หนูอยากมาแชร์มาระบายและแบ่งปันเรื่องราวค่ะอยากอ่านคอมเม้นมาเล่ากันได้นะคะว่าเคยเจออะไรมาบ้างในชีวิตหนูจะรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้นเวลาเห็นคอมเม้นท์คนที่เคยเจอหนักกว่าหนูแต่ก็เติบโตแล้วผ่านมาได้มามีความสุขได้ด้วยตัวเอง
หนูก็แค่เด็กคนนึงที่เพิ่งจะขึ้นม.ปลายแต่ยิ่งโตก็ยิ่งต้องแบกรับกับอารมณ์และพฤติกรรมของพ่อแม่หนูจะเล่าเหตุการ์ณในชีวิตที่หนูจำได้นะคะ
•ตอนเด็กๆหนูไม่รู้ตัวหรอกค่ะว่าสิ่งที่แม่ทำมันไม่ถูกแล้วสิ่งที่คุณพ่อทำมันไม่ดียังไงตอนเด็กๆคุณพ่อมักจะพาไปเที่ยวในวันเสาร์หรืออาทิตย์ช่วงเกือบย็นๆตอนร้านเงียบแล้วมารับคุณแม่ทีหลังค่ะส่วนคุณแม่จะทำงานอยู่ร้านค่ะแล้วกลับบ้านพร้อมกันตอนเย็นแต่ก็ไม่บ่อยค่ะเพราะหนูจะสลับมาช่วยแม่หน้าร้านบ้างหนูสารพัดช่วยเลยนะคะตั้งแต่เรียกลูกค้าแนะนำสินค้าห่อสินค้าส่งของถึงรถลูกค้าหนักประมาณ10กิโลได้(ปล.บ้านหนูมีอาชีพค้าขาย ปล.2ตอนเด็กคือช่วง 5-10ขวบ)
ถึงแม้หนูจะจำไม่ค่อยได้แต่ว่าสิ่งที่หนูจำได้แม่นและรู้สึกได้ว่าคุณแม่ทำไม่ถูกต้องคือ เวลาหนูทำตัวเป็นเด็กๆตอนอยู่หน้าร้าน เช่น งอแงอยากให้แม่กอด,สนใจหรืองอแงเวลาแม่คุยกับลูกของลูกค้าอย่างสนิทสนมจนหนูรู้สึกน้อยใจ หรือเวลาหนูพูดอะไรที่แม่ว่าไม่เข้าหูหรือไม่ควรพูดแม่จะหยิกหนูให้หนูเงียบ...หยิกจนเขียวจนม่วงเลยค่ะคุณแม่มักจะหยิกหนูบ่อยๆเพื่อให้หนูเงียบและหยุดไม่ว่ายังไงก็ตาม...รอยช้ำเก่ายังไม่หายเลยค่ะคุณแม่ก็หยิกเพิ่มจะมีรอยช้ำเพิ่มสะแล้ว😂...และตอนอยู่บ้านคุณแม่จะใช้ไม้ไผ่ก้านยาวๆที่ปลายๆเรียวเล็กตีเวลาหนูดื้อ ไม่ฟังเช่นไม่ยอมอาบน้ำทันทีตามที่คุณแม่พูด คุณแม่ก็จะไล่ตีจนหนูต้องหนีเข้าห้องน้ำแล้วยอมอาบน้ำดีๆค่ะ ตอนเด็กๆหนูเลยมักจะร้องไห้เงียบๆในห้องน้ำบ่อยๆพร้อมกับอาบน้ำไปก็เห็นรอยตีแดงๆนูนๆที่หลังขา,ตัวหรือที่ๆแม่ตีถึงตอนหนูหนีค่ะ แล้วเวลาหนูทำอะไรที่คุณแม่ว่าไม่ดีแบบที่หนูไม่รู้ตัว คุณแม่ก็จะเดินมาเงียบๆแล้วใช้มือตีหลังหนูดังปั๊กแล้วหนูสะดุ้งตกใจมากเลยค่ะ บางทีคุณแม่ก็ตบหนูเวลาหนูเถียง แล้วคุณแม่เป็นคนมือหนักสะด้วยค่ะ😂
แล้วคุณแม่ก็ชอบทะเลาะกับคุณพ่อที่มีนิสัยเสียไม่ค่อยทำงานทำการต่อหน้าหนูค่ะบางครั้งคุณแม่ก็ลงมือกับคุณพ่อจนคุณพ่อเลือดออกแต่หนูก็ทำเป็นนิ่งเฉยไว้ค่ะเพราะหนูไม่รู้จะทำอะไร...
