ความไม่สบายใจในการทำงาน มีวิธีจัดการอย่างไร

อย่างผมเป็นครูเอกชน ปัญหาที่เจอมีดังนี้

1.เอาปัญหากับตัวนักเรียนก่อน ไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงอะไร แทบจะเบาที่สุดแล้ว คือ การควบคุมห้องแทบจะไม่ได้ คือคนตั้งใจก็ตั้งใจละ แต่ส่วนน้อย เฉลี่ยของแต่ละห้องอยู่ประมาณ 30-35 คนไม่เกินนั้น รร.มีตั้งแต่ปฐมวัยจนถึง ม.3 คือเฉลี่ยใน 35 คนนั้น คนตั้งใจของแต่ละห้องมีประมาณ 5-10 คน อย่างมากก็ 15 คนไม่เกินนั้น ผมสอนวิชาพละ จะมีสนามให้พวกเขาลงมาเรียน ผมเคยตั้งอุปกรณ์ไว้เพื่อจะฝึก แต่พอเด็กเดินเข้ามาเรียนบางคน ไปเตะอุปกรณ์ที่ผมตั้งจนเสียหาย จนชำรุด ผมก็เรียกมาเตือนมาว่าแล้ว (แต่ต้องเข้าใจว่าเด็กเอกชน ครูจะว่าอะไรมากไม่ได้) ครั้งต่อไปเขาก็ทำอีก ซึ่งเป็นเด็กชั้นเดิม คนเดิม (ป.5) แต่ก็มีอีก 4-5 คนที่เป็นพวกตัวกวนประจำชั้นประจำแต่ละระดับ ก็มาทำลายอุปกรณ์เหมือนกัน ผมก็ว่าไปเหมือนกัน แต่ก็เหมือนเดิม มาทุกอาทิตย์ ก็เตะของที่ตั้งตลอด กับนักเรียนหญิงส่วนน้อยที่จะดื้อ แทบไม่มีปัญหาอะไร นักเรียนชายบางคนก็ตั้งใจ แต่น้อยมาก
และรู้ไหมว่าเวลาบอกเวลาสอนเขาโต้กลับมาว่าอะไรรู้ไหมครับ"ไหนครูบอกว่าพวกผมมีสิทธิ์ถามอะไรก็ได้ไง หรือจะทำอะไรก็ได้ไง มันสิทธิของพวกผมไม่ใช่หรือ" เอิ่มคือฟังแล้วแบบ อีหยังว่ะ คือมีสิทธิ์ถามมีสิทธิ์สงสัยไม่ได้ว่าอะไรเลย คือตอนเราเรียนเราก็ไม่ชอบหรอกใช่ไหมที่เวลาครูถามว่าสงสัยให้ถาม แต่พอถามแล้วโดนครูด่าว่าไม่ตั้งใจฟัง แล้วที่นี่ใครจะกล้าถาม แต่ผมหรือครูเดี๋ยวนี้ผมว่าไม่ได้เป็นแบบนั้น ผมให้ถามได้ แต่ดูแต่ละคำถาม ให้ถามเรื่องที่เรียน เช่นวันนี้ฝึกส่งลูกบอล มีนักเรียนมาถามว่า "ผมส่งแบบแรง ๆ เตะอัดหน้าเพื่อนได้ไหมครับ เพราะมันกวนบาทาผม" โอ้นี้คำถามหรืออยากจะทำ แล้วครูเอกชนก็มีเวรจราจรเช้าจราจรเวรเย็น คือต้องดูเด็กข้ามถนน มีคนหนึ่งเดินมาบอก "เดี๋ยวหนูจะเดินไปให้รถชน จะได้บอกว่าครูผิด" เราก็แบบเห้ย มันคิดได้แบบนี้กันเหรอว่ะเนี้ย มันเห็นเราใจดีเลยกล้าพูด อะไรเลยเถิดหรือเปล่า หรือเป็นเฉพาะกับเรา หรือเปล่า แต่พอเดินผ่านอาคารต่าง ๆ ก็พอรู้ได้ว่าเด็กพวกนี้จะไม่เคารพหรือกล้าพูดแบบนี้กับครูที่ไม่ค่อยดุ (ซึ่งเอาจริงผมกล้าดุ ดุแบบชนิดที่ว่าน่ากลัวได้) แต่ว่าด้วยความเป็นครูเอกชน มันทำแบบนี้ลำบาก


