี่ยม หรือภาพลักษณ์ไฮโซ เน้นที่ฟังก์ชันการใช้งาน ความทนทาน และความคุ้มค่าเป็นหลัก!
ผู้ที่มองเห็นคุณค่าระยะยาว: มองเห็นความคุ้มค่าของการประหยัดค่าผ่อนรถหลายๆ แสน แล้วเอาเงินก้อนนั้นมาทำให้รถเก่ามันสมบูรณ์พร้อมใช้ นี่แหละคือชัยชนะที่แท้จริง!
สรุปคือมันคือการลงทุนอย่างคุ้มค่า เพื่อให้ได้รถที่ตอบโจทย์การใช้งานในงบประมาณมากที่สุด โดยไม่ต้องไปเป็นทาสไฟแนนซ์! ใครที่ยังกลัวๆ อยู่ก็ลองคิดดูดีๆ นะครับว่าอยากเป็นคนกลุ่มไหน!
คุณล่ะครับ มีเรื่องราวการผจญภัยกับรถมือสองที่ซ่อมจนจบแล้วใช้ยาวๆ มาแชร์ให้ฟังอีกบ้างไหม?
หรือใครเป็นสายป้ายแดงเปลี่ยนบ่อย มาเล่าประสบการณ์ความสุขที่ไม่ต้องปวดหัวให้ฟังบ้าง!
รถมือสองราคาถูก... หรือรถปีลึกๆ มันไม่น่าใช้ขนาดนั้นเลยเหรอ?
จากกระทู้รถมือสอง ต่ำกว่าแสน https://pantip.com/topic/43562801
กีมีบาง คห บอกว่ามันไม่น่าใช้ กลัวพัง ซ่อมแพง รถไม่ควรเกิน 7 ปี จริงไหม
บอกเลยว่า "จริง" สำหรับคนที่ไม่พร้อม และ "ไม่เลย" สำหรับคนที่มีความเข้าใจ!
สำหรับคนที่มี งบประมาณจำกัด หรืออยากได้แค่รถเอาไว้ขับทำงาน ส่งลูก ซื้อของเข้าบ้าน ไม่ได้ต้องการความหรูหราอลังการ รถมือสองราคาถูกคือทางออกที่ครับ! มันช่วยให้คุณมีรถขับในราคาที่จับต้องได้ ไม่ต้องไปเป็นหนี้ก้อนใหญ่ผ่อนรถป้ายแดงจนกระเป๋าฉีก แต่ทีนี้คนที่กลัวนักกลัวหนาเนี่ย ส่วนใหญ่คือพวกที่ ขาดความรู้ในการเลือกดูรถ! เจอรุ่นไหนสวยก็เอา พอเจอรถที่เจ้าของเดิมไม่เคยดูแล หรือพวกย้อมแมวมาขาย พังทีก็โวยวายว่า "ซ่อมแพง! กินข้าวลิง!" ซึ่งก็เป็นบทเรียนราคาแพงที่ต้องเจอไปครับ
น่าแปลกนะ... บางคนก็ยังติดกรอบว่ารถต้องไม่เกิน 7 ปี กลัวจุกจิก กลัวซ่อมแพง คนที่บอกว่า "รถไม่ควรเกิน 7 ปี" เนี่ย อาจจะเป็นพวกที่ไม่เคยศึกษาประวัติหรือการดูแลรถอย่างละเอียดรึเปล่า? รถมือสองไม่ได้ถูกจำกัดด้วยอายุ หากมันถูกดูแลมาอย่างดีเยี่ยม!
สุดท้ายแล้ว ไอ้เรื่อง รถมือสองราคาถูก เนี่ย มันไม่ได้อยู่ที่ "โชคชะตา" อย่างเดียวหรอกครับ มันอยู่ที่ "ความรู้" กับ "วิจารณญาณ" ถ้าคุณมีความรู้ ดูรถเป็น รู้จุดอ่อนแต่ละรุ่น หรือมีอู่ที่ไว้ใจได้ ต่อให้ราคาถูกแค่ไหน คุณก็สามารถค้นพบรถดีๆ ที่คุ้มค่าได้! แต่ถ้าคุณไม่มีข้อมูลอะไรเลยนอกจากเงินในมือ แล้วดันไปเจอพวกเต็นท์รถที่ไม่ซื่อสัตย์ รถย้อมแมว อาจจะไม่ได้แค่กินข้าวลิงหรอกครับ อาจจะหมดตัวกับการซ่อมได้เลย!
มุมมองของ "คนมีเงิน" ต่อรถยนต์
สำหรับคนที่มี ทุนทรัพย์ไม่จำกัด หรือที่เรียกว่า "งบเยอะ" เนี่ย เขามีมุมมองต่อรถยนต์ที่แตกต่างออกไปอย่างชัดเจนครับ ไม่ว่าจะเป็นรถป้ายแดงหรือรถมือสอง ก็มีเหตุผลในการเลือกใช้ของเขาเอง
1. รถป้ายแดง: ทางเลือกของ "ความสบาย" และ "เวลา"
คนกลุ่มนี้ไม่มาเสียเวลาชีวิตกับเรื่องจุกจิกกวนใจของรถมือสองหรอกครับ! พวกเขามองว่า รถป้ายแดง คือความสะดวกสบายขั้นสุด แค่เดินไปซื้อ แล้วใช้ไป 5-7 ปี พอเริ่มเบื่อ เริ่มตกรุ่น หรืออยากได้เทคโนโลยีใหม่ๆ เขาก็เปลี่ยนคันใหม่ไปเลยทันที ไม่ต้องมานั่งคิดเล็กคิดน้อยเรื่องค่าซ่อม หรือค่าเสื่อมราคาให้มันรกสมอง
นี่คือไลฟ์สไตล์ของคนที่ให้ความสำคัญกับ:
ความสบายใจสูงสุด: ไม่ต้องมานั่งลุ้นว่าจะเสียตรงไหนเมื่อไหร่ เพราะได้ใช้รถใหม่แกะกล่องตลอดเวลา
เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเสมอ: รถรุ่นใหม่ย่อมมาพร้อมฟังก์ชันและนวัตกรรมที่ทันสมัยกว่าเสมอ
ภาพลักษณ์: รถป้ายแดงสะท้อนถึงความสำเร็จและสถานะทางสังคมได้อย่างชัดเจน
ประหยัดเวลา: ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการซ่อมบำรุง หรือหาข้อมูลรถมือสองให้วุ่นวาย เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่สร้างประโยชน์หรือความสุขให้ชีวิตดีกว่าเยอะ
สำหรับคนกลุ่มนี้ เวลาและเงิน คือสิ่งที่แลกเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ การจ่ายแพงกว่าเพื่อซื้อความสบายใจ ประหยัดเวลาชีวิตไปทำอย่างอื่นที่สำคัญกว่า จึงเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลที่สุดครับ
2. รถมือสอง: เมื่อ "Passion" สำคัญกว่า "ราคา"
สำหรับคนที่มีทุนทรัพย์เยอะ ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ชายตามองรถมือสองเลยนะครับ แต่ถ้าเขาจะซื้อ รถมือสอง เนี่ย มันจะไม่ใช่รถตลาดทั่วไปที่ราคาถูกๆ หรอกครับ แต่มันจะเป็นไปเพื่อ "สนองความต้องการเฉพาะ" และ "ความหลงใหลส่วนตัว" มากกว่า
เขาอาจจะซื้อรถมือสองที่เป็น:
รถสปอร์ตสมรรถนะสูง ที่ปีไม่เก่ามาก เพื่อเอามาขับซิ่งในสนาม หรือบนถนนที่ปลอดภัย
รถหรูรุ่นหายาก หรือ รถคลาสสิก ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์หรือการสะสม เพื่อเอามาบูรณะ ซ่อมแซมให้กลับมาสมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อเป็นของสะสม หรือเป็นงานอดิเรก ซึ่งการลงทุนตรงนี้ไม่เกี่ยวกับความคุ้มค่าด้านการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่เป็นเรื่องของ Passion และ ความพึงพอใจส่วนตัว ล้วนๆ
จะเห็นได้ว่ามุมมองของคนมีเงินต่อรถแต่ละประเภทนั้นชัดเจนมากครับ รถป้ายแดง คือความสะดวกสบายและเทคโนโลยีล่าสุด ส่วน รถมือสอง คือความหลงใหลและคุณค่าที่ไม่ใช่ตัวเงิน!
