1st Freedom - Overflight
เสรีภาพ ในการบินเหนือน่านฟ้าประเทศอื่น
เช่น การบินไทย ไฟลท์ TG560 เส้นทาง กรุงเทพ-ฮานอย (BKK-HAN) บินผ่านน่านฟ้าลาวได้อย่างปลอดภัย
2nd Freedom - Technical Stop
เสรีภาพ ในการแวะจอดสนามบินนานาชาติอื่น เพื่อเติมเชื้อเพลิงหรือเข้าซ่อมบางอย่าง โดยไม่มีการลำเลียง ผู้โดยสาร และ/หรือ สัมภาระ/สินค้า
เช่น การบินไทย เส้นทาง กรุงเทพ-ลอสแองเจลิส ในอดีต ที่มีการแวะเติมเชื้อเพลิงที่ โอซาก้า (KIX)
ปัจจุบันแทบไม่มีการทำแบบนี้แล้ว เพราะเครื่องลำใหญ่จุเชื้อเพลิงได้มากขึ้น
แต่ถามว่า มีสนามบินสำหรับสิ่งนี้โดยเฉพาะไหม ? ก็มีเช่นกันครับ เช่น สนามบินนานาชาติมาจูโร่ (MAJ) แห่งหมู่เกาะมาร์แชล จุดพักรถแห่งชาติใจกลางแปซิฟิกตอนใต้ ที่มีการเตรียมพร้อมยันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบิน F-1
3rd Freedom - Outbound Traffic
เสรีภาพ ในการนำพาผู้โดยสาร/สินค้า ออกจากประเทศบ้านเกิด ไปยังประเทศอื่น
เช่น ไทยแอร์เอเชีย ไฟลท์ FD196 เส้นทาง ภูเก็ต-โคชิน
สายการบินเดียวที่บิน HKT-COK
โดยจะชินช่วง มิถุนา-ตุลา
4th Freedom - Inbound Traffic
เสรีภาพ ในการนำพาผู้โดยสาร/สินค้า กลับไปยังประเทศบ้านเกิด
เช่น เฉิงตูแอร์ไลน์ ไฟลท์ EU2862 เส้นทาง เชียงใหม่-เฉิงตู
สายการบินเดียวที่บิน TFU-CNX
โดยจะชินช่วง มิถุนา-ตุลา
คำถาม แยกแบบนี้ คงมีละสิ เคสที่มีข้อใดข้อเดียว ?
ถูกครับ ผมเอง เห็นแล้วคาใจเลยไปหาข้อมูลมา มีจริงครับ เช่น ช่วงปี 2002-2003 ทุกสายการบินเช่าเหมาลำสัญชาติไต้หวัน ไม่ได้รับอนุญาตให้มีข้อ 4 โดยเซี่ยงไฮ้ (PVG)
นั่นหมายความว่า ผู้โดยสารที่ต้องการบินกลับ ไทเป (TPE) หรือ เกาชุง (KHH) จะต้องหาจองสายการบินอื่นเอาเอง ส่วนเครื่องบินลงเซี่ยงไฮ้แล้วทำไงต่อ ? ก็ขนเฉพาะลูกเรือและอุปกรณ์กลับบ้านจ้า เราเรียกเที่ยวบินแบบนี้ว่า Ferry Flight
5th Freedom - Continuing Service on Foreign Countries
เสรีภาพในการพาผู้โดยสารไปยัง 2 ประเทศต่างชาติ (ภายใต้เลขไฟลท์เดียวกัน) แล้วพากลับมาบ้านเกิด
เช่น ไทยไลอ้อนแอร์ ไฟลท์ SL390 ที่บินเส้นทาง ดอนเมือง-เกาชุง-โอกินาว่า
หรือ เอมิเรตส์ ไฟลท์ EK384 ที่บินเส้นทาง ดูไบ-สุวรรณภูมิ-ฮ่องกง ทำให้เราสามารถบินไป HKG ด้วยแขกหมวกแดงสดได้ โดยไม่ต้องไปประเทศเอมิเรตส์ก่อน
มักใช้ในเส้นทางที่เป็นระยะสั้นๆ อย่างเช่น ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ไป ไครส์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ (EK412, DXB-SYD-CHC)
โคลอมโบ ประเทศศรีลังกา ไป มาเล ประเทศมัลดัฟส์ (GF145, CMB-MLE-BAH)
รวมไปถึงเส้นทางกำไรน้อย เช่น Emirates ไม่มีบินตรงไปยัง เสียมเรียบ (SAI)
แต่ล่าสุดเลยในเดือนมิถุนายน 2568 นี้ ก็ได้มีการทำเปิดไฟลท์ EK370 ในเส้นทาง ดูไบ-สุวรรณภูมิ-เสียมเรียบ
โดยจะบินในวัน อังคาร พฤหัส เสาร์
