JJNY : กำลังซื้อทรุดหนักรอบ 3 ปี ยอดขายหาย 50-80%│จี้เบรกนำเข้า 'มะพร้าว'│"ไพศาล"วิเคราะห์คดี"ทักษิณ"│ไทยตอนบนมีฝนตกหนัก

ร้านอาหารบ่นอุบ กำลังซื้อทรุดหนักรอบ 3 ปี ยอดขายหาย 50-80% จ่อปิดอีกอื้อ
https://www.matichon.co.th/economy/news_5229979
.
.
ร้านอาหารบ่นอุบ กำลังซื้อทรุดหนักรอบ 3 ปี ยอดขายหาย 50-80% จ่อปิดอีกอื้อ
.
วันที่ 13 มิถุนายน นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า สถานการณ์ธุรกิจร้านอาหารในปัจจุบัน ยังเผชิญแรงกดดันรอบด้านทั้งภาวะเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลก ต้นทุนสูง จำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไป รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรง กระทบต่อกำลังซื้อและยอดขายของร้านอาหารปีนี้ลดลงหนักสุดในรอบ 3 ปี โดยกำลังซื้อเริ่มลดลงตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา และคาดว่าไตรมาสที่ 3 หรือ 3 เดือนข้างหน้านี้จะทรุดหนักมากขึ้น จากในขณะนี้ต่างจังหวัดกำลังซื้อหายไปถึง 80% ส่วนกรุงเทพฯหายไปกว่า 50% คงต้องรอลุ้นช่วงไตรมาสสุดท้ายที่คาดว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้
.
ช่วงไตรมาส 3 จะเป็นจุดชี้เป็นชี้ตาย ใครจะอยู่ไหวบ้าง คงจะได้เห็นร้านใหญ่ๆ ที่เปิด 10-20 ปี อาศัยการท่องเที่ยว จะทยอยปิดตัวอีกหลายร้าน หลังประเมินแล้วว่าเศรษฐกิจและนักท่องเที่ยวจะไม่กลับมาอีก 6 เดือนถึง 1 ปีนี้ จะตัดสินใจปิด ถ้ายังเปิดต่อ ต้องขาดทุน จากค่าใช้จ่ายที่เพิ่ม ทั้งวัตถุดิบและค่าเช่าที่เป็นค่าใช้จ่ายตายตัว ยิ่งร้านเล็กๆและสตรีทฟู้ดยิ่งแย่ อยู่ลำบาก แต่ถ้าเป็นร้านในห้าง ติดสัญญาเช่า คงต้องทำโปรโมชั่นเพื่อประคับประคองตัว”นางฐนิวรรณกล่าว
.
นางฐนิวรรณกล่าวว่า ทั้งนี้สมาคมฯได้หารือร่วมกับนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยใน 2 เรื่อง โดยเรื่องแรกหอการค้าต้องการให้ร้านอาหารเข้าร่วมโครงการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ 3% ของธนาคารออมสินที่ได้จัดสรรวงเงินให้ เพื่อช่วยเหลือร้านค้าที่ไม่มีกระแสเงินสด เพื่อต่อลมหายใจธุรกิจ อีกเรื่องเป็นโครงการเชื่อมโยงสินค้าเกษตรที่ราคาตกต่ำ หรือผู้ผลิตรายใหญ่เป็นสมาชิกหอการค้า เพื่อนำมาจำหน่ายในราคาถูกให้กับร้านเล็ก เพื่อช่วยร้านค้าลดต้นทุนวัตถุดิบ เช่น ข้าว น้ำมัน เนื้อสัตว์ต่างๆ เป็นต้น คาดว่าจะเริ่มได้ใน 1-2 เดือนนี้
.
มาตรการเที่ยวคนละครึ่งที่รัฐจะออกมาเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและใช้จ่ายในช่วงโลว์ซีซั่น ถือว่าดี แต่ถ้ายังใช้รูปแบบการขอเงินคืนเหมือนครั้งที่ผ่านมา ทางร้านอาหารคงไม่เข้าร่วมโครงการ เพราะขั้นตอนยากและใช้เวลานานมาก กว่าจะได้เงินคืน”นางฐนิวรรณกล่าว
.

