21 ปี ในโลกวิญญาณ
ตอนที่ 1. ความจริงที่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็น
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนั้น… อธิบายไม่ได้ด้วยหลักวิทยาศาสตร์
แต่มันคือเรื่องจริงที่ผมไม่เคยลืม ไม่ใช่เพราะมันน่ากลัว แต่เพราะมันเปลี่ยนชีวิตผมไปตลอดกาล
ผมรู้ดีว่าในโลกยุคนี้ ใครพูดเรื่องที่ตามองไม่เห็น มักถูกมองว่า งมงาย หรือไม่ก็ มิจฉาชีพ
บางคนใช้ศาสนาเป็นเกราะ มาปิดกั้นไม่ให้คนอื่นคิดเอง แล้วประกาศว่าสิ่งที่พวกเขานับถือเท่านั้นที่ถูกต้อง
แต่ในอีกมุมหนึ่ง ศาสนาอาจเป็นเครื่องมือของอำนาจ ที่เอาไว้ควบคุมคนอ่อนแอไม่ให้เดินทางผิด
ผมไม่ได้ต้องการให้คุณเชื่อ
แต่ถ้าคุณเคยตั้งคำถามว่า โลกใบนี้มีอะไรมากกว่าที่ตาเห็นหรือไม่
ผมอยากเล่าให้คุณฟัง...
โลกที่ผมก้าวเข้าไป ไม่ใช่สิ่งที่ผมเคยรู้จัก 21 ปีที่ผ่านมา ผมผ่านอะไรมามาก
ในแต่ละวัน ผมก็ยังเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่รู้สึกไม่สบายใจ กับสิ่งที่ต้องทำในบางครั้ง
แต่ประสบการณ์ที่ได้จาก โลกของวิญญาณ คือสิ่งที่ผมลืมไม่ลง
เมื่อวันหนึ่งผมเข้าใจสิ่งที่ตัวเองทำได้อย่างถ่องแท้
ผมก็เริ่มเห็นว่ามีคนบางกลุ่ม พยายามจะหาประโยชน์จากสิ่งนั้น
นั่นแหละคือวันที่ผมรู้ว่า... ความสามารถนี้ อาจทำให้ผม ไม่ปลอดภัย
เพราะโลกนี้มีคนเห็นแก่ตัวอยู่เสมอ และความไม่เชื่อ ของคนในสังคม มันก็เป็นเกราะ คุ้มครองผม มาจนถึงทุกวันนี้
ผมรอดมาได้อย่างไร ผมไม่เคยพึ่งแค่ พรสวรรค์
แต่ผมอาศัย คำอธิษฐานจิต ที่ต้องทำให้ถูกต้องตามลำดับ
ทุกครั้งที่รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ผมขอให้วิญญาณช่วยพาผมออกจากตรงนั้น
บางครั้ง ผมก็ขอให้วิญญาณ ผลัก คนที่ไม่น่าไว้ใจ ออกจากชีวิตผมไปตลอดกาล
คุณอาจจะไม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้มีอยู่จริง แต่ถ้ารู้แล้ว… คุณจะกลัว หรือหัวเราะก่อนดี
ถ้ามีปัญหา ผมขอความช่วยเหลือจากวิญญาณได้ไหม
คำตอบคือ ได้
ตลอด 21 ปีที่ผ่านมา ผมกลายเป็นคนคุ้นเคยของพวก วิญญาน ไปแล้ว
แต่ทุกครั้งที่มีคนมาขอให้ผมช่วย ผมไม่เคยให้ ความมั่นใจ ว่าจะช่วยได้
เพราะบางครั้ง ผมก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ เพราะมันมี เงื่อนไข
เหมือนกับธนาคารที่ไม่ปล่อยกู้ แม้คุณมีทรัพย์สินค้ำประกัน
ถ้าใครบางคนถูกผูกกรรมไว้ว่า ต้องชดใช้จนกว่าจะหมดอายุขัย
การไปช่วยเขาในตอนนี้ อาจหมายถึง… ชีวิตเขาจะจบลงทันที
ผมจะหยุดตรงนั้น เพื่อให้เขามีโอกาส ชดใช้กรรมด้วยตัวเอง
และถ้าเขาทำได้ เขาจะเป็นอิสระ และมีชีวิตที่ดีกว่าที่เคยเป็นมา
ผมไม่ต่อต้านศาสนา แต่ผมก็ไม่งมงาย
ทุกวันนี้ เรายังเห็นข่าวพระทำผิดวินัยอยู่เสมอ
ใครจะบอกผมว่า ศาสนาดี ผมก็ฟังเสมอ
แต่ผมจะไม่ให้ศาสนา มาทำให้ผมมองข้ามความจริงในโลกที่ผมรู้จัก
บางครั้ง ผมสัมผัสได้ว่า คนบางคน ช่วยไม่ได้
ผมจะให้เขาใช้เวลาอยู่กับตัวเอง 7 วัน พร้อมคำอธิษฐานว่า...