ในส่วนนี้ตอนนี้ที่หนูโตพอจะรู้ว่าคนอื่นเขาไม่เคยโดนแม่ตบหรือหยิกกัน หนูก็เกิดคำถามว่าเพื่อนคนอื่นๆตอนเด็กๆที่ดื้อตามประสาเด็กๆคุณพ่อคุณแม่เขาก็ไม่ได้ตบเขานี่นาแล้วทำไมหนูถึงโดนตบละ?
หลังจากหนูอายุ10ขวบจนถึง12ขวบคุณแม่ก็รุนแรงน้อยลงแล้วค่ะแต่จะเปลี่ยนมาต่อว่าด้วยถ้อยคำแรงๆและคำหยาบแทนเวลาหนูทะเลาะกันคุณแม่ก็จะชอบพูดประมาณว่าหนูเป็นเด็กไม่ดีชอบพูดเหตุเดิมๆว่าหนูไม่ดีแบบนั้นแบบนี้ทำไมไม่ช่วยแม่ทำงานเหมือนเมื่อก่อนหรือไม่ก็ไล่ให้หนูไปทำงานเหมือนแม่ เวลาหนูทะเลาะกับแม่หนูก็พยายามพูดค่ะว่าหนูเริ่มไม่อยากช่วยทำงานแล้วขอมีเวลาส่วนตัวบ้างแต่คุณแม่ก็มักจะบอกปัดๆแต่ถึงแบบนั้นคุณแม่ก็จะพูดแบบนี้กับหนูซ้ำๆ้เพราะหนูดื้อและด้วยที่หนูรู้สึกเหนื่อยล้าไม่อยากทำตามที่คุณแม่พูดบ้างเพราะหนูเพลียจากสุขภาพจิตที่ไม่ค่อยดีจากสังคมที่โรงเรียนและทั้งจากความรู้สึกแย่ๆตอนทะเลาะกับคุณแม่แล้ววนไปแบบเดิมๆจนหนูรู้สึกเก็บกดอย่างการทะเลาะแล้วมีแค่หนูที่ร้องไห้คิดถึงอดีตที่ผ่านมาที่คุณแม่ตีหนูจนเป็นรอยพร้อมกับคำถามว่าทำไมหนูถึงโดนแต่คุณแม่ก็นอนอย่างสบายใจทั้งๆที่หนูก็พยายามบอกให้คุณแม่เข้าใจหนูเสมอแต่คุณแม่มักจะพูดตลอดว่าอยากให้แม่เข้าใจหนูก็ต้องเข้าใจแม่ก่อน
จากที่หนูมองย้อนกลับไปแล้วตอบเหตุผลในมุมที่หนูโตขึ้นแล้วหนูว่าช่วงนั้นเหมือนเริ่มโตขึ้นอะไรๆก็เปลี่ยนไปหนูก็ช่วยแม่น้อยลงจนถึงขั้นหยุดช่วยแต่เป็นเพราะหนูเริ่มจะโตเริ่มมีความอยากเล่นเหมือนที่คนอื่นเขาเล่นกันและอยากรู้อะไรใหม่ๆจากอินเทอร์เน็ตหนูเลยดื้อในช่วงนั้นถึงลึกๆหนูจะคิดว่าเด็กคนอื่นก็เป็นเหมือนกันแต่ทำไมถึงไม่เห็นจะทะเลาะกันบ่อยแบบหนูเลย...