2.ปัญหากับคุณครูด้วยกัน ปัญหากับผู้บริหารระดับสูง ข้อนี้จะสอดคล้องกันมาก เพราะเคยเข้าประชุมหลาย ๆ ครั้ง หลัง ๆ มานี้จะมีโปรเจคที่ว่า ให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง ถ้าระดับมัธยมศึกษาก็พอว่าไปอย่าง ประถมปลายก็พอไหว แต่กับประถมต้นนี้แบบ ให้พูดตรง ๆ เละครับผม เหมือนครูคุยคนเดียวอ่ะ อย่างผมสอนวิชานันทนาการเล่นกีฬาว่าง่ายสุดละนะ ให้ออกแบบฐานเล่นเอง บางห้องโดยเฉพาะห้องท้าย ๆ นี้ยืนนิ่ง มองหน้ากันกับผมไม่พูดอะไร ไม่ทำอะไรด้วย ผมเลยคิดว่าแล้วพวกครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์จะสอนยังไงน้อ แล้วปัญหาก็ซ้ำซ้อนอีก คือประชุมอีกแบบหนึ่งคือต้องสอนตามตัวชี้วัด อัดมันเข้าไป เวลาท่านนัเดินผ่านเห็นผมสอน แบบสอนแปบอล คือเด็กเล็กบางคนเขายังไม่รู้หรอกแปบอลคืออะไรทำยังไง ผมก็ต้องทำให้ดู เขาเดินเข้ามาบอกว่าให้เด็กคิดเองสิ วันต่อมาผมเลยลองให้บอลคนละลูกกับเด็ก ๆ ลองไปเล่นเอง อีกท่านหนึ่งเข้ามาบอกว่า ไม่วางแผนอะไรเลย ทำงานง่ายนะ มาถึงให้เด็ก ๆ เล่นเลย
วันนั้นหลังจากเลิกงาน ผมเลยไปนั่งร้านอาหารคนเดียว สั่งข้าวสั่งน้ำมากินแล้วก็คิดในใจว่า ตกลงผมต้องทำแบบไหนกันแน่ ภาพในหัวมันเข้ามานึกถึงตอนโดนเรียกเข้าไปห้องประชุม แล้วก็บอกว่า สอนนะมีแบบแผนหน่อย แต่คนบอกคนละคนกับคนที่บอกให้เล่นตามใจนะครับ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะต่างคนต่างความคิด ซึ่งก็รับฟัง แต่ความเป็นครูน้อย เราคงอธิบายได้ยาก อธิบายไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ซึ่งคนบอกให้เด็กคิดเองในการเรียนรู้ กับคนที่บอกให้สอนตามหลักการก่อน ขั้นก็แทบเท่า ๆ กัน  บางคนบอกให้เด็กได้เล่น ได้ลอง ซึ่งก็เห็นด้วย แต่ว่าเล่นนะเล่นแบบไหน ไม่รู้กาลเทศะต่อยกันแบบนี้ มันจะเรียนได้ไง เกรดก็ต้องมากกว่า 3 น้อยกว่านั้นโดนทั้งครูทั้งผู้ปกครองถามแน่ (ซึ่งบางคนมันไม่น่าได้จริง ๆ แต่ก็ต้องให้เพราะไม่อยากมีปัญหา)


