ทุกคนมีเพื่อนสนิทที่เลิกคบทั่งที่คบกันมานานบ้างไหม? แล้วเลิกคบกันเพราะอะไร?
เรามีเพื่อนคนนึงที่คบกันตั้งแต่สมัยเรียน จนทุกวันนี้ก็รวม 20 ปีได้แล้ว
เรียกได้ว่าโตมาด้วยกัน ผ่านเรื่องราวมากมาย รู้ background ครอบครัว รู้อดีตของกันหมด เป็น safe zone ทุกเรื่อง
จุดเริ่มต้นของการแตกหักเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน
เมื่อเพื่อนตกงานกระทันหัน มีปัญหาการเงิน และเลิกกับสามี
ณ วันนั้นที่ต้องย้ายออกจากบ้านสามีแล้วเพื่อนไม่มีที่ไปต่อเราไม่คิดอะไรเลย
เราบอกเพื่อนว่ามาอยู่บ้านเราก่อนได้ เรามีห้องเหลืออยู่จนกว่าจะตั้งหลักใหม่ได้
อาจเป็นจังหวะพอดีที่เราก็เลิกกับแฟนก่าแล้วเขาย้ายออก
ช่วงแรกทุกอย่างดีมาก สนุกมากฟีลเพื่อนสาวอยู่ด้วยกัน
ผ่านไปราวๆ 1 เดือนเรื่องมันก็ค่อยๆ เริ่มจากวันหนึ่งที่เรากลับบ้านมาเห็นพื้นหน้าบ้านเปียกผิดปกติ
พอเดินไปดูเลยเห็นว่าเพื่อนนั่งอยู่ข้างบ่อปลาที่ไม่มีน้ำเหลืออยู่ด้านในเลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น?
คำตอบที่ได้คือเพื่อนจะเปลี่ยนน้ำเพราะบ่อมันสกปรกแต่ปลาน๊อคน้ำตายหมดบ่อเลย เราช๊อคมาก ปลาเราเลี้ยงมาตั้งแต่สร้างบ้าน
ออกลูกเต็มบ่อบัวตายหมดไม่เหลือสักตัว เพื่อนได้พูดว่าขอโทษนะแต่ปลาอ่อนแอมากเลย
ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ปกติเคยทำงี้ที่บ้านสไม่ก็เห็นไม่ตาย เราเดาว่าบ้านสามีเก่าเขาอยู่ ตจว ไง คลอรีนมันไม่แรงเท่า กทม หรือเปล่า
หรือถังพักน้ำบ้านเขาใหญ่หรือเปล่า คลอรีนมันละเหยหมดแล้วตอนเอามาใช้
ไม่นาน เราเริ่มสังเกตว่าต้นไม้ในบ้านมันดูน้อยลง พอรู้สึกตัวอีกที พวกไม้ในร่มก็พากันตายหมดแทบบทั้งหมด
ถามไปถามมา เพื่อนบอกว่าเอาต้นไมตากแดดดากแดดเวลาเราออกไปทำงานทีละต้นสองต้นเห็นมันไม่โดนแดดกัน
เราเริ่มคุยกับเพื่อนว่าไม่ต้องพยายามช่วยตรงนี้ ให้รีบตั้งใจหางานพอเพราะคิดว่าพอเพื่อนหางานได้แล้วคงย้ายออก
หนึ่งเดือนให้หลังเพื่อนได้งานที่บริษัทแห่งหนึ่งใน กทม และเริ่มออกไปทำงานในวันธรรมดา
ปกติเราจะเป็นคนทำความสะอาดบ้านและทำกับข้าวอยู่แล้ว(เพื่อนทำไม่เป็น) และเราทำเป็นปกติประจำ
แต่ในช่วงเดียวกันนั้นเรากำลังจะปิดโปรเจคใหญ่เลยทำให้วุ่นวายกับงานมาก บางวันกลับดึก พอถึงบ้านก็เหนื่อยมากแล้วอาบน้ำนอนเลย