พออย่างตอนนี้มันก็หนักขึ้นเรื่อยๆทั้งๆที่หนูเองก็ต้องเหนื่อยมากกับการเรียนแผนวิทย์คณิตเหมือนกัน
มันเลยยิ่งทำให้หนูรู้สึกสิ้นหวังหมือนหนูอธิบายหรือพูดกับคุณแม่ตอนทะเลาะกันไม่ได้เลยค่ะพูดอะไรหนูก็ผิดหมดคุณแม่ไม่เคยฟังเอาแต่ต่อว่าหนูไม่ว่าหนูจะพยายามอดทนแล้วเงียบแค่ไหนคุณแม่มักจะด่าและไล่ให้หนูไปทำอะไรเองซักผ้าเอง(ทั้งๆที่หนูก็ซักเองถึงแม้บางครั้งคุณพ่อจะนำไปร้านซักผ้าให้บางช่วงที่หนูค่อนข้างยุ่งและเพลีย)ไปทำอาหารกินเอง(แต่คุณแม่ก็ไม่ได้ทำอาหารให้หนูกินอยู่แล้ว)ไปทำงานหาเงินเอง(ทั้งๆที่หนูยุ่งกับการเรียนหนูมีความฝันอยากเป็นหมออยากทำงานหาเงินเยอะๆจะได้ไม่ลำบากเรื่องเงิน)ไปทำอะไรต่างๆที่คุณแม่ก็ไม่ได้ทำให้,หนูทำเองหรือคุณพ่อที่ว่างเพราะไม่ค่อยช่วยทำงานช่วยหนูตอนหนูยุ่งๆอยู่แล้วและมักจะด่า ว่าหนูไม่ช่วยทำงานบ้านแต่งานบ้านที่คุณแม่พูดถึงคือให้หนูกวาดถูทั้งบ้านล้างห้องน้ำเปลี่ยนผ้าปูที่นอนแล้วคอยตามล้างจานให้เสมอโดยที่คุณแม่ต้องการให้หนูทำคนเดียวทั้งหมดนี้หนูก็ทำค่ะแต่ไม่หมดทุกอย่างคุณแม่ก็เลยทำบ้างนานๆทีแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังด่าหนูเสมอเหมือนหนูไม่เคยทำทุกครั้งที่หนูพยายามทำตัวให้ดีขึ้นตามที่คุณแม่บอกเป๊ะๆแต่คุณแม่มักจะไม่สังเกตุเห็นแล้วก็ยังด่าหนูเหมือนเดิมเสมอทั้งๆที่หนูกวาดบ้านสะอาดมากเลยแท้ๆแต่คงเพราะบ้านเก่ากระเบื้องหลุดไปบ้างแล้วคุณแม่เลยไม่สังเกตุ...หนูรู้ว่าบางทีหนูก็อดทนไม่ได้เลยตอบโต้กลับไปซึ่งบางทีก็คงรุนแรงเหมือนกันแต่คุณแม่มักจะแสดงอาการเว่อมากเลยค่ะว่าที่หนูทำมันไม่ดีขนาดไหนทั้งๆที่ตัวเองก็ทำกับหนูเหมือนกันแท้ๆ...เหมือนหนูไม่มีค่าอะไรเลยใช่ไหมละคะที่แม่จะทำอะไรกับหนูก็ได้เพราะแม่เป็นคนให้หนูเกิดมา(ถึงหนูจะเคยฟังจากคุณแม่ว่าคุณแม่ไปขอหนูจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพราะอายุเยอะแล้วคุณยายเร่งให้มีหลานก็เถอะ...เหมือนไม่ได้เต็มใจมีเลยเนอะ แต่เขาก็บอกเขาเต็มใจมี...)
