สวัสดีครับ ชื่อเติ้ลครับ
โพสต์นี้อาจจะฟังดูเพ้อๆ แต่มันคือความคิดที่ผมคิดมานาน อยากแชร์ไว้เผื่อมีใครเคยคิดเหมือนกัน หรือคิดต่อยอดก็ยินดีครับ
---
🌍 ผมมองว่าโลกของเรามันไม่ได้มีแค่ “คน” กับ “ผี”
แต่มันมี “ช่องสัญญาณ” หรือคลื่นที่ซ้อนกันอยู่ ซึ่งเราแต่ละคนรับได้ไม่เท่ากัน
ผมขอแบ่งออกเป็น 4 ช่องครับ:
🔹 ช่อง 1: โลกคนปกติ
อยู่ในชีวิตประจำวันทั่วไป เห็น สัมผัส คุยกันได้ปกติ
(มนุษย์ 100%)
🔹 ช่อง 2: คลื่นสัมผัส
คือบางคนอาจเคยได้กลิ่นแปลก ๆ เสียงฝีเท้า เสียงคนเรียกตอนกลางคืน หรือฝันแปลก ๆ
(คนทั่วไปที่มีเซ้นส์เบา ๆ)
🔹 ช่อง 3: โลกผีซ้อน
บางคนจะเห็นเงา ร่าง หรือเจอผีแบบตัวเป็น ๆ มาหลอก
หรือได้ยินเสียงชัดเจนเลย แต่ไม่เข้าใจสิ่งที่พูด
(เฉพาะคนที่คลื่นตรง หรือดวงเปิด)
🔹 ช่อง 4: โลกของผีจริง ๆ
ที่นี่คือพื้นที่ที่ “ผีคุยกันเอง” ใช้ภาษาที่มนุษย์ฟังไม่รู้เรื่อง (เหมือนพูดคนละภาษากัน)
มนุษย์ทั่วไปเข้าไปไม่ได้ ยกเว้นบางคนที่เปิดคลื่นได้ เช่น
หมอผี คนทรง พระ หรือคนที่เคยเฉียดตายแล้วกลับมา
→ คนพวกนี้ “เหมือนมีเครื่องแปลภาษา + จูนคลื่นตรง”
---
🌀 ความเชื่อผมคือ...
> ผีไม่ได้อยากหลอก
ผีแค่อยาก "สื่อสาร"
แต่ดันคลื่นไม่ตรงกับเรา เลยต้องแสดงออกด้วยการ “หลอน” เพื่อให้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
---
📡 ทำไมบางคนเห็น บางคนไม่เห็น?
ผมคิดว่าเหมือนเครื่องรับคลื่นวิทยุ
คนบางคนอยู่คลื่นที่ผีไม่สามารถเข้าถึงได้ (คนดวงแข็ง)
ผีเลยไม่เห็นคนคนนั้น
บางคนคลื่นใกล้กันมาก ผีเห็นเลย
บางคนโดนดูดไปช่อง 3 แบบไม่รู้ตัว
---
🧠 แล้วคนที่เคยเฉียดตาย ทำไมถึงเห็นผีมากขึ้น?
ผมว่าพอเราตายไปนิดนึง มันเหมือน “เปิดช่อง 4 แบบชั่วคราว”
คลื่นเราเปลี่ยนไป กลายเป็นคลื่นที่ผีใช้
→ จากนั้นจะเริ่มรับสัญญาณได้ แม้จะฟื้นกลับมาก็ตาม
(แม่ผมก็เคยเจอแบบนี้ เล่าให้ฟังว่า หลังจากจมน้ำเฉียดตาย ก็เริ่มเจอผีบ่อยมาก แต่ไม่เคยได้ยินผีพูดเป็นภาษาคนเลย บางครั้งผีพูด แต่เป็นภาษาแปลก ๆ เหมือนไม่ใช่ภาษาโลกนี้)
---
🔋 แล้วผีมันคุยกับเราทำไมไม่ได้?
เพราะต้องใช้พลังงาน (เหมือนโทรศัพท์)
ผีไม่มีเครื่องมือ ไม่มีปากพูด ไม่มีซิม
ถ้าอยากส่งข้อความ ก็ต้อง “ผลักให้คนที่มีช่อง 4” มาช่วยเป็นล่าม
หรือส่งเป็นเสียง กลิ่น หรือฝัน (ซึ่งก็แปลความยากอยู่ดี)
---
🎯 สุดท้าย ผมว่า...
