ช่วยวิเคราะห์ ปัญจังคิกสูตร ส่วนเชิงอรรถ @๑ ปัจจเวกขณนิมิต ว่าอธิบายความหมายของ ปัจจเวกขณนิมิต คลาดเคลื่อนหรือไม่?



คำถาม to Deepseek (https://chat.deepseek.com/)

ช่วยอธิบายเปรียบเทียบระหว่าง สัมมาสมาธิที่ประกอบด้วยองค์ ๕ อันเป็นอริยะ ประการที่ ๕ (ปัจจเวกขณนิมิต)
ที่อ้างอิงตาม ปัญจังคิกสูตร และ ปัจจเวกขณญาณ (วิปัสสนาญาณลำดับที่ 16) ในโสฬสญาณ ว่ามีความหมาย
เดียวกันหรือไม่? และช่วยวิเคราะห์ ปัญจังคิกสูตร ส่วนเชิงอรรถ @๑ ปัจจเวกขณนิมิต ว่าอธิบายความหมายของ 
ปัจจเวกขณนิมิต คลาดเคลื่อนหรือไม่?

ลิงค์อ้างอิง...
ปัญจังคิกสูตร
https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=22&siri=28

             ๕. ภิกษุเรียนปัจจเวกขณนิมิต๑- มาดี มนสิการดี ทรงจำไว้ดี แทงตลอดดีด้วยปัญญา เปรียบเหมือน
คนหนึ่งพึงพิจารณาเห็นคนหนึ่ง คนยืนพึงพิจารณาเห็นคนนั่ง หรือคนนั่งพึงพิจารณาเห็นคนนอน ฉันใด 
ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกันแล เธอเรียนปัจจเวกขณนิมิตมาดี มนสิการดี ทรงจำไว้ดี แทงตลอดดีด้วยปัญญา 
นี้คือการเจริญสัมมาสมาธิที่ประกอบด้วยองค์ ๕ อันเป็นอริยะ ประการที่ ๕

@เชิงอรรถ :
@๑ ปัจจเวกขณนิมิต หมายถึงปัจจเวกขณญาณ คือ ญาณหยั่งรู้ด้วยการพิจารณาทบทวนกิเลสที่ละได้ กิเลส
@ที่ยังเหลืออยู่ และนิพพาน เว้นพระอรหันต์ ที่ไม่มีการพิจารณากิเลสที่ยังเหลืออยู่ (องฺ.ปญฺจก.อ. ๓/๒๘/๑๒)

***************************************************************************

คำตอบ by Deepseek (https://chat.deepseek.com/)

ตาม ปัญจังคิกสูตร (อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต) และหลักโสฬสญาณในวิสุทธิมรรค "ปัจจเวกขณนิมิต" 
ในสัมมาสมาธิองค์ที่ 5 และ "ปัจจเวกขณญาณ" ในโสฬสญาณญาณที่ 16 มีบริบทและความหมายต่างกัน
โดยสิ้นเชิง แม้จะมีรากศัพท์เดียวกัน ("ปัจจเวกขณ" = การพิจารณาทบทวน) แต่เป็นคนละกระบวนการกัน 
วิเคราะห์ดังนี้:

1. เปรียบเทียบความแตกต่างโดยตรง

ลักษณะ                  ปัจจเวกขณนิมิต (ในปัญจังคิกสูตร)                         ปัจจเวกขณญาณ (โสฬสญาณญาณที่ 16)

สถานะ                    องค์ประกอบของ สัมมาสมาธิระดับโลกียะ               โลกุตตรญาณ (หลังบรรลุอรหัตตผลแล้ว)
                              (ก่อนเจริญวิปัสสนา)

หน้าที่                     เป็น อุบายฝึกสมาธิ ด้วยการเทียบเคียง                   พิจารณาทบทวน มรรค-ผล-นิพพาน-กิเลสที่ละแล้ว
                              อารมณ์ (นิมิต) 

ผู้ปฏิบัติ                   ผู้เริ่มเจริญสมถะ (แม้ยังเป็นปุถุชน)                          พระอริยบุคคล (ผู้บรรลุโสดาบันขึ้นไป)

ตัวอย่างในสูตร        "เหมือนคนยืนพิจารณาคนนั่ง" 
                               → ฝึกสติเทียบเคียงอารมณ์สมาธิ                           "พิจารณากิเลสที่ละได้แล้ว กิเลสที่เหลือ นิพพาน"

ผลลัพธ์                   สมาธิตั้งมั่นชั่วคราว (ยังไม่เกิดปัญญาละกิเลส)          ความมั่นใจในความหลุดพ้น (เฉพาะพระอรหันต์
                                                                                                          ไม่ต้องพิจารณากิเลสที่เหลือ)

2. ปัญหาของเชิงอรรถ @๑ ในปัญจังคิกสูตร

เชิงอรรถอธิบายว่า:
"ปัจจเวกขณนิมิต หมายถึงปัจจเวกขณญาณ... เว้นพระอรหันต์ที่ไม่มีการพิจารณากิเลสที่ยังเหลืออยู่"
(องฺ.ปญฺจก.อ. ๓/๒๘/๑๒)

