JJNY : ‘สึนามิหนี้’ กำลังมาเยือน│ศิษย์เก่าร่วมลงชื่อ หนุนมติแพทยสภา│"เวิลด์แบงก์" หั่นคาดการณ์ GDP โลก│ทั่วไทยมีฝนคะนอง

.

.

   หัวข้อบทความนี้ไม่ได้ต้องการบั่นทอนกำลังใจคนไทยแต่อย่างใด เราแค่อยากเตือนให้เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้าบ้าง ซึ่งมันอาจจะ “เกิด” หรือ “ไม่เกิด” ก็ได้ ขึ้นกับว่า “รัฐบาล” หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการปัญหาเหล่านี้อย่างไร ...ในมุมของเศรษฐกิจ สำนักวิจัยต่างๆ ออกมาทำนายคล้ายกันว่า “ครึ่งปีหลัง” เป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงดิ่งเหวลงลึกมากสุด ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ยังออกมาเตือนดังๆ ว่า “พายุกำลังมา”

.

    ในงานสัมมนา “Thailand Investment Forum 2025: พลิกเกมฝ่าวิกฤติ Great Depression” จัดโดย 3 สื่อเศรษฐกิจเครือเนชั่น ได้แก่ กรุงเทพธุรกิจ ฐานเศรษฐกิจ โพสต์ทูเดย์ ก็มีเสียงเตือนดังจากงานนี้เช่นกัน แต่เป็นการเตือนในมุมของ “หนี้เสียลูกใหญ่” ที่อาจก่อตัวชัดเจนและรุนแรงในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ หรือช้าหน่อยก็คงเป็นช่วงไตรมาสแรกของปี 2569

.
    เสียงเตือนนี้มาจาก ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM โดย ดร.รักษ์ ย้ำชัดเจนบนเวทีนี้ว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาหนี้เสียลูกใหญ่ที่กำลังก่อตัวขึ้นแบบชัดเจนและรุนแรง โดยสินเชื่อในประเทศไทยมีมูลค่ารวมกันราว 19 ล้านล้านบาท ใกล้เคียงกับขนาดของ GDP ประเทศ แต่หนี้ที่เริ่ม “ผิดนัดชำระ” กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน  

.

    ดร.รักษ์ หยิบข้อมูลที่น่าสนใจมาเล่าบนเวทีว่า หนี้เสียของธนาคารพาณิชย์ปัจจุบันมีราวๆ 5 แสนล้านบาท ในขณะที่หนี้เสียของธนาคารรัฐมีรวมกันประมาณ 3.2 แสนล้านบาท นอกจากนี้ยังมีหนี้กลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ หรือ SM ซึ่งมีความเสี่ยงสูงว่าจะกลายเป็นหนี้เสีย เพราะเป็นกลุ่มที่ภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อฟรีสหนี้ก้อนนี้เอาไว้ มีมูลค่ารวมกันราว 1.2 ล้านล้านบาท หากทั้ง 3 ส่วนนี้ไหลมารวมกันในช่วงปลายปี โดยเฉพาะหนี้ SM ที่พัฒนากลายเป็นหนี้เสีย ก็คาดว่าจะมีหนี้เสียที่รัฐบาลต้องรับมือรวมกันราวๆ 1.2-1.5 ล้านล้านบาท 

.

    ลองคิดดูว่าปัญหาหนี้ที่ ดร.รักษ์ พูดมานี้ยังเป็น “ของเดิม” ล้วนๆ เป็นหนี้เสียที่เกิดจากวิกฤติเศรษฐกิจรอบก่อน ในขณะที่ “พายุลูกใหม่” หากมาจริงตามที่ผู้ว่าการแบงก์ชาติเตือนเอาไว้ เราเชื่อว่าหนี้เสียคงระเบิดออกมามากกว่าที่ ดร.รักษ์ คาดการณ์ไว้อย่างแน่นอน ...คำถาม คือ รัฐบาลหรือหน่วยงานเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนรับมือกันรึยัง ย้ำอีกครั้งบทความนี้ไม่ได้ต้องการบั่นทอนกำลังใจคนไทยแต่อย่างใด เราแค่อยากเตือนสติให้ผู้มีอำนาจเตรียมแผนรับมือกับ “มหาวิกฤติ” รอบใหม่ที่อาจมาเยือน!