3.แล้วอีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องการกระทบกระทั่งกับผู้ทำงานร่วมกัน เช่น เวรจราจร อย่างผมเป็นคนไม่เถียงคนเท่าไหร่ พอรถติดผมจะโดนว่าว่าทำไมทำให้รถติด โบกรถให้รีบออกไปสิ ถ้านักเรียนไม่มาก็ให้วน คือผู้ปกครองบางคนเขาเข้าใจก็วนให้ แต่กับคนไม่เข้าใจก็ว่าผมซึ่งไม่ได้ว่าผมหรอก อาจบ่น ๆ ว่าทำไม่ปล่อยเด็กช้า แต่คนรับฟังคือผมไง แล้วพอวันต่อมาผมสอนพิเศษ จะสลับกันกับเพื่อนร่วมงาน เช่นวันนี้ใครสอนพิเศษอีกคนก็ไปจราจร แต่ด้วยที่ว่าอีกคนเป็นคนที่นับหน้าถือตาในโรงเรียนหน่อย ก็มีช่วงทำให้รถติดเหมือนกัน แต่คนที่เขาว่าผม เขาไม่ได้ว่าคนนี้ เขาบอกดี ๆ ว่า ช่วยบอกรถหน่อยครับว่าให้ขยับ แต่ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปบอกเอง ซึ่งผมก็เห็นเหตุการณ์ ผมก็งงว่าทำไมตอนผมไม่บอกดี ๆ แต่นอกจากเรื่องนี้แกก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ สอนงานได้ ทำงานดี แต่ผมรู้สึกแปลก  ๆตรงที่ครูน้อยหรือครูที่ไม่กล้าเถียงอะไร แกจะพูดด่าเลยถ้าทำไม่ได้ดี แต่กับครูที่มีหน้ามีตาหน่อยหรือคนที่ไม่ค่อยรู้จักหรือไม่ค่อยได้เจอกัน แกจะบอกเหมือนกัน แต่บอกดี ๆ ซึ่งผมก็สงสัยว่าการทำงานมันต้องจัดหน้าจัดตากับบุคคลที่เจอแต่ละระดับเหรอ ผมนึกว่าต้องมองทุกคนเท่ากันซะอีก แต่ผมไม่ได้จะมองให้ใครเป็นผู้ร้ายนะครับ เพราะโลกการทำงานก็เป็นแบบนี้ นอกเหนือจากนี้ก็ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน

4.ข้อพิเศษ คือเวลาส่งเด็กแข่ง ผมว่าเด็กไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเพราะอคติ แต่คือเขาไม่สู้ ถ้าไม่กระตุ้นก็เฉื่อยชา ไม่กระตือรือร้น มีครั้งหนึ่งเจอทีมโรงเรียนรัฐบาล เด็กเสียบอลไม่ไล่ไม่ตาม โค้ชฝ่ายนั้นตะโกนว่านักเรียนว่า "มึ_เล่นได้แค่นี้ กลับบ้านไปไป ออกไปจากทีมนี้ซะ มีปัญญาเล่นได้เท่านี้เหรอเอาจริง ๆ เห้ย ตั้งใจหน่อยดิ สตินะสติ ซึ่งผมฟังนี้มันไม่ใช่คำร้ายแรงอะไรเลยนะ แต่ผมพูดแบบนั้นไม่ได้