ถ้าเจ้ากรรมนายเวรอนุญาตให้ผมช่วย ขอให้เขากลับมา
และผลที่เกิดขึ้นคือ ไม่มีใครกลับมาเลยสักรายเดียว
ความสามารถนี้… คุณอาจมีเช่นกัน
ผมอยากบอกว่า ทุกคนบนโลกนี้อาจทำได้เหมือนผม แต่คุณต้อง สลัดความไม่เชื่อ ออกไปก่อน
เพราะตราบใดที่ความไม่เชื่อยังอยู่ในหัว คุณจะไม่มีวันกล้าลอง และถ้าคุณไม่กล้าลอง คุณก็จะไม่มีวันได้รู้ว่าโลกของวิญญาณ… มันมีอยู่จริง
ปล. ผมตัดสินใจจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ โดยแบ่งเป็น ตอน
เพราะผมเชื่อว่า การปล่อยเรื่องนี้ให้หายไป ในวันที่ผมหมดอายุขัย...
มันจะเป็น เรื่องน่าเสียดาย สำหรับใครบางคน ที่ต้องมีชีวิตเหมือนเช่นผม
เผื่อว่า...เรื่องราวทั้งหมดนี้ จะเป็นประโยชน์กับคุณ ในวันที่คุณ ไม่สามารถปรึกษาใครได้
21 ปี ในโลกวิญญาณ ตอนที่ 1. ความจริงที่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็น
ตอนที่ 1. ความจริงที่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็น
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนั้น… อธิบายไม่ได้ด้วยหลักวิทยาศาสตร์
แต่มันคือเรื่องจริงที่ผมไม่เคยลืม ไม่ใช่เพราะมันน่ากลัว แต่เพราะมันเปลี่ยนชีวิตผมไปตลอดกาล
ผมรู้ดีว่าในโลกยุคนี้ ใครพูดเรื่องที่ตามองไม่เห็น มักถูกมองว่า งมงาย หรือไม่ก็ มิจฉาชีพ
บางคนใช้ศาสนาเป็นเกราะ มาปิดกั้นไม่ให้คนอื่นคิดเอง แล้วประกาศว่าสิ่งที่พวกเขานับถือเท่านั้นที่ถูกต้อง
แต่ในอีกมุมหนึ่ง ศาสนาอาจเป็นเครื่องมือของอำนาจ ที่เอาไว้ควบคุมคนอ่อนแอไม่ให้เดินทางผิด
ผมไม่ได้ต้องการให้คุณเชื่อ
แต่ถ้าคุณเคยตั้งคำถามว่า โลกใบนี้มีอะไรมากกว่าที่ตาเห็นหรือไม่
ผมอยากเล่าให้คุณฟัง...
