สงสัยลูกน้องที่คอยช่วยงานขโมยของแต่ไม่มีหลักฐาน แต่ค่อนข้างมันใจว่าเป็นเขาเพราะคนเข้าพื้นที่มีแค่ผมกับเขาและน้าสาวอีกคน (ผมมั่นใจน้าสาวว่าเขาไม่ได้เป็นคนเอาไปแน่ๆ ) เราควรจัดการหรือพูดกับเขายังงัยเพราะเราก็ยังอยากพึ่งเขา แต่ถ้าจะจัดการให้เด็ดขาดได้ผมก็อยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งเขาแม้จะลำบากหน่อย
คำถามมีเท่านี้
……………………………………………………..
ข้างล่างเป็นรายละเอียด ไม่อ่านก็ได้อ่านก็จะเข้าใจรายละเอียดของเรื่อง
ผมมีห้องเช่าประมาณ 12 ห้อง ไม่ค่อยได้อยู่ที่นี่ ไปๆ มาๆ
(ชื่อมุมติ A) นายเอเป็นผู้เช่าเก่าแกเช่ามาหลายปีมากๆ แกเป็นคนว่างงาน
แต่นายเอ ทำได้หลายอย่างเป็นสารพัดช่าง และคอยกวาดเช็ดบริเวณห้องเช่าให้สะอาดบ่อยๆ ปัญหาบางอย่างผมไม่ต้องเข้ามาที่นี่ แค่โทรคุยกับนายเอ นายเอก็ช่วยจัดการปัญหาให้ได้ ผมให้เงินตอบแทนตามควร
ความช่วยเหลือของนายเอ ทำให้ผมเบาแรงไปได้เยอะ คนทั่วไปเห็นและเข้าใจว่านายเอเป็นลูกน้องผม
นายเเคยเอาวัสดุก่อสร้างมาเสนอขายผมในราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยอ้างว่าเป็นของเหลือจากตอนเขาไปทำงานที่อื่น เวลาผมจะซ่อมแซมห้องเช่า เช่น สีถัง หรือซิลิโคลนหลอด ผมเคยซื้อสีเขามาใช้ครั้งนึง แต่ต่อมาผมก็เคยได้ยินว่านายเอโดนคนทำร้านเพราะถูกจับได้ว่าไปขโมยของเขามา ผมเลยสังหรณืใจเกี่ยวกับของต่างๆ ที่นายเอมักชอบเสนอมาขายให้เลยไม่คิดจะซื้ออีก เมื่อผมไม่ซื้อของ เรื่องก็ไม่มีอะไร ผมก็จ้างวานเช็ดถู หรือเรียกใช้ช่วยงานเวลาผมไปซ่อมห้องเช่า
รายละเอียดอีกนิดหน่อยคือนายเออยู่กับเมียบ่อยครั้งไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้ตามกำหนดขอเลื่อนจ่าย ขอค้างค่าเช่า ผมไม่เคยมีปัญหาเพราะสูดท้ายเขาก็จ่ายครบอยู่ดี บ่อยครั้งก็มายืมเงินแทนเมีย (เมียเขาไม่กล้ายืมผมโดยตรง) แต่เป็นการยืมไม่มาก ผมก็ให้ยืม ไม่ได้ติดอะไร เพราะเขาก็ใช้คืนตลอด หรือบางทีผมก็ไม่เอาคืนโดยหักเป็นค่าที่เขากวาดเช็ดพื้นที่ส่วนกลางให้
………………………………..