นี่คือปัญหาของงานครูเอกชนที่ผมได้เจอ คือครูเอกชนในมุมมองผม ครูน้อยคือคนที่รับความกดดันทุกอย่าง บางทีเด็กผิด แต่ผู้ปกครองมาโวยวาย ซึ่งไม่ใช่ทุกคนเข้าใจได้ แต่สุดท้ายครูต้องขอโทษ และครูน้อยโอกาสจะอธิบายต่อผู้บริหารผมมองว่ายากและทำไม่น่าได้ มันน่าเหนื่อยใจ ซึ่งผมกลับบ้านทำหน้าตาเหนื่อยล้าทุกวัน จนแม่ถามว่าเป็นอะไร ผมเลยบอกตรง ๆ ว่าผมไม่อยากเป็นครูเอกชนแล้ว แม่บอกว่างั้นตั้งใจอ่านหนังสือ แล้วสอบติดครูผู้ช่วย จะได้สบาย แต่ผมก็เคยอ่านตามเว็บต่าง ๆ ว่าครูรัฐบาลก็ไม่ได้สบาย ครูรัฐบาลก็มีปัญหาเช่นกัน แม่บอกงั้นอยากจะทำอะไร ผมเลยบอกว่าอยากเป็นนักเขียนนิยาย อยากสร้างนิยายสร้างหนังสักเรื่องหนึ่งด้วยการเขียนบท แม่บอกมันหางานอยากและไม่มั่นคง และแม่บอกว่า งานครูมันหนักมากจริง ๆ แต่ถ้าให้เทียบกับงานอื่น ถือว่าเบาที่สุดแล้ว ซึ่งผมก็เข้าใจ ผมอาจไม่เข้าใจโลกก็ได้ ว่ามันมีอะไรยากกว่านี้ แต่ที่ทำอยู่ก็ลำบากใจเช่นกัน เลยอยากจะถามต่ออีกว่า

1.ใครที่เคยเป็นครูเอกชน และยังทำงานต่อ เพราะอะไร ทำไมยังทำต่อ และมีวิธีจัดการปัญหาอย่างไรทั้งเรื่องนักเรียนและครูด้วยกัน

2.ใครที่ทำงานครูรัฐบาล มีปัญหาอะไรบ้างไหมครับ และแก้ไขอย่างไร ไม่ว่าจะเรื่องเด็กนักเรียน หรือครูด้วยกัน

3.งานราชการอื่น ๆ ปัญหามีแบบใดบ้าง และแก้อย่างไร

4.ในมุมของคนไม่ได้ทำงานรับราชการ หรือคนที่ลาออกจากราชการ มีความเห็นอย่างไรถ้าผมจะลาออก งานค้าขาย งานอาชีพอื่น ๆ เป็นอย่างไร มีปัญหาอย่างไรบ้างครับผม อย่างหนังสงครามส่งด่วน หรือหนังแนวธุรกิจ ก็มีการใส่ร้ายป้ายสีกัน เล่นกันสกปรก หาวิธีสกปรกมาให้อีกฝ่าย ซึ่งผมก็คิดว่ามนุษย์เรามันทำกันขนาดนี้เลยเหรอ พอจะมีใครเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างครับ แก้ไขปัญหาอย่างไร

5.อันนี้ถือว่าส่วนตัวสุด ๆ จะตอบก็ได้ไม่ตอบก็ได้ครับ อยากให้ทุกคนลองบอกเหตุการณ์เหตุการณ์หนึ่งที่ตัวเองประสบพบเจอมาในที่ทำงาน ว่าเราไม่ได้ผิด แต่ทำไมเราโดนว่าแบบนั้น เจอแบบนั้นได้อย่างไร แล้วแก้ปัญหาอย่างไรครับผม

คือสมัยเด็ก ๆ ผมมองคนโต ๆ ที่ทำงาน แล้วเห็นความเครียดความล้าของแต่ละคน ผมไม่เคยเข้าใจ แต่พอมาทำงานเองก็ได้เข้าใจ บางทีมันอาจเป็นปัญหาเล็กน้อยจริง ๆ ก็ได้ แต่มันก็ทำให้ล้าได้เหมือนกัน

ขอบคุณที่มาแสดงความคิดเห็นครับ จะลองอ่านแล้วทำความเข้าใจดูครับผม ขอบคุณมากจริง ๆ

อ๋อ ผมสอนเอกชนมา 7 ปีแล้วครับ ผมว่าไม่มากไม่น้อยเท่าไหร่กับประสบการณ์สอน เงินเดือนอยู่ที่ 9000-9500 ตลอดมาครับผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่