คุณแม่ช่วงหนูจะขึ้นม.ปลายจนถึงตอนนี้เขาติดโทรศัพท์มากเลยค่ะกลับมาบ้านก็นั่งดูแต่โทรศัพท์เผลอๆคุณแม่ติดมากกว่าหนูอีกค่ะเพราะคุณแม่ไม่ทำอะไรเลยจากแรกๆที่คุณแม่อาบน้ำเร็วกว่าจะอาบน้ำก็ดึกอาบก็นานเพราะดูโทรศัพท์ในห้องน้ำค่ะกินข้าวก็ดูโทรศัพท์ค่ะหนูรู้สึกว่าคุณแม่นิสัยเสียขึ้นเยอะเลยหนูเตือนบอกอะไรก็ไม่ฟังเวลาเขาใส่หูฟังหนูพูดเขาก็ไม่ค่อยได้ยินจนหนูชินแล้วค่ะจากปกติตอนทะเลาะกันหรือตอนเขาด่าหนูด้วยเหตุผลที่ว่าใช้ทิชชู่ทิ้งเกลื่อนกลาดแม้ว่าทิชชู่นั้นหนูอาจจะไม่ใช่คนใช้ก็ตามอะไรที่หนูไม่ได้ทำเขาก็ว่าหนูตลอดเขาไม่เคยมองถึงสิ่งดีๆที่หนูเคยทำเลย...(หนูว่าตอนเด็กหนูเก่งมากเลยนะล่าเกียรติบัตรมาเยอะเลย,พอเริ่มโตหนูก็ตั้งใจเรียนคะแนนท็อปห้องด้วยนะ...สอบเข้าม.4หนูเคยไปสอบจุฬาภรณ์ด้วยนะถึงแม้จะไม่โดนเรียกตัวก็เถอะ...หนูพยายามมากจริงๆเพื่อให้แม่ชมแล้วด่าหนูน้อยลงบ้าง...)
หลายๆอย่างทำให้หนูรู้สึกเหนื่อยล้าเพลียมาก
อยากหายไปจากโลกนี้
มันอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กสำหรับใครบางคนแต่สำหรับหนูที่เจออะไรแบบนี้มาตลอดตั้งแต่เด็กและเปลี่ยนไปเรื่อยๆในทางที่แย่กว่าเดิมบ้างแต่ก็ยังคงมีปัญหาเดิมๆเหมือนหนูไม่หลุดพ้นจากอะไรแบบนี้สักที
ทั้งปัญหาเรื่องเงิน (หนูยังกังวลอยู่เบยค่ะว่าหนูจะมีเงินเรียนหมอตอนมหาลัยมั้ย)(หนูจะสอบติดหมอมหาลัยที่ใฝ่ฝันหรือเปล่า)(เพราะแม้แต่เงินเรียนพิเศษหนูยังต้องคิดหนักเงินซื้อหนังสือซื้อข้อสอบมาทำหนูยังคิดแล้วคิดอีกเลย)ปัญหาครอบครัว(ที่มาแบบไม่ทันตั้งตัวทำแผนในวันนั้นหนูพัง)(ทำหนูยิ้มไม่ออกในวันธรรมดาๆที่เหนื่อยอยู่แล้ว)
ไม่รู้ว่าหนูมีปัญหาทางจิตมั้ยเช่นโรคซึมเศร้าอะไรแบบนั้น
แต่หนูเริ่มเอะใจตั้งแต่ม.3แล้ว ทั้งเหนื่อยง่าย ทั้งกายและใจกินก็เดี๋ยวกินเยอะ(เพราะกินแล้วหายเครียดหายเศร้า)เดี๋ยวกินน้อย(เพราะเครียดเศร้ากังวลกินไม่ลง)
นอนเยอะ(รู้สึกนอนเท่าไหร่ก็ไม่พออยากนอนหลับไปตลอดกาล) ทำอะไรก็ไม่สนุกเหมือนเมื่อก่อนเกมที่เคยชอบเล่นก็เบื่อ อะไรที่เคยชอบทำก็เลิกทำ
แต่ก็ว่าไปนั่นแหละค่ะต่อให้หนูมีสุขภาพจิตไม่ค่อยดีเป็นโรคเครียดหรืออะไรก็ตามแล้วจะทำอะไรได้ในเมื่อสุดท้ายคำพูดที่ตัดสินทุกอย่าง อย่าง โรคอะไรพันธ์นั้นเป็นโรคที่คนอ่อนแอหรืออะไรไม่ดีบลาๆ แม่หนูเป็นคนพูดออกมาเอง
ก็อาจจะเป็นปัญหาทั่วๆไปสำหรับใครหลายๆที่ชีวิตวัยรุ่นต้องเจอแหละค่ะหนูเลยแค่อยากมาระบายบ้างรวมถึงอยากรู้ว่าทุกคนผ่านมายังไงบ้างน่ะค่ะ
สวัสดีค่ะ.