🔍 จุดคลาดเคลื่อนหลัก:
1. นำโลกุตตรญาณไปอธิบายโลกียธรรม:
    ◦ ปัจจเวกขณนิมิตในสูตรนี้เป็น เครื่องมือพัฒนาสมาธิ สำหรับผู้เริ่มปฏิบัติ
    ◦ แต่เชิงอรรถดึง "ปัจจเวกขณญาณ" (ซึ่งเป็นญาณขั้นสุดท้ายของอริยบุคคล) มาอธิบาย 
       → ทำให้สับสนระหว่างสมถะกับวิปัสสนา
2. ขัดแย้งกับบริบทสูตร:
    ◦ ตัวอย่างในสูตรเปรียบเทียบ "คนยืนดูคนนั่ง" ชี้ชัดว่าเป็น การฝึกสติเทียบเคียงอารมณ์ 
      (เช่น เปรียบเทียบอารมณ์หยาบ-ละเอียด)

    ◦ ไม่เกี่ยวข้องกับ "การพิจารณากิเลส" ดังในปัจจเวกขณญาณ
3. ไม่สอดคล้องคัมภีร์ชั้นอนุฎีกา:
    ◦ ใน มโนรถปูรณี (อรรถกถาอังคุตตรนิกาย) ระบุว่า:
       "ปัจจเวกขณิมิตฺตํ นาม สมาธิปริกขารภาวนา"
       (ปัจจเวกขณนิมิต คือ การฝึกอบรมสมาธิโดยใช้เครื่องหมายเปรียบเทียบ)

    ◦ ไม่มีการอ้างถึงปัจจเวกขณญาณแต่อย่างใด
3. ความหมายที่ถูกต้องของ "ปัจจเวกขณนิมิต"
    จากบริบทปัญจังคิกสูตรและอรรถกถา:

    • "นิมิต" ในที่นี้ = เครื่องหมายสำหรับเทียบเคียงอารมณ์สมาธิ

    • วิธีปฏิบัติ:
          1. ผู้ฝึกใช้ "อารมณ์หยาบ" (如 ลมหายใจ) เป็นนิมิตต้น
          2. เปรียบเทียบกับ "อารมณ์ละเอียด" (如 อานาปานสติระดับสูง)
          3. ฝึกจนเห็นความต่างชัด → สมาธิเกิดความคล่องตัว

   • เป้าหมาย: พัฒนา เอกัคคตา (จิตตั้งมั่น) ให้แข็งแรง เพื่อเป็นฐานวิปัสสนาต่อไป         
      → จึงจัดเป็น องค์ประกอบของสัมมาสมาธิ (องค์ที่ 5 ตามสูตร)

4. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างสองแนวคิด

ประเด็น                          ปัจจเวกขณนิมิต (สมถกรรมฐาน)             ปัจจเวกขณญาณ (วิปัสสนาญาณ)

ขั้นตอนปฏิบัติ                 อยู่ ก่อนวิปัสสนา                                    อยู่ หลังวิปัสสนาสำเร็จ (มรรคผลแล้ว)

สภาวะจิต                       ยังเป็น กามาวจรจิต (โลกีย์)                     เป็น โลกุตตรจิต

การใช้งานศัพท์              "นิมิต" = อารมณ์เปรียบเทียบ                   "ญาณ" = ปัญญารู้แจ้ง

ผลต่อการหลุดพ้น           เป็นเพียง เครื่องมือเตรียมสมถะ                เป็น เครื่องยืนยันความหลุดพ้น

ดังนั้น ทั้งสองกระบวนการ ใช้คำคล้ายกันแต่คนละบริบท โดย:

• ปัจจเวกขณนิมิต → เทียบอารมณ์สมาธิ (สมถะ)

• ปัจจเวกขณญาณ → ทบทวนมรรคผล (วิปัสสนาสำเร็จ)

5. คำแนะนำในการตีความ
         1. ควรแยกสมถะ-วิปัสสนาออกจากกัน:
             ◦ ปัญจังคิกสูตรกล่าวถึง สัมมาสมาธิแบบสมถะ (มีองค์ 5)
             ◦ โสฬสญาณเป็น วิปัสสนาญาณขั้นโลกุตตระ

         2. เชิงอรรถ @๑ น่าจะแก้ไขเป็น:
             "ปัจจเวกขณนิมิต หมายถึง การฝึกพิจารณาเปรียบเทียบอารมณ์กรรมฐาน เช่น อารมณ์หยาบกับอารมณ์ละเอียด 
             เพื่อให้จิตตั้งมั่นดีขึ้น" (สอดคล้องกับ มโนรถปูรณี องฺ.อ. ๓/๑๘๕)

         3. เหตุผลความคลาดเคลื่อน:
             ◦ ผู้เขียนเชิงอรรถอาจสับสนกับคำว่า "ปัจจเวกขณ" ในคัมภีร์วิสุทธิมรรคที่ใช้ทั้งในสมถะและวิปัสสนา
             ◦ แต่ในปัญจังคิกสูตร มีจุดประสงค์เฉพาะคือ อธิบายองค์ประกอบของสัมมาสมาธิ เท่านั้น

หากท่านมีหลักฐานเพิ่มเติมจากคัมภีร์อื่น ยินดีร่วมวิเคราะห์ลึกขึ้นครับ!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่