ซิ่นต๋ามะนาวที่กำลังถูกลืม



"ซิ่นต๋ามะนาว"
ซิ่นต๋ามะนาว มีลักษณะเป็นผ้าซิ่นที่ต่อเอว (หัว) และตีนด้วยสีดำ ตัวซิ่นเป็นสีเหลือง มีก่านดำเป็นริ้วเล็ก สีเหลืองของซิ่นต๋ามะนาว ได้แก่ สีเหลืองเอื้องผึ้ง สีเหลืองหมากสุก สีเหลืองมะนาว แล้วแค่ว่าใครจะชอบสีอะไร

ซิ่นต๋ามะนาวที่ลือชื่อและทอกันมาอย่างยาวนาน คือ ผ้าทอบ้านกาด อันเป็นเอกลักษณ์ทางด้านหัตถกรรมที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมการแต่งกายของคนสูงเม่น และคนเมืองแพร่

สาเหตุใดซิ่นต๋ามะนาวจึงเป็นสีเหลือง ความเชื่อระหว่างคนกับดงอาทิตย์ และสีกับความเชื่อ นำมาให้เกิดความรุ่งเรือง สีเหลืองในทัศคติของคนในท้องถิ่นคือสีแห่งความรุ่งเรือง ความสว่างสดใส

#ซิ่นต๋ามะนาวกับสังคม นับได้ว่า "ซิ่นต๋า" ทั่วไป อันได้แก่ ซิ่นต๋าไก ซิ่นต๋าหมู่ ซิ่นต๋าเหล้ม ซิ่นต๋าขีด ซิ่นซิ่ว ซิ่นต๋าเจียงใหม่ เป็นผ้านุ่งพื้นฐานและใช้ในชีวิตประจำวันของสตรีของสูงเม่นและชาวแพร่ ที่นิยมใช้กัน ทั้งนุ่งอยู่บ้าน นุ่งออกงาน นุ่งทำบุญ ก็นุ่งซิ่นต๋า ทั้งสิ้น ตั้งแต่ชาวบ้านจนถึงเจ้านายพื้นเมือง นับได้ว่าซิ่นต๋าเป็นซิ่นที่มีทุกหลังคาเรือน

#ซิ่นต๋ามะนาวเอกลักษณ์เมืองแพร่ เมื่อพูดถึงซิ่นต๋ามะนาวแล้ว ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึงเมืองแพร่ ที่จะต้องนุ่งซิ่นต๋ามะนาวกับเสื้อคอกุยเฮง ทั้งผ้าหม้อฮ่อม ผ้าดิบ แขน สามส่วน จากรูปภาพถ่ายที่ติดฝาผนังของผู้เฒ่าผู้แก่ ในเมืองแพร่ ก็ต้องเห็นการนุ่งซิ่นต๋ามะนาวทั้งนั้น แล้วซิ่นแหล้ล่ะ หลายคำถามที่เอ่ยขึ้นมา ซิ่นแหล้หรือซิ่นก่านคอควายนั้น เป็นวัฒนธรรมชาวไทยพวน สีของซิ่นแหล้แท้ ๆ เป็นสีน้ำเงินปนดำ จึงเรียกว่า แหล้ นั้นคือ สีผิดแผลกออกไป ซิ่นแหล้นั้นถือว่าเป็นการนำภูมิความรู้ระหว่างชาวไทพวน กับ ไทยวนมาแลกกัน ดังนั้นแล้ว หากใครได้ดูภาพเก่า ๆ ของเมืองแพร่แล้ว เกือบทั้งหมดสตรีจะนุ่งซิ่นต๋ามะนาว และซิ่นต๋ามะนาวของแพร่จะมีเอกลักษณ์ในการใช้สีดำคั่น ที่สวยงามและลงตัว

#ซิ่นต๋ามะนาวกับสังคมเมืองแพร่ปัจจุบัน ซิ่นต๋ามะนาวนั้นถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของชาวจังหวัดแพร่มาตั้งแต่อดีต ยุคหนึ่งที่ทำให้ซิ่นต๋ามะนาวหายไปจากสังคมคือ ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 สมัยความเจริญก้าวหน้าเข้าสู่เมืองแพร่ จากที่เคยทอผ้าใฃ้ในครัวเรือน ก็หันมาซื้อผ้าใต้ ผ้าแขก ผ้าฮิมเขียว ผ้าปั้มลาย ผ้าสมัย นำมาใฃ้ ผ้าทอถือเป็นสิ่งล้าสมัย ในยุคนั้น สตรีก็จะนุ่งซิ่นดำ ที่ผลิตมาจากมาเลเซีย ชายก็จะนุ่งเสื้อเชิ๊ต เสื้อสมัยทั้งสิ้น การทอผ้าก็เริ่มยุติลงตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา แต่ก็มีผู้สืบทอด เท่าที่หลงเหลืออยู่จำนวนน้อย ปัจจุบันซิ่นต๋ามะนาวหาดูได้ยากมาก เพราะถูกตีตลาดจากผ้าโรงงาน ผ้าซิ่นสโหร่ง ซิ่นต๋ากี่กระตุก ที่ใช้วัสดุเป็นไหมประดิษฐ์ โทเร จากอดีตซิ่นต๋าทอด้วยกี่มือ ต่อ 3 ส่วน ใช้ฝ้ายแท้ในการทอหาดูได้ยากในยุคนี้ นอกจากของเก่าของคุณย่าคุณยายที่เก็บไว้ในตู้

"ซิ่นต๋ามะนาวที่กำลังถูกลืม"
ข้อมูล : นครินทร์ วรประดิษฐ์กุล


























เครือข่ายวัฒนธรรมอำเภอสอง
สำนักงานวัฒนธรรมอำเภอสอง สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแพร่
ที่ว่าการอำเภอสอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่