.
จี้รัฐบาลเบรกนำเข้า 'มะพร้าว' หลังปัจจุบันราคาลดเหลือลูกละ 18 บาท
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9803788
.
จี้รัฐบาลเบรกนำเข้า ‘มะพร้าว’ ปรับแผนการนำเข้าใหม่ หลังปัจจุบันราคาลดเหลือลูกละ 18-20 บาท หวั่นราคาดิ่งกระทบเกษตรกรทั่วประเทศ
.
13 มิ.ย. 68 – นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ประจวบคีรีขันธ์ เรียกร้องให้กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งดำเนินมาตรการควบคุมการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศอย่างเข้มงวด หลังสถานการณ์ราคามะพร้าวในประเทศตกต่ำจนสร้างความเดือดร้อนรุนแรงแก่เกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวทั่วประเทศ
.
ปัจจุบัน ราคามะพร้าวในประเทศลดฮวบเหลือเพียง 18–20 บาทต่อลูก จากเดิมที่เคยสูงถึง 25–28 บาทต่อลูก ทำให้รายได้ของเกษตรกรลดลงอย่างน่าตกใจ
นายประมวล กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญมาจากผลผลิตในประเทศที่ออกสู่ตลาดมากกว่าปกติ จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังมีการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยิ่งซ้ำเติมให้ราคาตกต่ำลงไปอีก
.
จึงเสนอให้กรมวิชาการเกษตรเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพของมะพร้าวที่นำเข้ามายังประเทศ โดยเฉพาะที่ท่าเรือหลัก เพื่อป้องกันการทะลักเข้ามาของผลผลิตที่อาจไม่ได้มาตรฐาน พร้อมกันนี้ได้เรียกร้องให้กรมการค้าต่างประเทศพิจารณาปรับแผนการนำเข้า โดยประสานงานกับภาคเอกชนให้ชะลอหรือจำกัดปริมาณการนำเข้าในช่วงที่ผลผลิตภายในประเทศมีมาก
.
รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคามะพร้าว มิฉะนั้นจะเกิดผลกระทบในวงกว้างต่อเกษตรกรที่เป็นฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย
.

.
"ไพศาล" โพสต์วิเคราะห์คดีบังคับโทษ "ทักษิณ" ชี้การรักษาตัวใน "รพ.ตำรวจ" ไม่นับเป็นการจำคุก
.
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.68 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ใครหลงทางชั้น14” ระบุว่า
.
การไต่สวนกรณีชั้น 14 ฝ่ายพ่อใหญ่แม้ว อ้างว่าพ่อใหญ่แม้ว ถูกจำคุกตามคำพิพากษาครบถ้วนแล้ว ในขณะที่ฝ่ายผู้ร้องเดิม อ้างว่า พ่อใหญ่แม้วไม่เคยถูกจำคุกเลย
.
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจึงทำการไต่สวนว่าพ่อใหญ่แม้วถูกจำคุกครบถ้วนตามคำพิพากษาของศาลแล้วหรือไม่
ที่ฝ่ายพ่อใหญ่แม้วอ้างว่าถูกจำคุกครบถ้วนแล้วก็เพราะถือเอาการที่กรมราชทัณฑ์ส่งตัวพ่อใหญ่แม้วไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ตามกฎกระทรวง ยุติธรรมที่ออกตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ให้ถือว่า การไปอยู่โรงพยาบาลนั้นเป็นการถูกจำคุก ซึ่งขัดกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 246 ที่ไม่ให้ถือว่าเป็นการถูกจำคุก
.
ดังนั้นปัญหาสำคัญก็คือ การส่งพ่อใหญ่แม้วไปอยู่โรงพยาบาลตำรวจเป็นการถูกจำคุกหรือไม่
.
ถ้าถือตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ก็ถือว่าไม่ได้ถูกจำคุก แต่ถ้าถือตามกฎกระทรวงยุติธรรม ที่ออกตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ก็ถือว่าจำคุก ปัญหานี้จะใช้อะไรตัดสิน?
.
ก็ต้องใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาความ ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งบัญญัติว่า การบังคับการลงโทษทางอาญา ตามคำพิพากษาของศาลนั้นให้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งเป็นบทบัญญัติเฉพาะเกี่ยวกับการพิจารณาความรวมทั้งการบังคับโทษอาญาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
.
ถ้าอย่างนี้ การไปอยู่โรงพยาบาลตำรวจย่อมไม่ถือว่าเป็นการถูกจำคุก หมายความว่าพ่อใหญ่แม้วยังไม่ถูกจำคุกเลย  ดังนั้นศาลจึงต้องออกหมายจำคุกให้เป็นไปตามคำพิพากษา ซึ่งหมายความว่า ฝ่ายพ่อใหญ่แม้วหลงทางสิครับ
.
https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/pfbid025712K5axK47W46kBHUr5cA9HeoMqwsZWKk75g71bsSB8TkBi3GzfF8BViedCukFEl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่