เหนื่อยจังเลยค่ะ
หนูก็แค่เด็กคนนึงที่เพิ่งจะขึ้นม.ปลายแต่ยิ่งโตก็ยิ่งต้องแบกรับกับอารมณ์และพฤติกรรมของพ่อแม่หนูจะเล่าเหตุการ์ณในชีวิตที่หนูจำได้นะคะ
•ตอนเด็กๆหนูไม่รู้ตัวหรอกค่ะว่าสิ่งที่แม่ทำมันไม่ถูกแล้วสิ่งที่คุณพ่อทำมันไม่ดียังไงตอนเด็กๆคุณพ่อมักจะพาไปเที่ยวในวันเสาร์หรืออาทิตย์ช่วงเกือบย็นๆตอนร้านเงียบแล้วมารับคุณแม่ทีหลังค่ะส่วนคุณแม่จะทำงานอยู่ร้านค่ะแล้วกลับบ้านพร้อมกันตอนเย็นแต่ก็ไม่บ่อยค่ะเพราะหนูจะสลับมาช่วยแม่หน้าร้านบ้างหนูสารพัดช่วยเลยนะคะตั้งแต่เรียกลูกค้าแนะนำสินค้าห่อสินค้าส่งของถึงรถลูกค้าหนักประมาณ10กิโลได้(ปล.บ้านหนูมีอาชีพค้าขาย ปล.2ตอนเด็กคือช่วง 5-10ขวบ)
ถึงแม้หนูจะจำไม่ค่อยได้แต่ว่าสิ่งที่หนูจำได้แม่นและรู้สึกได้ว่าคุณแม่ทำไม่ถูกต้องคือ เวลาหนูทำตัวเป็นเด็กๆตอนอยู่หน้าร้าน เช่น งอแงอยากให้แม่กอด,สนใจหรืองอแงเวลาแม่คุยกับลูกของลูกค้าอย่างสนิทสนมจนหนูรู้สึกน้อยใจ หรือเวลาหนูพูดอะไรที่แม่ว่าไม่เข้าหูหรือไม่ควรพูดแม่จะหยิกหนูให้หนูเงียบ...หยิกจนเขียวจนม่วงเลยค่ะคุณแม่มักจะหยิกหนูบ่อยๆเพื่อให้หนูเงียบและหยุดไม่ว่ายังไงก็ตาม...รอยช้ำเก่ายังไม่หายเลยค่ะคุณแม่ก็หยิกเพิ่มจะมีรอยช้ำเพิ่มสะแล้ว😂...และตอนอยู่บ้านคุณแม่จะใช้ไม้ไผ่ก้านยาวๆที่ปลายๆเรียวเล็กตีเวลาหนูดื้อ ไม่ฟังเช่นไม่ยอมอาบน้ำทันทีตามที่คุณแม่พูด คุณแม่ก็จะไล่ตีจนหนูต้องหนีเข้าห้องน้ำแล้วยอมอาบน้ำดีๆค่ะ ตอนเด็กๆหนูเลยมักจะร้องไห้เงียบๆในห้องน้ำบ่อยๆพร้อมกับอาบน้ำไปก็เห็นรอยตีแดงๆนูนๆที่หลังขา,ตัวหรือที่ๆแม่ตีถึงตอนหนูหนีค่ะ แล้วเวลาหนูทำอะไรที่คุณแม่ว่าไม่ดีแบบที่หนูไม่รู้ตัว คุณแม่ก็จะเดินมาเงียบๆแล้วใช้มือตีหลังหนูดังปั๊กแล้วหนูสะดุ้งตกใจมากเลยค่ะ บางทีคุณแม่ก็ตบหนูเวลาหนูเถียง แล้วคุณแม่เป็นคนมือหนักสะด้วยค่ะ😂
แล้วคุณแม่ก็ชอบทะเลาะกับคุณพ่อที่มีนิสัยเสียไม่ค่อยทำงานทำการต่อหน้าหนูค่ะบางครั้งคุณแม่ก็ลงมือกับคุณพ่อจนคุณพ่อเลือดออกแต่หนูก็ทำเป็นนิ่งเฉยไว้ค่ะเพราะหนูไม่รู้จะทำอะไร...