เรื่องจะเริ่มจากตรงนี้
คือผมมีเหตุต้องรื้อฝ้าเพดานเพื่อเปลี่ยนฝ้าเพดานใหม่ ผมตัดสินใจทำเอง โดยจะให้นายเอมาช่วย
ผมมีเครื่องมือครบ ผมขนเครื่องมือจากบ้านมาเยอะ บางอย่างไม่ได้ใช้ก็เอาตืดมาเช่น มัลติมิเตอร์
เครื่องมือบางอย่างก็ซื้อของเพิ่มระหว่างทำงาน
ผมเริ่มงานเมื่อวันพฤที่ 6/6/68 (ทำงานเฉพาะวัน จ-ศ คุยกันว่าเริ่มงาน 8:30 จบ 15:00น ในแต่ละวัน)
เนื่องจากเป็นงานที่ไม่คุ้นเคย จึงต้องวิ่งซื้อของบ่อย ผมมักเอายายเอไปด้วย เพราะบ้านไม่มีใครอยู่ ไม่อยากปล่อยไว้คนเดียว ไม่ได้ไว้ใจขนาดนั้น แต่ระหว่างทำงาน เวลาของขาดผมชวนนายเอไป นายเอ ไม่ต่อยอยากไป ผมก็เข้าใจได้เพราะ ผมเองก็ขี้เกียจไป เลยเข้าใจว่าเขาอยากทำงาน แต่ผมของหาย ผมก็มานั่งนึงถึงหลายๆ สถาณการณ์ที่นายเอ พยายามจำทำให้เกิดสถานการณืที่ผมต้องออกไปซื้อของของ แล้วเขาจะไม่ไปด้วย มีครั้งนึงผมไปซื้อของของกลับมาเขาไม่อยู่หน้างาน หรือแม้แต่พักเทียงบางครั้ง หายไปนานๆ กว่าจะกลับมาทำงานก็บ่าย 2 ทำได้แป๊บเดียวก็เลิกงานละ
จะบอกว่าไม่จริงจังกับการทำงานก็ใช่ แต่ถ้าเวลาเขาทำ เขาตั้งใจดี ทำงานเป็น ทุ่มเท
และมีครั้งนึง ผมหาใบเลื่อย 4” ที่จะใส่ลูกหมูไม่เจอ หาไงก็ไม่เจอ แต่สุดท้ายนายเอเอามาให้ ผมถามเอมาจากไหน เขาบอกมันอยู่ในเตียง (เป็นเตียงเปล่าๆ ไม่มีฟูก ผมใช้ไว้วางเครือ่งมือและอื่นๆ ระหง่างทำงาน) ในกล่องมีใบลูกหมูหลายใน และเหล็กฉากที่ซื้อของเป้นกล่องจาก DIY หลายกล่อง ก็ยังไม่คิดอะไร
หน้างานผมใช้สว่านไฟฟ้า กับเลื่อยไฟฟ้าด้วย พอถึงวันศุกร์นายเอมาทำงานครึ่งเช้าพอพักเที่ยงก็ไม่มีอีกเลย ผมก็ไม่ตามผมทำงานคนเดียวไปเรือ่ยๆ แล้ววันนี้แบตของอุปกรณ์ก็เหลือน้อย ต้องชาร์จ ก็กะว่าจบงานวันศุกร์จะชาร์ แล้วก็เลยมารู้ว่าของหายเพราะผมหากล่องใส่แท่นชาร์ไม่เจอ มัลติมิเตอร์ในกล่องก็หายไปด้วย ผมสงสัยนายเอ แต่ไม่มีหลักฐาน จบงานผมไปหานายเอที่ห้องเช่า นายเอหลับ ลุกมาเปิดประตู ผมบอกอุปกรณ์ผมหายเอาไปรึเปล่า เขาปฏิเสธ
วันจันทร์นายเอไม่มาทำงาน ผมทำงานคนเดียวและไล่เก็บของให้เข้าที่เพราะเครื่องมือเยอะ ไม่ได้เลียงจะหายาก ก็เลยรู้ว่า กาพ่นสีหายไปชุดนึง ซื้อของมาสามชุด กา2ชุด ปืนลม 1 ชุด เรื่องแท่นชาร์จผมสงสัยนายเอ แต่กาพ่นสีหายผมค่อนข้างมั่นใจว่าเขาเอาไป
อ้อ อีกเรื่องระหว่างทำงาน นายเอชอบบอกว่ามี นายบี นายซี (เพื่อนห้องเช่าห้องอื่นๆ) ขอมาทำงานด้วย แต่ผมปฏิเสธ เพราะงานไม่ได้ต้องการคนเยอะ อุปกรณ์ก็ไม่ได้เพียงพอ และคิดว่ามากคนค่าใช้จ่ายเก็จะเยอะแต่งานเดินไม่ได้
แต่เมื่อของหายจากในบ้าน ผมเลยคิดว่านายเอคงอยากเอาคนอื่นเข้ามาในพื้นที่เพื่อให้ความน่าสสัยในตัวเขาคลุ่มเคลือ
…………….
