สวัสดีคับ เรื่องนี่อ่าจะยาว หน่อยนะคับ
เรื่องมีอยู่ว่า ย้อนไป 2-3 ปีก่อน ผมเป็นพ่อค้า ขายของที่ตลาดคับ ได้เจอแฟนคนนี้ผ่าน Fb คับ ซึงเราก็ทักไปจีบเค้าก่อน เค้าทำงานเป็น pc วสัน ที่ห้างแห้งหนึ่งคับ เราก็คุยกันจนได้ครบกัน คือตอนแรกผมทำงานประจำ มา 10 ปี จนโควิดจนต้องออกมาขายของ คับ 2 คนเราก็คบกันได้ประมาณ 3-4 เดือน ตัวผมเอง จากเปิดร้านเพิ่มอีกร้าน ( ผมขายพวกของเล่น ขนมต่างๆนะคับ ) ซึงก็เลยชวนเค้าให้ออกจากงานมาทำด้วยกัน เพราะเราทำงานประจำมาเราพอรู้ ว่ามันรวยยาก เค้าก็ตอบตกลง เราก็เปิด สาขา 2 โดยให้เค้าไปขาย เราขายอีก ที่ ซึงมันก็เป็นไปได้ด้วยดี เงินผมเป็นคน บริหาร แต่ช่วงนั้นเค้าก็มีบ่นบ้างว่า ทำไมไม่เอาเงืน เก็บไว้ให้เค้าบริหารบ้าง จริงเราก็ไม่ได้คืดอะไรหลอกเรื่องนี้ แต่ผมคิดว่า ไว้ที่ผม จะซื่อของบริหารง่ายกว่า แต่เค้าอยากได้อะไรก็ได้ ปกตืนะคับ เรื่องมันก็ผ่านมาซักระยะ ช่วง ปีนั้น เราก็ขยาย 3-4 ร้าน ตามลำดับ ตามตลาดทั่วๆไปคับ จนมา ต้นปี 2567 ผมเมื่อก่อนเป็น สตีมมิ่งเล่นเกมอยู่บ้าง จนช่วงนั้น มีงานๆ หนึ่ง ที่ผมคิดว่า แฟนผมน่าจะทำได้ และไม่รบกวนการขายของทะไหร่ ก็เลยลองกันคับ ซึงเค้าจะเป็นคนทำ ส่วนผม จะเป็นเหมือนผู้จัดการส่วนตัวเค้า ค่อยแนะนำเค้า บอกเค้า แล้วอยู่กับ เค้าตลอดในช่วงเวลาทำงาน ( มันคืองานหน้ากล้อง ) คือผมก็คือคนที่ เซ้ตระบบ ซื้อของมาทำตรงนี้และควบคุมทุกอย่างให้เค้าคับ โดยประมาณ ซึงเพราะเราลองทำ ผลตอบรับมันก็ดีเกินคาดจากงานที่คิดว่า แค่เสริม กลายเป็นงานที่ผม มองไปไกลเลยว่า อันนี้ละเรามาถูกทางละ ส่วนเงินที่ได่สำหรับงานนี้ เค้าก็เก็บไป ( แต่เงินทุน ที่ลองผิดลองถูกของงานนี้ผมจะเป็นคนจัดการ ) มันก็ผ่านมาเรื่อยๆ ทุกอย่างก็ไปได่ดี เราได้เงินจาก งานที่แฟนทำ ภายใน 1 ปีคือ หลักล้านบาทได้ จนมาปี 2568 เศรษกิจ แย่มาก เราก็ทยอยปิดร้านไปเรื่อยๆ จนเหลือที่สุดท้าย ( ลืมบอกพอเราคิดว่างานที่แฟนเราทำมันโอเคร เราก็เลยต้องจ้างเด็กมา ขายของแทน เพราะงาน ที่แฟนทำมันค่อช่วงกลางคืน ซึงบอกนิดหนึ่ง งานที่แฟนทำ ทุกวันจะมีผม อยู่ด้วยตลอด ทุกนาที เพราะผมจะเป็นคน ควบคุมงานทั้งหมด เค้ามีหน้าที๋อยูาหน้ากล้องและพูด ซึงเราก็นอนเช้ากันทุกวัน เที่ยงๆ ผมก็ต้องออกไปขายของไปดูร้านต่อ จนมาถึง วันที่ เศรษฐกิจมันแย่ ซึงเราก็รู้มาเรื่อยๆละ จนมันเข้าเนื้อมาตลอด จนวันหนึงเราคิดว่า เราอาจจะต้องปิดกิจการลงแล้ง ไปทางที่แฟนทำแทน เพื่อ 1. เรามีเวลาให้แฟนมากขึ้นแต่นอน 2. รายได้ดีกว่า เหนื่อยน่อยลง 3. มีเวลาใช้ชีวิตมากขึ้น อันนี้ที่เราคืด จนร้านเราก็ต้องปิดตัวเอง ตามสถานการ์ เศรษกิจ ซึงเราก็เหลือ ทางเดียวแล้วตอนนี้ แต่ซึงเงินที่ได้ มันอยู่สบายๆ อยู่แล่วกับเรา 2 คน แต่ พอมา ณ จุดๆ หนึ่งมเหตุการณืที่เราไม่คิดเลยมันก็มาจากปากแฟนเรา เวลาทะเลาะกันทุกครั้งคือ ไอตัวภาระ ทำไมไม่ไปหางานทำ เบื่อขี้หน้าวะ ซึงเราบอกก่อนมเราอายุ 33 แฟน 24 เรารู้นะเค่าพูด เพราะ เค้าโกด เพราะตอนดีกัน ก็คุยกันเรื่องอนาคตตลอด จะเป็นกันเฉพาะตอนอารมณืเค่าไม่ดี ซึงเค้ารู่ตัวนะว่าที่พูดมา ไม่ผิด แต่มีนอดไม่ได่ ซึงถ่าถามว่า เราไปทำงานได้ไหมได่ แต่งานหลักที่แฟน เค้าทำ มันทำคนเดียวไม่ได้ไง ผมก็ต้องนั่งเฝ้าอควมคุมอยู่ดี แล้วผมก็ต้องนอน 2-3 ชมแล้วตื่นไปทำงาน ถามว่าได้ไม่ได้คับ แต่ ผมเคยมีประวัติแบบนี่มาแล้ว ทำแต่งานจนไม่สนใจแฟน แล้วก็ต้องเลิกลากันด้วยเรื่องนี่ ดังนั้น ผมคิดแล้ว ว่า แบบนี้แป็นตอนนี้ มันดีที่สุดแล้ว แต่ติดแค่เรื่องเดียว เรื่องอารมณ์เค้า จะทำให้เค้า คิดได้แล้วลดเรื่องพวกนี่ลงยังไง หรือจริงๆแล้ว สิ่งที่ผมคิด มันผิดมาตลอด แต่สิ่งที่ผมคิด ที่ผ่านมา มันก็ทำให้เรา 2 คนมีรถ บ้านตัวเอง สร้างบ้านให่แม่เค้าได้นะ เอาจริงๆ การด่าทุกครั้งมันก็ทำให้ผมนอยๆ มาตลอด แต่ไม่รู่เหมือนกัน จะทำให้ เค้าคิดได้เร็วแค่ไหนว่า สิ่งที่เราทำอยู่ เป็นอยู่ มันดีมากๆแล้ว ขอคำแนะนำหน่อยคับ สงสัยตรงไหนถามได่เลยคับ
ปล งานที่แฟนทำ มันคืออาชีพ vj dj คับ
มีแฟนเด็กกว่า 9 ปี ถามเรื่อง ทำไมเวลาทะเลาะกัน ไม่พอใจกัน ต้องดูถูกอีกฝั่งด้วย
เรื่องมีอยู่ว่า ย้อนไป 2-3 ปีก่อน ผมเป็นพ่อค้า ขายของที่ตลาดคับ ได้เจอแฟนคนนี้ผ่าน Fb คับ ซึงเราก็ทักไปจีบเค้าก่อน เค้าทำงานเป็น pc วสัน ที่ห้างแห้งหนึ่งคับ เราก็คุยกันจนได้ครบกัน คือตอนแรกผมทำงานประจำ มา 10 ปี จนโควิดจนต้องออกมาขายของ คับ 2 คนเราก็คบกันได้ประมาณ 3-4 เดือน ตัวผมเอง จากเปิดร้านเพิ่มอีกร้าน ( ผมขายพวกของเล่น ขนมต่างๆนะคับ ) ซึงก็เลยชวนเค้าให้ออกจากงานมาทำด้วยกัน เพราะเราทำงานประจำมาเราพอรู้ ว่ามันรวยยาก เค้าก็ตอบตกลง เราก็เปิด สาขา 2 โดยให้เค้าไปขาย เราขายอีก ที่ ซึงมันก็เป็นไปได้ด้วยดี เงินผมเป็นคน บริหาร แต่ช่วงนั้นเค้าก็มีบ่นบ้างว่า ทำไมไม่เอาเงืน เก็บไว้ให้เค้าบริหารบ้าง จริงเราก็ไม่ได้คืดอะไรหลอกเรื่องนี้ แต่ผมคิดว่า ไว้ที่ผม จะซื่อของบริหารง่ายกว่า แต่เค้าอยากได้อะไรก็ได้ ปกตืนะคับ เรื่องมันก็ผ่านมาซักระยะ ช่วง ปีนั้น เราก็ขยาย 3-4 ร้าน ตามลำดับ ตามตลาดทั่วๆไปคับ จนมา ต้นปี 2567 ผมเมื่อก่อนเป็น สตีมมิ่งเล่นเกมอยู่บ้าง จนช่วงนั้น มีงานๆ หนึ่ง ที่ผมคิดว่า แฟนผมน่าจะทำได้ และไม่รบกวนการขายของทะไหร่ ก็เลยลองกันคับ ซึงเค้าจะเป็นคนทำ ส่วนผม จะเป็นเหมือนผู้จัดการส่วนตัวเค้า ค่อยแนะนำเค้า บอกเค้า แล้วอยู่กับ เค้าตลอดในช่วงเวลาทำงาน ( มันคืองานหน้ากล้อง ) คือผมก็คือคนที่ เซ้ตระบบ ซื้อของมาทำตรงนี้และควบคุมทุกอย่างให้เค้าคับ โดยประมาณ ซึงเพราะเราลองทำ ผลตอบรับมันก็ดีเกินคาดจากงานที่คิดว่า แค่เสริม กลายเป็นงานที่ผม มองไปไกลเลยว่า อันนี้ละเรามาถูกทางละ ส่วนเงินที่ได่สำหรับงานนี้ เค้าก็เก็บไป ( แต่เงินทุน ที่ลองผิดลองถูกของงานนี้ผมจะเป็นคนจัดการ ) มันก็ผ่านมาเรื่อยๆ ทุกอย่างก็ไปได่ดี เราได้เงินจาก งานที่แฟนทำ ภายใน 1 ปีคือ หลักล้านบาทได้ จนมาปี 2568 เศรษกิจ แย่มาก เราก็ทยอยปิดร้านไปเรื่อยๆ จนเหลือที่สุดท้าย ( ลืมบอกพอเราคิดว่างานที่แฟนเราทำมันโอเคร เราก็เลยต้องจ้างเด็กมา ขายของแทน เพราะงาน ที่แฟนทำมันค่อช่วงกลางคืน ซึงบอกนิดหนึ่ง งานที่แฟนทำ ทุกวันจะมีผม อยู่ด้วยตลอด ทุกนาที เพราะผมจะเป็นคน ควบคุมงานทั้งหมด เค้ามีหน้าที๋อยูาหน้ากล้องและพูด ซึงเราก็นอนเช้ากันทุกวัน เที่ยงๆ ผมก็ต้องออกไปขายของไปดูร้านต่อ จนมาถึง วันที่ เศรษฐกิจมันแย่ ซึงเราก็รู้มาเรื่อยๆละ จนมันเข้าเนื้อมาตลอด จนวันหนึงเราคิดว่า เราอาจจะต้องปิดกิจการลงแล้ง ไปทางที่แฟนทำแทน เพื่อ 1. เรามีเวลาให้แฟนมากขึ้นแต่นอน 2. รายได้ดีกว่า เหนื่อยน่อยลง 3. มีเวลาใช้ชีวิตมากขึ้น อันนี้ที่เราคืด จนร้านเราก็ต้องปิดตัวเอง ตามสถานการ์ เศรษกิจ ซึงเราก็เหลือ ทางเดียวแล้วตอนนี้ แต่ซึงเงินที่ได้ มันอยู่สบายๆ อยู่แล่วกับเรา 2 คน แต่ พอมา ณ จุดๆ หนึ่งมเหตุการณืที่เราไม่คิดเลยมันก็มาจากปากแฟนเรา เวลาทะเลาะกันทุกครั้งคือ ไอตัวภาระ ทำไมไม่ไปหางานทำ เบื่อขี้หน้าวะ ซึงเราบอกก่อนมเราอายุ 33 แฟน 24 เรารู้นะเค่าพูด เพราะ เค้าโกด เพราะตอนดีกัน ก็คุยกันเรื่องอนาคตตลอด จะเป็นกันเฉพาะตอนอารมณืเค่าไม่ดี ซึงเค้ารู่ตัวนะว่าที่พูดมา ไม่ผิด แต่มีนอดไม่ได่ ซึงถ่าถามว่า เราไปทำงานได้ไหมได่ แต่งานหลักที่แฟน เค้าทำ มันทำคนเดียวไม่ได้ไง ผมก็ต้องนั่งเฝ้าอควมคุมอยู่ดี แล้วผมก็ต้องนอน 2-3 ชมแล้วตื่นไปทำงาน ถามว่าได้ไม่ได้คับ แต่ ผมเคยมีประวัติแบบนี่มาแล้ว ทำแต่งานจนไม่สนใจแฟน แล้วก็ต้องเลิกลากันด้วยเรื่องนี่ ดังนั้น ผมคิดแล้ว ว่า แบบนี้แป็นตอนนี้ มันดีที่สุดแล้ว แต่ติดแค่เรื่องเดียว เรื่องอารมณ์เค้า จะทำให้เค้า คิดได้แล้วลดเรื่องพวกนี่ลงยังไง หรือจริงๆแล้ว สิ่งที่ผมคิด มันผิดมาตลอด แต่สิ่งที่ผมคิด ที่ผ่านมา มันก็ทำให้เรา 2 คนมีรถ บ้านตัวเอง สร้างบ้านให่แม่เค้าได้นะ เอาจริงๆ การด่าทุกครั้งมันก็ทำให้ผมนอยๆ มาตลอด แต่ไม่รู่เหมือนกัน จะทำให้ เค้าคิดได้เร็วแค่ไหนว่า สิ่งที่เราทำอยู่ เป็นอยู่ มันดีมากๆแล้ว ขอคำแนะนำหน่อยคับ สงสัยตรงไหนถามได่เลยคับ
ปล งานที่แฟนทำ มันคืออาชีพ vj dj คับ