ในส่วนนี้ตอนนี้ที่หนูโตพอจะรู้ว่าคนอื่นเขาไม่เคยโดนแม่ตบหรือหยิกกัน หนูก็เกิดคำถามว่าเพื่อนคนอื่นๆตอนเด็กๆที่ดื้อตามประสาเด็กๆคุณพ่อคุณแม่เขาก็ไม่ได้ตบเขานี่นาแล้วทำไมหนูถึงโดนตบละ?
หลังจากหนูอายุ10ขวบจนถึง12ขวบคุณแม่ก็รุนแรงน้อยลงแล้วค่ะแต่จะเปลี่ยนมาต่อว่าด้วยถ้อยคำแรงๆและคำหยาบแทนเวลาหนูทะเลาะกันคุณแม่ก็จะชอบพูดประมาณว่าหนูเป็นเด็กไม่ดีชอบพูดเหตุเดิมๆว่าหนูไม่ดีแบบนั้นแบบนี้ทำไมไม่ช่วยแม่ทำงานเหมือนเมื่อก่อนหรือไม่ก็ไล่ให้หนูไปทำงานเหมือนแม่ เวลาหนูทะเลาะกับแม่หนูก็พยายามพูดค่ะว่าหนูเริ่มไม่อยากช่วยทำงานแล้วขอมีเวลาส่วนตัวบ้างแต่คุณแม่ก็มักจะบอกปัดๆแต่ถึงแบบนั้นคุณแม่ก็จะพูดแบบนี้กับหนูซ้ำๆ้เพราะหนูดื้อและด้วยที่หนูรู้สึกเหนื่อยล้าไม่อยากทำตามที่คุณแม่พูดบ้างเพราะหนูเพลียจากสุขภาพจิตที่ไม่ค่อยดีจากสังคมที่โรงเรียนและทั้งจากความรู้สึกแย่ๆตอนทะเลาะกับคุณแม่แล้ววนไปแบบเดิมๆจนหนูรู้สึกเก็บกดอย่างการทะเลาะแล้วมีแค่หนูที่ร้องไห้คิดถึงอดีตที่ผ่านมาที่คุณแม่ตีหนูจนเป็นรอยพร้อมกับคำถามว่าทำไมหนูถึงโดนแต่คุณแม่ก็นอนอย่างสบายใจทั้งๆที่หนูก็พยายามบอกให้คุณแม่เข้าใจหนูเสมอแต่คุณแม่มักจะพูดตลอดว่าอยากให้แม่เข้าใจหนูก็ต้องเข้าใจแม่ก่อน
จากที่หนูมองย้อนกลับไปแล้วตอบเหตุผลในมุมที่หนูโตขึ้นแล้วหนูว่าช่วงนั้นเหมือนเริ่มโตขึ้นอะไรๆก็เปลี่ยนไปหนูก็ช่วยแม่น้อยลงจนถึงขั้นหยุดช่วยแต่เป็นเพราะหนูเริ่มจะโตเริ่มมีความอยากเล่นเหมือนที่คนอื่นเขาเล่นกันและอยากรู้อะไรใหม่ๆจากอินเทอร์เน็ตหนูเลยดื้อในช่วงนั้นถึงลึกๆหนูจะคิดว่าเด็กคนอื่นก็เป็นเหมือนกันแต่ทำไมถึงไม่เห็นจะทะเลาะกันบ่อยแบบหนูเลย...
