การได้มาซึ่งการเคารพ ให้เกียรติ ได้รับความเกรงใจ ไม่สามารถร้องขอ หรือ บังคับจากใครได้
แต่มาจากการกระทำ พฤติกรรมของเราเอง นุ่น วรนุช มีพื้นเพครอบครัวไม่ต่างจากคนส่วนใหญ่
คือ มีฐานะปานกลาง แต่การที่ไม่หยุดก้าวเดิน ทำให้เธอ คือ หนึ่งในนักแสดงไทย
ที่ทำชื่อเสียงระดับนานาชาติ ล่าสุด เธอเข้าร่วมแข่งขันใน Ride the Wind 2025 รายการของประเทศจีน
การทำตัวให้น่าติดตาม โดยไม่ต้องอ้อนวอนขอให้ใครสนใจ ลองมองนุ่นเป็นแบบอย่าง
1.
ไม่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีต หากกล่าวว่า นุ่นคือ หนึ่งในนางเอกยุค 90 ก็ไม่น่ามีเสียงค้าน
แต่เธอก็ไม่หยุดท้าทายตัวเอง จากนักเรียนนาฏศิลป์ สู่การเป็นนางเอกช่อง 7 แล้วผันตัวเป็นนักแสดงอิสระ
ได้รับบทสำคัญในนิยายอมตะของไทย เช่น อีสา ทองเนื้อเก้า พิษสวาท ระเริงไฟ กระเช้าสีดา
รวมถึงละครอิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ ศรีอโยธยา ตอน โศกนาฎกรรมรักต้องห้ามเจ้าฟ้ากุ้ง
อีกทั้งเข้าสู่วงการภาพยนตร์ ถ่ายแบบ สามารถนำเสนอรำไทยและการเต้นสมัยใหม่
จึงเป็นหนึ่งในศิลปินไทยที่หาได้ยาก ทำงานศิลปะการแสดงได้หลายสาขา
นุ่นเรียนภาษาต่างประเทศเพิ่มเติม ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาจีน
ซึ่งต้องใช้ความมุมานะและจัดสรรเวลา ในรายการ Ride the Wind 2025 จะเห็นได้ว่า
การเรียนภาษาต่างประเทศ ได้ใช้ประโยชน์ ทั้งในเชิงชื่อเสียงและรายได้
แม้จะพูดได้ไม่ปล๋อ แต่การใช้แบบน้อยแต่มาก ใช้ภาษาจีนได้ถูกที่ถูกเวลา โดนใจมากกว่า
คนพูดคล่อง แต่ไม่น่าประทับใจ
2.
การปรับตัวกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง นุ่น วรนุช แต่งงานเข้าสู่ตระกูลใหญ่ "ภิรมย์ภักดี" เจ้าของเบียร์สิงห์ น้ำดื่มสิงห์
และอสังหาริมทรัพย์อีกมากมาย การเปลี่ยนชนชั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและหลายคนตกม้าตาย ตรงที่ไม่ปรับตัว ไม่ปรับวิธีคิด
ให้เข้ากับสังคมของสามีได้ แต่นุ่นเข้าไปอยู่ในครอบครัวใหญ่ได้อย่างกลมกลืน นอกจากเธอจะช่วยธุรกิจของตระกูลสามี
ในบทบาทประชาสัมพันธ์เข้าถึงมวลชนแล้ว เธอเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเองอีกด้วย เช่น
· ธุรกิจคอนโดมิเนียม The Peace Condominium
· ธุรกิจรถสุขาเคลื่อนที่ "Heaven Toilet"
· ธุรกิจชุดวิวาห์ "Worra Bride" ร่วมกับ เจี๊ยบ-โสภิตนภา ชุ่มภาณี
· ธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยว "เป่าปาก by Nune" ห้างฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ชั้น B
· ธุรกิจเครื่องสำอาง "WORRA"
· ธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยว "ตั่วเฮีย ก๋วยเตี๋ยวรสแซ่บ"
· ธุรกิจร้านอาหาร "R.HAAN"
· ธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร "BEAUT"
นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนตัวเอง ในแบบ "Transformer"
ทำให้ไม่กลายเป็นผู้หญิงน่าเบื่อ ในกรอบรูปแบบเดิม ที่เพิ่มเติม คือ อายุ
แต่ทำตัวเป็นน้ำ พร้อมจะลงตัวกับทุกภาชนะ
ผู้หญิงประเภทนี้ จึงมักมีบทสนทนาที่น่าสนใจจากโปรเจคใหม่ๆ ที่ทำ
3.