.

.

.

วันที่ 11 มิ.ย.68 กลุ่มศิษย์เก่าแพทย์รามาธิบดีรุ่น 16 และศิษย์เก่าแพทย์ศิริราชรุ่น 91 (พ.ศ.2523-2529) ออกแถลงการณ์ สนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของแพทยสภา โดยยึดหลักฐานทางการแพทย์ตามข้อเท็จจริง และหลักฐานเชิงประจักษ์ตามมาตรฐานเวชปฏิบัติทางการแพทย์ ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในการปฏิบัติงานของวิชาชีพแพทย์ ตามที่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากสถาบันการศึกษา กลุ่มศิษย์เก่าแพทย์รามาธิบดีรุ่น 16 และกลุ่มศิษย์เก่าแพทย์ศิริราชรุ่น 91 ดังรายชื่อที่ปรากฏแนบท้าย ขอสนับสนุนให้แพทยสภายืนยันมติแพทยสภาในวันที่ 8 พ.ค.68 ที่ได้พิจารณาและตัดสินโดยยึดข้อมูลจากเอกสารและมาตรฐานทางเวชปฎิบัติโดยเคร่งครัด และขอให้กำลังใจให้แพทยสภายังคงซึ่งความศรัทธาที่แพทย์มีต่อองค์กรวิชาชีพนี้

.

ขอวิงวอนต่อคณะกรรมการแพทยสภาทุกท่านได้โปรดเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกันในวันที่ 12 มิ.ย.68 และโปรดพิจารณาหลักฐานและข้อเท็จจริงทางการแพทย์ที่ปรากฏโดยไม่ยอมให้มีการแทรกแซงจากบุคคลภายนอกไม่ว่าในสถานะใด เพื่อสร้างความชัดเจนให้สาธารณชนมั่นใจได้ว่าแพทยสภาเป็นองค์กรที่ยึดหลักจริยธรรม ไม่อยู่ภายใต้แรงกดดันทางการเมืองหรือบุคคลใด

.