ซื้อแสน ซ่อมแสน ใช้ยาวๆ... นี่แหละคือการลงทุนที่โคตรคุ้มค่าสำหรับ "นักเล่นรถมือสองตัวจริง"!
สำหรับคนที่พร้อมจะลงทุนใน "ความรู้" และ "เวลา" เพื่อให้ได้ "ความคุ้มค่า" สูงสุด แนวคิด "ซื้อ 1 ซ่อม 1" คือคำตอบสำหรับ รถมือสอง!
อย่างที่คุณบอกว่ารถเก่าราคาแสนนึง ซื้อมาแล้วเอาอีกแสนนึงไป หรืออาจจะเกินแสนเพราะเปลี่ยนให้หมด อัพเกรดทุกเม็ด "ซ่อมเก็บจุดอ่อน" ให้มันจบจริงๆ แล้วใช้ยาวๆ 4-5 ปีเนี่ย นี่แหละคือแนวคิดของนักลงทุนที่ชอบความคุ้มค่าและประหยัด! ไม่ใช่แค่คนที่คิดจะซื้อรถมาขับเฉยๆ นะครับ!
แนวคิด "ซื้อ 1 ซ่อม 1" เพื่อใช้ยาวๆ แบบนี้ ไม่ได้มีไว้ให้ทุกคนหรอกนะครับ ผมมองว่าคนที่จะก้าวมาถึงจุดนี้ได้คือ:
ผู้ที่มีความรู้ด้านรถยนต์: อย่างน้อยต้องพอรู้ว่าอะไรเสียบ่อย อะไรคือจุดอ่อนรุ่นนั้นๆ และที่สำคัญคือต้องมีอู่ประจำที่ไว้ใจได้ ฝีมือดี ไม่มั่ว!
ผู้ที่มีงบประมาณสำรอง: ไอ้เงินแสนที่ว่าน่ะ มันต้องเป็นเงินเย็นๆ ที่พร้อมจะลงทุน ไม่ใช่เงินหมุนที่ต้องไปกู้มาซ่อม เพราะถ้าไม่มี ก็ลำบากแน่นอน!
ผู้ที่ไม่ยึดติดกับภาพลักษณ์: ไม่ได้ต้องการรถใหม่เอี่ยม หรือภาพลักษณ์ไฮโซ เน้นที่ฟังก์ชันการใช้งาน ความทนทาน และความคุ้มค่าเป็นหลัก!
ผู้ที่มองเห็นคุณค่าระยะยาว: มองเห็นความคุ้มค่าของการประหยัดค่าผ่อนรถหลายๆ แสน แล้วเอาเงินก้อนนั้นมาทำให้รถเก่ามันสมบูรณ์พร้อมใช้ นี่แหละคือชัยชนะที่แท้จริง!
สรุปคือมันคือการลงทุนอย่างคุ้มค่า เพื่อให้ได้รถที่ตอบโจทย์การใช้งานในงบประมาณมากที่สุด โดยไม่ต้องไปเป็นทาสไฟแนนซ์! ใครที่ยังกลัวๆ อยู่ก็ลองคิดดูดีๆ นะครับว่าอยากเป็นคนกลุ่มไหน!
คุณล่ะครับ มีเรื่องราวการผจญภัยกับรถมือสองที่ซ่อมจนจบแล้วใช้ยาวๆ มาแชร์ให้ฟังอีกบ้างไหม?
หรือใครเป็นสายป้ายแดงเปลี่ยนบ่อย มาเล่าประสบการณ์ความสุขที่ไม่ต้องปวดหัวให้ฟังบ้าง!