พออย่างตอนนี้มันก็หนักขึ้นเรื่อยๆทั้งๆที่หนูเองก็ต้องเหนื่อยมากกับการเรียนแผนวิทย์คณิตเหมือนกัน
มันเลยยิ่งทำให้หนูรู้สึกสิ้นหวังหมือนหนูอธิบายหรือพูดกับคุณแม่ตอนทะเลาะกันไม่ได้เลยค่ะพูดอะไรหนูก็ผิดหมดคุณแม่ไม่เคยฟังเอาแต่ต่อว่าหนูไม่ว่าหนูจะพยายามอดทนแล้วเงียบแค่ไหนคุณแม่มักจะด่าและไล่ให้หนูไปทำอะไรเองซักผ้าเอง(ทั้งๆที่หนูก็ซักเองถึงแม้บางครั้งคุณพ่อจะนำไปร้านซักผ้าให้บางช่วงที่หนูค่อนข้างยุ่งและเพลีย)ไปทำอาหารกินเอง(แต่คุณแม่ก็ไม่ได้ทำอาหารให้หนูกินอยู่แล้ว)ไปทำงานหาเงินเอง(ทั้งๆที่หนูยุ่งกับการเรียนหนูมีความฝันอยากเป็นหมออยากทำงานหาเงินเยอะๆจะได้ไม่ลำบากเรื่องเงิน)ไปทำอะไรต่างๆที่คุณแม่ก็ไม่ได้ทำให้,หนูทำเองหรือคุณพ่อที่ว่างเพราะไม่ค่อยช่วยทำงานช่วยหนูตอนหนูยุ่งๆอยู่แล้วและมักจะด่า ว่าหนูไม่ช่วยทำงานบ้านแต่งานบ้านที่คุณแม่พูดถึงคือให้หนูกวาดถูทั้งบ้านล้างห้องน้ำเปลี่ยนผ้าปูที่นอนแล้วคอยตามล้างจานให้เสมอโดยที่คุณแม่ต้องการให้หนูทำคนเดียวทั้งหมดนี้หนูก็ทำค่ะแต่ไม่หมดทุกอย่างคุณแม่ก็เลยทำบ้างนานๆทีแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังด่าหนูเสมอเหมือนหนูไม่เคยทำทุกครั้งที่หนูพยายามทำตัวให้ดีขึ้นตามที่คุณแม่บอกเป๊ะๆแต่คุณแม่มักจะไม่สังเกตุเห็นแล้วก็ยังด่าหนูเหมือนเดิมเสมอทั้งๆที่หนูกวาดบ้านสะอาดมากเลยแท้ๆแต่คงเพราะบ้านเก่ากระเบื้องหลุดไปบ้างแล้วคุณแม่เลยไม่สังเกตุ...หนูรู้ว่าบางทีหนูก็อดทนไม่ได้เลยตอบโต้กลับไปซึ่งบางทีก็คงรุนแรงเหมือนกันแต่คุณแม่มักจะแสดงอาการเว่อมากเลยค่ะว่าที่หนูทำมันไม่ดีขนาดไหนทั้งๆที่ตัวเองก็ทำกับหนูเหมือนกันแท้ๆ...เหมือนหนูไม่มีค่าอะไรเลยใช่ไหมละคะที่แม่จะทำอะไรกับหนูก็ได้เพราะแม่เป็นคนให้หนูเกิดมา(ถึงหนูจะเคยฟังจากคุณแม่ว่าคุณแม่ไปขอหนูจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพราะอายุเยอะแล้วคุณยายเร่งให้มีหลานก็เถอะ...เหมือนไม่ได้เต็มใจมีเลยเนอะ แต่เขาก็บอกเขาเต็มใจมี...)