รายชื่อผู้ร่วมแถลงเจตนารมณ์

1. นพ.ไกรสิทธิ์ นฤขัตพิชัย
2. รศ. นพ.กำธร มาลาธรรม
3. พญ.รัตนา คุณติรานนท์
4. นพ.พัฒนพงศ์ เส็งพานิช
5. นพ.ธวัช เจตน์สว่างศรี
6. นพ.สาธิต พจน์จลองศิลป์
7. นพ.สมพงษ์ ภาสอาจ
8. รศ.นพ.วีระชัย คีรีกาญจนะรงค์
9. นพ.สุพจน์ ตุลยาเดชานนท์
10. รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์
11. นพ.กระเษียร มหาพล
12. นพ.สิทธิชัย กุลพรศิริกุล
13. พญ.สุชาดา ตุลยาเดชานนท์
14. นพ.สมเกียรติ ทยานิธิกุล
15. นพ.ธานินทร์ สนธิรักษ์
16. นพ.บุญชัย โชติเลอศักดิ์
17. พญ.อรสา ไตรตรึงษ์ทัศนา
18. นพ.สมชาย สมศิริพรชัย
19. นพ.ดนัย เจียรกูล
20. นพ.สุชัย กิจศิริพรชัย
21. นพ. สมชาย เกยูรวิเชียร
22. นพ วุฒิพงษ์ ชั้นประดับ
23. นพ.สุธี อุ้มปรีชา
24. นพ.นิเวศ เสริมศีลธรรม
25. นพ.สุวิทย์ โรจนศักดิ์โสธร
26. นพ.อาทร วรุณบรรจง
27. นพ.เจนฤทธิ์ วิตตะ
28.พญ.มาตา โอสถกระพันธ์
29. นพ.ธนะชัย ธัญญกุลสัจจา
30.นพ.อินทร์ จันแดง
31.พญ.นภาพร ปิติเกื้อกูล
32.นพ.ไพฑูรย์ ว่องวุฒิเวช
33.นพ.วิธาน ฐานะวุฑฒ์
34. นพ.เจษฎา มณีชวขจร
35.นพ.ไพรวัลย์ พัชรธรรม
36.นพ.สาฑิตย์ ชัยประสิทธิกุล
37.พญ.สุวรรณภา ปโกฏิประภา
38.พญ.สมรัก โล่ห์วนิชชัย
39.นพ.สมชาย ลีลากุศลวงศ์
40.นพ.สุกิจ ทัศนสุนทรวงศ์
41.นพ. ชัชชัย นวลละออง
42. นพ. จักรกริช โง้วศิริ
43. นพ. ชัชวาลย์ ศิลปกิจ
44. นพ.วิสุทธิ์ สุวิทยะศิริ
45. ศ.คลีนิก นพ.เดโช จักราพานิชกุล
46. นพ.กิตติพงษ์ ทองเนื้องาม
47.นพ.ทศนาถ อำพนนวรัตน์
48. นพ.วัยวัฒน์ ภานุมาสวิวัฒน์
49. นพ.สุธน ยุวศิรินันท์
50.นพ.จรินทร์ อัศวหาญฤทธิ์
51. ศ.คลินิก ดร.พญ.พรพิมล เรืองวุฒิเลิศ
52. ผศ พิเศษ นพ.ทศพร ศิริโสภิตกุล
53. พญ. พวงพลอย ขจิตสุวรรณ
54.นพ.ชัยชนะ ไตรติลานันท์
55. นพ.ดนัย ธีวันดา
56. นพ. อนุชา จินตนาวงศ์
57.นพ.กวีพจน์ เลิศอุตสาหกูล
58. รศ. นพ. มงคล คุณากร
59.นพ.ชานนท์ เมฆจรัสนภา
60. นพ.สุชาติ เลาบริพัตร
61 เกื้อเกียรติ
62 อนันต์ โฆษิตเศรษฐ์
63.พญ.ภรณี พรกิจประสาน
64.พญ.โศรยา ธรรมรักษ์
65.นพ.กัมพล ลิ่มทองนพคุณ
66. นพ ธีระชัย อุกฤษฎ์มโนรถ
67. นพ วราวุธ ชื่นตา
68. พญ พัชรีย์ เลิศฤทธิ์
69. นพ. ประพนธ์ จารุยาวงศ์
70. นพ.ไชยยศ รุ่งเรืองพิทยากุล
71. นพ. สมศักดิ์ ทิพย์ลือพร
72. นพ.ไกรฤกษ์ ไตรรัตนาภา
73.นพ.สุธี ทุวิรัตน์
74.นพ.สุนทร สาครรัตน์
75.พญ.ชลิษา ธรรมสระ
76.นพ.พิทยา ว่าพัฒนวงศ์
77.พญ.จันทราภา ศรีสวัสดิ์
78.นพ.มกรเทพ เทพกาญจนา
79.นพ.วรพจน์ เจียมอมรรัตน์
80.นพ.ไชยา อุปัติศฤงค์
81. นพ.สมภพ ชาครียวณิชย์
82 นพ.อนุสรณ์ ตานีพันธ์
83.พญ.วรนารถ พงศ์พิพัฒน์
84. นพ.วิโรจน์ ปัญญาดิลก

.

.

.

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.68 ธนาคารโลก ออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในวันนี้ โดยได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้สู่ระดับ 2.3% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนม.ค.ที่ระดับ 2.7% โดยได้รับผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

อย่างไรก็ดี ธนาคารโลกระบุว่าความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญภาวะถดถอยในปีนี้มีน้อยกว่า 10%

.

ธนาคารโลกปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้สู่ระดับ 1.4% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.3% และปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปีหน้า สู่ระดับ 1.6% จากเดิมที่ระดับ 2.0%

.

นอกจากนี้ การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้ถูกปรับลดลงสู่ระดับ 0.7% จากเดิมที่ระดับ 1.0%

อย่างไรก็ดี ธนาคารโลกยังคงคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ที่ระดับ 4.5% ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิม โดยระบุว่า จีนสามารถใช้นโยบายทางการเงินและการคลังในการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

.

ขณะเดียวกัน ธนาคารโลกคาดว่าการค้าโลกจะขยายตัว 1.8% ในปีนี้ ลดลงจากระดับ 3.4% ในปีที่แล้ว และเติบโตเพียง 1 ใน 3 ของระดับ 5.9% ซึ่งเป็นการขยายตัวในช่วงทศวรรษ 2000