ส่วนในวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ อาทิตย์ ไฟลท์เดียวกันนี้จะบินในเส้นทาง ดูไบ-สุวรรณภูมิ-ดาหนัง แทน

นับเป็นการเปิด 2 รูทใหม่พร้อมๆกันไปเลย จึ้งมาก
6th Freedom - Transit Through Home Base
เสรีภาพในการต่อเครื่อง ที่ไม่ต้องโหลดสัมภาระซ้ำ (able for checking through) และ ไม่ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองกลางทาง (no extra immigration) โดยเป็นไปตามเงื่อนไข
1. ทั้งสองไฟลท์อยู่ในบุ๊คกิ้งเดียวกัน
2. ทั้ง 3 สนามบิน คือสนามบินนานาชาติ
โดยกระทำผ่านสนามบินประเทศแม่ของสายการบิน
โดยทั่วไปจะเป็นคนละเลขไฟลท์ เช่น เอทิฮัดแอร์เวย์ ไฟลท์ EY403 + EY123 ในเส้นทาง กรุงเทพ-อาบูดาบี + อาบูดาบี-แฟรงค์เฟิร์ต
6th นี่ก็คือสิ่งที่คนไทยบางกลุ่มใช้ สำหรับการไปญี่ปุ่น ด้วย SQ
บินลงมาสิงคโปร์ ก่อนจะขึ้นยาวๆ ไป
7th Freedom - Non-home International Flight
เสรีภาพในการบิน 2 ประเทศต่างชาติ โดยไม่ต้องกลับบ้านเกิดตัวเองเลย อยู่ตรงนั้นไปยาวๆ ถ้าไม่ตุย
เช่น ไรอันแอร์ สายการบินของประเทศ ไอร์แลนด์ มาบิน ระหว่าง โรม (FCO) ประเทศอิตาลี กับ บาร์เซโลน่า (BCN) ประเทศสเปน
มีแค่ที่ยุโรปเท่านั้นเลย และไม่กี่สายการบินที่ทำได้
8th Freedom - Continuing Domestic Service (Cabotage)
เสรีภาพในการพาผู้โดยสารไปยัง 2 เมืองท้องถิ่น (ภายใต้เลขไฟลท์เดียวกัน) แล้วพากลับมาบ้านเกิด
เช่น ทรานส์เอเวีย สายการบินของเนเธอแลนด์ ในไฟลท์ HV81 ซึ่งก็บินแค่ในประเทศเนี่ยแหละครับ
ก็คล้าย 5th แหละ แต่ 5th คือ
เป็น 3 ประเทศที่ต่างกันไปเลย ส่วน 8th เป็นรูปแบบบินในประเทศ (Domestic Flight) แทน
อย่างกรณีนี้ก็นับเป็นท้องถิ่น เพราะมันอยู่ใต้อาณานิคมฝรั่งเศสหมดเลย อารมณ์ไปเล่นกับลูกเพื่อนบ้านที่อยู่ในซอยเดียวกันครับ 555
คล้ายๆกันจองตั๋ว 2 เที่ยว แบบ บุรีรัมย์-ดอนเมือง-เชียงราย
การที่เราต้องมาดอนเมืองก่อนเพราะมันคือ so called “ลานเก็บเครื่องบิน“ ของสายการบินเรา แต่ 8th ทำให้เราบิน บุรีรัมย์-สุโขทัย-เชียงราย ได้ ไรงี้ครับ
9th Freedom - Standalone Domestic (Pure Cabotage)
เสรีภาพในการบิน 2 เมืองท้องถิ่นในประเทศอื่น โดยไม่ต้องกลับบ้านเกิดตัวเองเลย อยู่ตรงนั้นไปยาวๆ ถ้าไม่ตุย
อย่างอันนี้ สกายแอร์ไลน์ สายการบินของชิลี มาบินในประเทศเปรู แล้วบินไปมาแค่ 2 เมืองนี้ไปเลย
ส่วนใหญ่แล้วแบบ 9th จะใช้เพื่อความช่วยเหลือทางการแพทย์หรือเพื่อส่งอาหาร ในดินแดนยากไร้ พื้นที่ประสบภัยพิบัติ อะไรแบบนี้ ซึ่งก็มักต้องได้รับการยินยอมโดย UN และบินช่วงสั้นๆ หายากเลยครับที่มัน Pure 9th จริงๆ แบบ Purely Pure Cabotage กว่าจะได้รูปนี้มา พลิกแผ่นดินรีเสิร์ชหนักมาก
มารู้จัก อิสรภาพทางการบิน (Flight Freedom) ทั้ง 9 ระดับกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่พิจารณากันต่อสายการบิน ต่อเส้นทาง เลยหละ