โลกที่ผมก้าวเข้าไป ไม่ใช่สิ่งที่ผมเคยรู้จัก 21 ปีที่ผ่านมา ผมผ่านอะไรมามาก
ในแต่ละวัน ผมก็ยังเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่รู้สึกไม่สบายใจ กับสิ่งที่ต้องทำในบางครั้ง
แต่ประสบการณ์ที่ได้จาก โลกของวิญญาณ คือสิ่งที่ผมลืมไม่ลง
เมื่อวันหนึ่งผมเข้าใจสิ่งที่ตัวเองทำได้อย่างถ่องแท้
ผมก็เริ่มเห็นว่ามีคนบางกลุ่ม พยายามจะหาประโยชน์จากสิ่งนั้น
นั่นแหละคือวันที่ผมรู้ว่า... ความสามารถนี้ อาจทำให้ผม ไม่ปลอดภัย
เพราะโลกนี้มีคนเห็นแก่ตัวอยู่เสมอ และความไม่เชื่อ ของคนในสังคม มันก็เป็นเกราะ คุ้มครองผม มาจนถึงทุกวันนี้
ผมรอดมาได้อย่างไร ผมไม่เคยพึ่งแค่ พรสวรรค์
แต่ผมอาศัย คำอธิษฐานจิต ที่ต้องทำให้ถูกต้องตามลำดับ
ทุกครั้งที่รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ผมขอให้วิญญาณช่วยพาผมออกจากตรงนั้น
บางครั้ง ผมก็ขอให้วิญญาณ ผลัก คนที่ไม่น่าไว้ใจ ออกจากชีวิตผมไปตลอดกาล
คุณอาจจะไม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้มีอยู่จริง แต่ถ้ารู้แล้ว… คุณจะกลัว หรือหัวเราะก่อนดี
ถ้ามีปัญหา ผมขอความช่วยเหลือจากวิญญาณได้ไหม
คำตอบคือ ได้
ตลอด 21 ปีที่ผ่านมา ผมกลายเป็นคนคุ้นเคยของพวก วิญญาน ไปแล้ว
แต่ทุกครั้งที่มีคนมาขอให้ผมช่วย ผมไม่เคยให้ ความมั่นใจ ว่าจะช่วยได้
เพราะบางครั้ง ผมก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ เพราะมันมี เงื่อนไข
เหมือนกับธนาคารที่ไม่ปล่อยกู้ แม้คุณมีทรัพย์สินค้ำประกัน
ถ้าใครบางคนถูกผูกกรรมไว้ว่า ต้องชดใช้จนกว่าจะหมดอายุขัย
การไปช่วยเขาในตอนนี้ อาจหมายถึง… ชีวิตเขาจะจบลงทันที
ผมจะหยุดตรงนั้น เพื่อให้เขามีโอกาส ชดใช้กรรมด้วยตัวเอง
และถ้าเขาทำได้ เขาจะเป็นอิสระ และมีชีวิตที่ดีกว่าที่เคยเป็นมา
ผมไม่ต่อต้านศาสนา แต่ผมก็ไม่งมงาย
ทุกวันนี้ เรายังเห็นข่าวพระทำผิดวินัยอยู่เสมอ
ใครจะบอกผมว่า ศาสนาดี ผมก็ฟังเสมอ
แต่ผมจะไม่ให้ศาสนา มาทำให้ผมมองข้ามความจริงในโลกที่ผมรู้จัก
บางครั้ง ผมสัมผัสได้ว่า คนบางคน ช่วยไม่ได้
ผมจะให้เขาใช้เวลาอยู่กับตัวเอง 7 วัน พร้อมคำอธิษฐานว่า...
ถ้าเจ้ากรรมนายเวรอนุญาตให้ผมช่วย ขอให้เขากลับมา
และผลที่เกิดขึ้นคือ ไม่มีใครกลับมาเลยสักรายเดียว
ความสามารถนี้… คุณอาจมีเช่นกัน
ผมอยากบอกว่า ทุกคนบนโลกนี้อาจทำได้เหมือนผม แต่คุณต้อง สลัดความไม่เชื่อ ออกไปก่อน
เพราะตราบใดที่ความไม่เชื่อยังอยู่ในหัว คุณจะไม่มีวันกล้าลอง และถ้าคุณไม่กล้าลอง คุณก็จะไม่มีวันได้รู้ว่าโลกของวิญญาณ… มันมีอยู่จริง
ปล. ผมตัดสินใจจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ โดยแบ่งเป็น ตอน
เพราะผมเชื่อว่า การปล่อยเรื่องนี้ให้หายไป ในวันที่ผมหมดอายุขัย...
มันจะเป็น เรื่องน่าเสียดาย สำหรับใครบางคน ที่ต้องมีชีวิตเหมือนเช่นผม
เผื่อว่า...เรื่องราวทั้งหมดนี้ จะเป็นประโยชน์กับคุณ ในวันที่คุณ ไม่สามารถปรึกษาใครได้