คุณแม่ช่วงหนูจะขึ้นม.ปลายจนถึงตอนนี้เขาติดโทรศัพท์มากเลยค่ะกลับมาบ้านก็นั่งดูแต่โทรศัพท์เผลอๆคุณแม่ติดมากกว่าหนูอีกค่ะเพราะคุณแม่ไม่ทำอะไรเลยจากแรกๆที่คุณแม่อาบน้ำเร็วกว่าจะอาบน้ำก็ดึกอาบก็นานเพราะดูโทรศัพท์ในห้องน้ำค่ะกินข้าวก็ดูโทรศัพท์ค่ะหนูรู้สึกว่าคุณแม่นิสัยเสียขึ้นเยอะเลยหนูเตือนบอกอะไรก็ไม่ฟังเวลาเขาใส่หูฟังหนูพูดเขาก็ไม่ค่อยได้ยินจนหนูชินแล้วค่ะจากปกติตอนทะเลาะกันหรือตอนเขาด่าหนูด้วยเหตุผลที่ว่าใช้ทิชชู่ทิ้งเกลื่อนกลาดแม้ว่าทิชชู่นั้นหนูอาจจะไม่ใช่คนใช้ก็ตามอะไรที่หนูไม่ได้ทำเขาก็ว่าหนูตลอดเขาไม่เคยมองถึงสิ่งดีๆที่หนูเคยทำเลย...(หนูว่าตอนเด็กหนูเก่งมากเลยนะล่าเกียรติบัตรมาเยอะเลย,พอเริ่มโตหนูก็ตั้งใจเรียนคะแนนท็อปห้องด้วยนะ...สอบเข้าม.4หนูเคยไปสอบจุฬาภรณ์ด้วยนะถึงแม้จะไม่โดนเรียกตัวก็เถอะ...หนูพยายามมากจริงๆเพื่อให้แม่ชมแล้วด่าหนูน้อยลงบ้าง...)
หลายๆอย่างทำให้หนูรู้สึกเหนื่อยล้าเพลียมาก
อยากหายไปจากโลกนี้
มันอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กสำหรับใครบางคนแต่สำหรับหนูที่เจออะไรแบบนี้มาตลอดตั้งแต่เด็กและเปลี่ยนไปเรื่อยๆในทางที่แย่กว่าเดิมบ้างแต่ก็ยังคงมีปัญหาเดิมๆเหมือนหนูไม่หลุดพ้นจากอะไรแบบนี้สักที
ทั้งปัญหาเรื่องเงิน (หนูยังกังวลอยู่เบยค่ะว่าหนูจะมีเงินเรียนหมอตอนมหาลัยมั้ย)(หนูจะสอบติดหมอมหาลัยที่ใฝ่ฝันหรือเปล่า)(เพราะแม้แต่เงินเรียนพิเศษหนูยังต้องคิดหนักเงินซื้อหนังสือซื้อข้อสอบมาทำหนูยังคิดแล้วคิดอีกเลย)ปัญหาครอบครัว(ที่มาแบบไม่ทันตั้งตัวทำแผนในวันนั้นหนูพัง)(ทำหนูยิ้มไม่ออกในวันธรรมดาๆที่เหนื่อยอยู่แล้ว)
ไม่รู้ว่าหนูมีปัญหาทางจิตมั้ยเช่นโรคซึมเศร้าอะไรแบบนั้น
แต่หนูเริ่มเอะใจตั้งแต่ม.3แล้ว ทั้งเหนื่อยง่าย ทั้งกายและใจกินก็เดี๋ยวกินเยอะ(เพราะกินแล้วหายเครียดหายเศร้า)เดี๋ยวกินน้อย(เพราะเครียดเศร้ากังวลกินไม่ลง)
นอนเยอะ(รู้สึกนอนเท่าไหร่ก็ไม่พออยากนอนหลับไปตลอดกาล) ทำอะไรก็ไม่สนุกเหมือนเมื่อก่อนเกมที่เคยชอบเล่นก็เบื่อ อะไรที่เคยชอบทำก็เลิกทำ
แต่ก็ว่าไปนั่นแหละค่ะต่อให้หนูมีสุขภาพจิตไม่ค่อยดีเป็นโรคเครียดหรืออะไรก็ตามแล้วจะทำอะไรได้ในเมื่อสุดท้ายคำพูดที่ตัดสินทุกอย่าง อย่าง โรคอะไรพันธ์นั้นเป็นโรคที่คนอ่อนแอหรืออะไรไม่ดีบลาๆ แม่หนูเป็นคนพูดออกมาเอง
ก็อาจจะเป็นปัญหาทั่วๆไปสำหรับใครหลายๆที่ชีวิตวัยรุ่นต้องเจอแหละค่ะหนูเลยแค่อยากมาระบายบ้างรวมถึงอยากรู้ว่าทุกคนผ่านมายังไงบ้างน่ะค่ะ
สวัสดีค่ะ.