> “โลกเรากับโลกผี มันไม่ได้อยู่ไกลกันเลย
มันแค่ใช้ความถี่คนละแบบ
บางคนรับได้ บางคนรับไม่ได้
แล้วมันไม่ได้หลอก...มันแค่พยายามจะคุย"
---
ใครเคยมีประสบการณ์คล้าย ๆ กัน แชร์มาได้นะครับ
ใครคิดว่าเพ้อก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อย...ก็ได้เห็นความคิดจากอีกช่องสัญญาณนึง
(คนอยู่คลื่น 1 ที่ดันคิดเรื่องคลื่น 4)
ผมมีความเชื่อว่า “โลกผี” แบ่งเป็น 4 คลื่น ถ้าคลื่นตรงกัน...เราจะเห็นผี
โพสต์นี้อาจจะฟังดูเพ้อๆ แต่มันคือความคิดที่ผมคิดมานาน อยากแชร์ไว้เผื่อมีใครเคยคิดเหมือนกัน หรือคิดต่อยอดก็ยินดีครับ
---
🌍 ผมมองว่าโลกของเรามันไม่ได้มีแค่ “คน” กับ “ผี”
แต่มันมี “ช่องสัญญาณ” หรือคลื่นที่ซ้อนกันอยู่ ซึ่งเราแต่ละคนรับได้ไม่เท่ากัน
ผมขอแบ่งออกเป็น 4 ช่องครับ:
🔹 ช่อง 1: โลกคนปกติ
อยู่ในชีวิตประจำวันทั่วไป เห็น สัมผัส คุยกันได้ปกติ
(มนุษย์ 100%)
🔹 ช่อง 2: คลื่นสัมผัส
คือบางคนอาจเคยได้กลิ่นแปลก ๆ เสียงฝีเท้า เสียงคนเรียกตอนกลางคืน หรือฝันแปลก ๆ
(คนทั่วไปที่มีเซ้นส์เบา ๆ)
🔹 ช่อง 3: โลกผีซ้อน
บางคนจะเห็นเงา ร่าง หรือเจอผีแบบตัวเป็น ๆ มาหลอก
หรือได้ยินเสียงชัดเจนเลย แต่ไม่เข้าใจสิ่งที่พูด
(เฉพาะคนที่คลื่นตรง หรือดวงเปิด)
🔹 ช่อง 4: โลกของผีจริง ๆ
ที่นี่คือพื้นที่ที่ “ผีคุยกันเอง” ใช้ภาษาที่มนุษย์ฟังไม่รู้เรื่อง (เหมือนพูดคนละภาษากัน)
มนุษย์ทั่วไปเข้าไปไม่ได้ ยกเว้นบางคนที่เปิดคลื่นได้ เช่น
หมอผี คนทรง พระ หรือคนที่เคยเฉียดตายแล้วกลับมา
→ คนพวกนี้ “เหมือนมีเครื่องแปลภาษา + จูนคลื่นตรง”
---
🌀 ความเชื่อผมคือ...
> ผีไม่ได้อยากหลอก
ผีแค่อยาก "สื่อสาร"
แต่ดันคลื่นไม่ตรงกับเรา เลยต้องแสดงออกด้วยการ “หลอน” เพื่อให้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
---
📡 ทำไมบางคนเห็น บางคนไม่เห็น?
ผมคิดว่าเหมือนเครื่องรับคลื่นวิทยุ
คนบางคนอยู่คลื่นที่ผีไม่สามารถเข้าถึงได้ (คนดวงแข็ง)
ผีเลยไม่เห็นคนคนนั้น
บางคนคลื่นใกล้กันมาก ผีเห็นเลย
บางคนโดนดูดไปช่อง 3 แบบไม่รู้ตัว
---
🧠 แล้วคนที่เคยเฉียดตาย ทำไมถึงเห็นผีมากขึ้น?
ผมว่าพอเราตายไปนิดนึง มันเหมือน “เปิดช่อง 4 แบบชั่วคราว”
คลื่นเราเปลี่ยนไป กลายเป็นคลื่นที่ผีใช้
→ จากนั้นจะเริ่มรับสัญญาณได้ แม้จะฟื้นกลับมาก็ตาม
(แม่ผมก็เคยเจอแบบนี้ เล่าให้ฟังว่า หลังจากจมน้ำเฉียดตาย ก็เริ่มเจอผีบ่อยมาก แต่ไม่เคยได้ยินผีพูดเป็นภาษาคนเลย บางครั้งผีพูด แต่เป็นภาษาแปลก ๆ เหมือนไม่ใช่ภาษาโลกนี้)
---
🔋 แล้วผีมันคุยกับเราทำไมไม่ได้?
เพราะต้องใช้พลังงาน (เหมือนโทรศัพท์)
ผีไม่มีเครื่องมือ ไม่มีปากพูด ไม่มีซิม
ถ้าอยากส่งข้อความ ก็ต้อง “ผลักให้คนที่มีช่อง 4” มาช่วยเป็นล่าม
หรือส่งเป็นเสียง กลิ่น หรือฝัน (ซึ่งก็แปลความยากอยู่ดี)
---
🎯 สุดท้าย ผมว่า...
> “โลกเรากับโลกผี มันไม่ได้อยู่ไกลกันเลย
มันแค่ใช้ความถี่คนละแบบ
บางคนรับได้ บางคนรับไม่ได้
แล้วมันไม่ได้หลอก...มันแค่พยายามจะคุย"
---
ใครเคยมีประสบการณ์คล้าย ๆ กัน แชร์มาได้นะครับ
ใครคิดว่าเพ้อก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อย...ก็ได้เห็นความคิดจากอีกช่องสัญญาณนึง
(คนอยู่คลื่น 1 ที่ดันคิดเรื่องคลื่น 4)