มองการแสดงเป็นงานศิลป์ หากทำงานเพื่อแสวงหาเพียงรายได้ หรือ ความโด่งดัง
ย่อมขาดความเคารพในตัวเอง และในอาชีพของตัวเอง
ด้วยทัศนะทำงานแสดงให้เป็นงานศิลปะ ทำให้มีโอกาสร่วมงานกับศิลปินชั้นนำ
ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง ช่วยยกระดับคุณภาพงานไปอีกขั้น
ด้วยการเป็นนักแสดงที่มีสปิริตทางการแสดง ผู้สร้างผลงานที่งดงาม มีคุณค่าทางวัฒนธรรม
การก้าวเดินของนุ่น ไม่ต่างจากลิซ่า ลลิษา มโนบาล ที่ไม่กลัวความผิดพลาด
ไม่กลัวทำแล้วไม่เพอร์เฟค ในขณะที่คนมากมายได้แต่มองดู มองหาข้อด้อย
ผู้ที่ลงมือทำ ได้ผลงาน ได้เรียนรู้พัฒนา ได้รับรายได้ และได้พบกับบทตอนใหม่ของชีวิต
ที่สำคัญ คือ เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย เมื่อเธอเหล่านั้น ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ
โดยไม่หยุดอยู่แค่บอกตัวเองว่า "คนเราเกิดมาต้นทุนไม่เท่ากัน"
นุ่น วรนุช แบบอย่างของผู้หญิงที่ได้รับเกียรติ โดยไม่ต้องปริปากขอ
แต่มาจากการกระทำ พฤติกรรมของเราเอง นุ่น วรนุช มีพื้นเพครอบครัวไม่ต่างจากคนส่วนใหญ่
คือ มีฐานะปานกลาง แต่การที่ไม่หยุดก้าวเดิน ทำให้เธอ คือ หนึ่งในนักแสดงไทย
ที่ทำชื่อเสียงระดับนานาชาติ ล่าสุด เธอเข้าร่วมแข่งขันใน Ride the Wind 2025 รายการของประเทศจีน
การทำตัวให้น่าติดตาม โดยไม่ต้องอ้อนวอนขอให้ใครสนใจ ลองมองนุ่นเป็นแบบอย่าง
1. ไม่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีต หากกล่าวว่า นุ่นคือ หนึ่งในนางเอกยุค 90 ก็ไม่น่ามีเสียงค้าน
แต่เธอก็ไม่หยุดท้าทายตัวเอง จากนักเรียนนาฏศิลป์ สู่การเป็นนางเอกช่อง 7 แล้วผันตัวเป็นนักแสดงอิสระ
ได้รับบทสำคัญในนิยายอมตะของไทย เช่น อีสา ทองเนื้อเก้า พิษสวาท ระเริงไฟ กระเช้าสีดา
รวมถึงละครอิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ ศรีอโยธยา ตอน โศกนาฎกรรมรักต้องห้ามเจ้าฟ้ากุ้ง
อีกทั้งเข้าสู่วงการภาพยนตร์ ถ่ายแบบ สามารถนำเสนอรำไทยและการเต้นสมัยใหม่
จึงเป็นหนึ่งในศิลปินไทยที่หาได้ยาก ทำงานศิลปะการแสดงได้หลายสาขา
นุ่นเรียนภาษาต่างประเทศเพิ่มเติม ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาจีน
ซึ่งต้องใช้ความมุมานะและจัดสรรเวลา ในรายการ Ride the Wind 2025 จะเห็นได้ว่า
การเรียนภาษาต่างประเทศ ได้ใช้ประโยชน์ ทั้งในเชิงชื่อเสียงและรายได้
แม้จะพูดได้ไม่ปล๋อ แต่การใช้แบบน้อยแต่มาก ใช้ภาษาจีนได้ถูกที่ถูกเวลา โดนใจมากกว่า
คนพูดคล่อง แต่ไม่น่าประทับใจ
2. การปรับตัวกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง นุ่น วรนุช แต่งงานเข้าสู่ตระกูลใหญ่ "ภิรมย์ภักดี" เจ้าของเบียร์สิงห์ น้ำดื่มสิงห์
และอสังหาริมทรัพย์อีกมากมาย การเปลี่ยนชนชั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและหลายคนตกม้าตาย ตรงที่ไม่ปรับตัว ไม่ปรับวิธีคิด
ให้เข้ากับสังคมของสามีได้ แต่นุ่นเข้าไปอยู่ในครอบครัวใหญ่ได้อย่างกลมกลืน นอกจากเธอจะช่วยธุรกิจของตระกูลสามี
ในบทบาทประชาสัมพันธ์เข้าถึงมวลชนแล้ว เธอเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเองอีกด้วย เช่น
· ธุรกิจคอนโดมิเนียม The Peace Condominium
· ธุรกิจรถสุขาเคลื่อนที่ "Heaven Toilet"
· ธุรกิจชุดวิวาห์ "Worra Bride" ร่วมกับ เจี๊ยบ-โสภิตนภา ชุ่มภาณี
· ธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยว "เป่าปาก by Nune" ห้างฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ชั้น B
· ธุรกิจเครื่องสำอาง "WORRA"
· ธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยว "ตั่วเฮีย ก๋วยเตี๋ยวรสแซ่บ"
· ธุรกิจร้านอาหาร "R.HAAN"
· ธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร "BEAUT"
นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนตัวเอง ในแบบ "Transformer"
ทำให้ไม่กลายเป็นผู้หญิงน่าเบื่อ ในกรอบรูปแบบเดิม ที่เพิ่มเติม คือ อายุ
แต่ทำตัวเป็นน้ำ พร้อมจะลงตัวกับทุกภาชนะ
ผู้หญิงประเภทนี้ จึงมักมีบทสนทนาที่น่าสนใจจากโปรเจคใหม่ๆ ที่ทำ
3. มองการแสดงเป็นงานศิลป์ หากทำงานเพื่อแสวงหาเพียงรายได้ หรือ ความโด่งดัง
ย่อมขาดความเคารพในตัวเอง และในอาชีพของตัวเอง
ด้วยทัศนะทำงานแสดงให้เป็นงานศิลปะ ทำให้มีโอกาสร่วมงานกับศิลปินชั้นนำ
ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง ช่วยยกระดับคุณภาพงานไปอีกขั้น
ด้วยการเป็นนักแสดงที่มีสปิริตทางการแสดง ผู้สร้างผลงานที่งดงาม มีคุณค่าทางวัฒนธรรม
การก้าวเดินของนุ่น ไม่ต่างจากลิซ่า ลลิษา มโนบาล ที่ไม่กลัวความผิดพลาด
ไม่กลัวทำแล้วไม่เพอร์เฟค ในขณะที่คนมากมายได้แต่มองดู มองหาข้อด้อย
ผู้ที่ลงมือทำ ได้ผลงาน ได้เรียนรู้พัฒนา ได้รับรายได้ และได้พบกับบทตอนใหม่ของชีวิต
ที่สำคัญ คือ เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย เมื่อเธอเหล่านั้น ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ
โดยไม่หยุดอยู่แค่บอกตัวเองว่า "คนเราเกิดมาต้นทุนไม่เท่ากัน"