มาถึงจุดนี้ผมควรจัดการหรือคุยกับนายเอยังงัยดีครับ และจะจัดการกับสถาณการณืเลห่านี้ยังงัย เช่น
เมื่อเขามายืมเงิน
เมื่อเขามาทำงาน
เมื่อเขามาขอเงินกินข้าว ฯลฯ
ปล. ไม่ได้อยากเอาเรื่องในทางกฏหมาย
สงสัยว่าคนมาช่วยทำงานขโมยของ แต่ไม่มีหลักฐานควรจัดการยังงัยดีครับ
คำถามมีเท่านี้
……………………………………………………..
ข้างล่างเป็นรายละเอียด ไม่อ่านก็ได้อ่านก็จะเข้าใจรายละเอียดของเรื่อง
ผมมีห้องเช่าประมาณ 12 ห้อง ไม่ค่อยได้อยู่ที่นี่ ไปๆ มาๆ
(ชื่อมุมติ A) นายเอเป็นผู้เช่าเก่าแกเช่ามาหลายปีมากๆ แกเป็นคนว่างงาน
แต่นายเอ ทำได้หลายอย่างเป็นสารพัดช่าง และคอยกวาดเช็ดบริเวณห้องเช่าให้สะอาดบ่อยๆ ปัญหาบางอย่างผมไม่ต้องเข้ามาที่นี่ แค่โทรคุยกับนายเอ นายเอก็ช่วยจัดการปัญหาให้ได้ ผมให้เงินตอบแทนตามควร
ความช่วยเหลือของนายเอ ทำให้ผมเบาแรงไปได้เยอะ คนทั่วไปเห็นและเข้าใจว่านายเอเป็นลูกน้องผม
นายเเคยเอาวัสดุก่อสร้างมาเสนอขายผมในราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยอ้างว่าเป็นของเหลือจากตอนเขาไปทำงานที่อื่น เวลาผมจะซ่อมแซมห้องเช่า เช่น สีถัง หรือซิลิโคลนหลอด ผมเคยซื้อสีเขามาใช้ครั้งนึง แต่ต่อมาผมก็เคยได้ยินว่านายเอโดนคนทำร้านเพราะถูกจับได้ว่าไปขโมยของเขามา ผมเลยสังหรณืใจเกี่ยวกับของต่างๆ ที่นายเอมักชอบเสนอมาขายให้เลยไม่คิดจะซื้ออีก เมื่อผมไม่ซื้อของ เรื่องก็ไม่มีอะไร ผมก็จ้างวานเช็ดถู หรือเรียกใช้ช่วยงานเวลาผมไปซ่อมห้องเช่า
รายละเอียดอีกนิดหน่อยคือนายเออยู่กับเมียบ่อยครั้งไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้ตามกำหนดขอเลื่อนจ่าย ขอค้างค่าเช่า ผมไม่เคยมีปัญหาเพราะสูดท้ายเขาก็จ่ายครบอยู่ดี บ่อยครั้งก็มายืมเงินแทนเมีย (เมียเขาไม่กล้ายืมผมโดยตรง) แต่เป็นการยืมไม่มาก ผมก็ให้ยืม ไม่ได้ติดอะไร เพราะเขาก็ใช้คืนตลอด หรือบางทีผมก็ไม่เอาคืนโดยหักเป็นค่าที่เขากวาดเช็ดพื้นที่ส่วนกลางให้
………………………………..
