เด็กประถม-มัธยม ในต่างจงหวัดยังต้องปักชื่อ-นาสกุลบนเสื้อนักเรียน เปิดเผยตัวตนชัดเจน ในขณะที่ใน กทม. มีแต่อักษรย่อของโรงเรียนบนอกเสื้อ ทำไมใช้ 2 มาตรฐาน
ในขณะที่เราออกกฏหมาย PDPA เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล แต่เด็กนักเรียนในต่างจังหวัดก็ยังต้องโชว์ชื่อ-นามสกุลหราบนปกเสื้อ
ควรจะใช้มาตรฐานเดียวกับเด็กในกทมใช่หรือไม่
ถ้าจะยังไม่มีการปรับเปลี่ยน มีเหตุผลอะไร
ที่เหนือกว่าเรื่องความปลอดภัยเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล
มีแต่ประเทศไทยนี่ละมั้งที่ต้องปักชื่อบนอกเสื้อนักเรียน
แลดูย้อนแย้งกับกฏหมาย PDPA
กฎหมาย PDPA (Personal Data Protection Act) มีไว้เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนไทย โดยกำหนดมาตรฐานการเก็บ รักษา และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลให้อยู่ในขอบเขตที่เจ้าของข้อมูลยินยอมเท่านั้น เพื่อป้องกันการนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิดหรือโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล โดยกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นมา
กฎหมาย PDPA ช่วยป้องกันมิจฉาชีพได้ในระดับหนึ่งโดยการควบคุมการเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูล เช่น การซื้อขายข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมักนำไปสู่การโทรหลอกลวงหรือการล่อลวงรูปแบบต่าง ๆ
นอกจากนี้ PDPA ยังบังคับให้องค์กรต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเข้มงวด ลดความเสี่ยงที่ข้อมูลจะรั่วไหลไปสู่มือมิจฉาชีพ
ในวันที่มิจฉาชีพโทรศัพท์หาเราทุกวัน เด็กนักเรียน ปฐม-มัธยม ยังคงต้องโชว์ชื่อ-นาสกุล บนปกเสื้ออีกหรือ
ในขณะที่เราออกกฏหมาย PDPA เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล แต่เด็กนักเรียนในต่างจังหวัดก็ยังต้องโชว์ชื่อ-นามสกุลหราบนปกเสื้อ
ควรจะใช้มาตรฐานเดียวกับเด็กในกทมใช่หรือไม่
ถ้าจะยังไม่มีการปรับเปลี่ยน มีเหตุผลอะไร
ที่เหนือกว่าเรื่องความปลอดภัยเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล
มีแต่ประเทศไทยนี่ละมั้งที่ต้องปักชื่อบนอกเสื้อนักเรียน
แลดูย้อนแย้งกับกฏหมาย PDPA
กฎหมาย PDPA (Personal Data Protection Act) มีไว้เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนไทย โดยกำหนดมาตรฐานการเก็บ รักษา และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลให้อยู่ในขอบเขตที่เจ้าของข้อมูลยินยอมเท่านั้น เพื่อป้องกันการนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิดหรือโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล โดยกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นมา
กฎหมาย PDPA ช่วยป้องกันมิจฉาชีพได้ในระดับหนึ่งโดยการควบคุมการเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูล เช่น การซื้อขายข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมักนำไปสู่การโทรหลอกลวงหรือการล่อลวงรูปแบบต่าง ๆ
นอกจากนี้ PDPA ยังบังคับให้องค์กรต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเข้มงวด ลดความเสี่ยงที่ข้อมูลจะรั่วไหลไปสู่มือมิจฉาชีพ