เรื่องจะเริ่มจากตรงนี้
คือผมมีเหตุต้องรื้อฝ้าเพดานเพื่อเปลี่ยนฝ้าเพดานใหม่ ผมตัดสินใจทำเอง โดยจะให้นายเอมาช่วย
ผมมีเครื่องมือครบ ผมขนเครื่องมือจากบ้านมาเยอะ บางอย่างไม่ได้ใช้ก็เอาตืดมาเช่น มัลติมิเตอร์
เครื่องมือบางอย่างก็ซื้อของเพิ่มระหว่างทำงาน
ผมเริ่มงานเมื่อวันพฤที่ 6/6/68 (ทำงานเฉพาะวัน จ-ศ คุยกันว่าเริ่มงาน 8:30 จบ 15:00น ในแต่ละวัน)
เนื่องจากเป็นงานที่ไม่คุ้นเคย จึงต้องวิ่งซื้อของบ่อย ผมมักเอายายเอไปด้วย เพราะบ้านไม่มีใครอยู่ ไม่อยากปล่อยไว้คนเดียว ไม่ได้ไว้ใจขนาดนั้น แต่ระหว่างทำงาน เวลาของขาดผมชวนนายเอไป นายเอ ไม่ต่อยอยากไป ผมก็เข้าใจได้เพราะ ผมเองก็ขี้เกียจไป เลยเข้าใจว่าเขาอยากทำงาน แต่ผมของหาย ผมก็มานั่งนึงถึงหลายๆ สถาณการณ์ที่นายเอ พยายามจำทำให้เกิดสถานการณืที่ผมต้องออกไปซื้อของของ แล้วเขาจะไม่ไปด้วย มีครั้งนึงผมไปซื้อของของกลับมาเขาไม่อยู่หน้างาน หรือแม้แต่พักเทียงบางครั้ง หายไปนานๆ กว่าจะกลับมาทำงานก็บ่าย 2 ทำได้แป๊บเดียวก็เลิกงานละ
จะบอกว่าไม่จริงจังกับการทำงานก็ใช่ แต่ถ้าเวลาเขาทำ เขาตั้งใจดี ทำงานเป็น ทุ่มเท
และมีครั้งนึง ผมหาใบเลื่อย 4” ที่จะใส่ลูกหมูไม่เจอ หาไงก็ไม่เจอ แต่สุดท้ายนายเอเอามาให้ ผมถามเอมาจากไหน เขาบอกมันอยู่ในเตียง (เป็นเตียงเปล่าๆ ไม่มีฟูก ผมใช้ไว้วางเครือ่งมือและอื่นๆ ระหง่างทำงาน) ในกล่องมีใบลูกหมูหลายใน และเหล็กฉากที่ซื้อของเป้นกล่องจาก DIY หลายกล่อง ก็ยังไม่คิดอะไร
หน้างานผมใช้สว่านไฟฟ้า กับเลื่อยไฟฟ้าด้วย พอถึงวันศุกร์นายเอมาทำงานครึ่งเช้าพอพักเที่ยงก็ไม่มีอีกเลย ผมก็ไม่ตามผมทำงานคนเดียวไปเรือ่ยๆ แล้ววันนี้แบตของอุปกรณ์ก็เหลือน้อย ต้องชาร์จ ก็กะว่าจบงานวันศุกร์จะชาร์ แล้วก็เลยมารู้ว่าของหายเพราะผมหากล่องใส่แท่นชาร์ไม่เจอ มัลติมิเตอร์ในกล่องก็หายไปด้วย ผมสงสัยนายเอ แต่ไม่มีหลักฐาน จบงานผมไปหานายเอที่ห้องเช่า นายเอหลับ ลุกมาเปิดประตู ผมบอกอุปกรณ์ผมหายเอาไปรึเปล่า เขาปฏิเสธ
วันจันทร์นายเอไม่มาทำงาน ผมทำงานคนเดียวและไล่เก็บของให้เข้าที่เพราะเครื่องมือเยอะ ไม่ได้เลียงจะหายาก ก็เลยรู้ว่า กาพ่นสีหายไปชุดนึง ซื้อของมาสามชุด กา2ชุด ปืนลม 1 ชุด เรื่องแท่นชาร์จผมสงสัยนายเอ แต่กาพ่นสีหายผมค่อนข้างมั่นใจว่าเขาเอาไป
อ้อ อีกเรื่องระหว่างทำงาน นายเอชอบบอกว่ามี นายบี นายซี (เพื่อนห้องเช่าห้องอื่นๆ) ขอมาทำงานด้วย แต่ผมปฏิเสธ เพราะงานไม่ได้ต้องการคนเยอะ อุปกรณ์ก็ไม่ได้เพียงพอ และคิดว่ามากคนค่าใช้จ่ายเก็จะเยอะแต่งานเดินไม่ได้
แต่เมื่อของหายจากในบ้าน ผมเลยคิดว่านายเอคงอยากเอาคนอื่นเข้ามาในพื้นที่เพื่อให้ความน่าสสัยในตัวเขาคลุ่มเคลือ
…………….
มาถึงจุดนี้ผมควรจัดการหรือคุยกับนายเอยังงัยดีครับ และจะจัดการกับสถาณการณืเลห่านี้ยังงัย เช่น
เมื่อเขามายืมเงิน
เมื่อเขามาทำงาน
เมื่อเขามาขอเงินกินข้าว ฯลฯ
ปล. ไม่ได้อยากเอาเรื่องในทางกฏหมาย