เป็นอย่างงี้อยู่สองสัปดาห์ อยู่ๆ เพื่อนก็พูดขึ้นมาว่า “เดี๋ยวนี้ไม่ทำกับข้าวเลยนะ กูต้องออกไปหาอะไรกินเองทุกวันแถมน้ำแข็งในตู้เย็นก็หมดอีก“
ความอดทนเราขาดึงงจากงานที่เครียดเลยตอบกลับไปว่า ” แล้วเป็นอะไรต้องรอกูทำให้ กูเป็นคนใช้หรอ”
หลังจากนั้นบรรยากาศในบ้านก็เปลี่ยนไป เพื่อนเราหาทางออกโดยการออกไปเที่ยวกับที่ทำงานเพื่อไม่ต้องรีบกลับบ้านมาเจอเรา
เหมือนที่แค่อยู่บ้านเดียวกันแต่ไม่คุยกันเลย
เป็นอย่างงี้อยู่สักพัก เราก็เริ่มมีคนคุยและคบกันเป็นแฟนออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกันแล้วทิ้งเพื่อนไว้ที่บ้าน
สิ่งที่ได้คือคืนนั้นเพื่อนส่งข้อความมายาวมาก ใจความคือการโดนทิ้งให้อยู่คนเดียว การที่เราเห็นผู้ชายสำคัญกว่า
รู้สึกถูกแย่งความทำไมทำไมไม่พามันมาด้วย คบกับมันมาก่อนรู้จักกันมาก่อนแต่ทำไมให้ความสำคัญกับผู้ชาย
เราอ่านแล้วงงเลย มันเป็นอะไร อย่างแรกเลยคือกูไปเที่ยวกับแฟนทำไมต้องหิ้วไปด้วย แล้วทำไมต้องส่งข้อความมาตัดพ้อ
เราอ่านไม่ตอบแค่หลังจากกลับถึงบ้านเพื่อนทำตัวปกติมากทุกอย่างแล้วบอกว่าตอนนี้กำลังคบกับดีเจร้านเหล้าที่ไปกับที่ทำงานบ่อยๆ อยู่
เวลาผ่านไป 1 ปี เราตรวจเจอว่าท้องจังหวะเดียวกับที่แฟนไป ตปท
เราเลยบอกเพื่อนว่าเราน่าจะท้อง เลิกงาน พาไป รพ หน่อยได้ไหม, เพื่อนตอบมาว่าไม่ได้เพราะเลิกงาน “ต้องไปเฝ้าแฟนที่ร้านเหล้า“
วันนั้นเราโมโหมากเลยส่งข้อความไปเลยว่าขอให้ย้ายออกจากบ้าน
เพราะเพื่อนมีงานแล้ว ดูจะตั้งหลักได้แล้วก็ควรย้ายออกไปมีชีวิตของตัวเอง
เพื่อนอ่านแล้วตอบกลับมาแค่ว่า ”กูรู้อยู่แล้วว่าคงเกาะไปไม่ได้ตลอดชีวิต“
อาทิตย์ถัดมานางเก็บของย้ายออกเลย หาห้องเสร็จสรรพ ขนเองอะไรเอง
ย้ายออกไปได้สองอาทิตย์จู่ๆ นางก็ส่งข้อความมาหากลางดึกคืนหนึ่งว่ารู้สึกเสียใจมากที่เราท้อง
รู้ว่าเราอยากมีครอบครัวมีลูกแต่รับไม่ได้เพราะรู้สึกว่าโดนแย่งความรักความใส่ใจทั้งหมดไป
ตั้งแต่เรามีแฟนคนนี้นางก็ไม่รู้สึกได้รับการใส่ใจแบบเมื่อก่อน อยากให้เรารู้ตัวว่าอะไรคือสิ่งสำคัญ อะไรคือสิ่งที่มาก่อน
เราอ่านแล้วอึ้งเลย ได้แต่ตอบกลับไปว่า เราไม่เคยพิมพ์ข้อความแบบนี้ใส่นางเลย ไม่เคยสักครั้ง
วันทีต้องขอให้พาไป รพ ด้วยกันแล้วโดนตอบกลับมาว่าไม่ได้เพราะต้องไปร้านเหล้าคิดว่ารู้สึกยังไง ทุเรศมาก นี่หรอเพื่อน
ไม่เคยสักครั้งจะมาพิมพ์แซะใส่ ขอให้สักวันคิดได้แล้วใช้ชีวิตตัวเองให้ดีซะนะ
หลังจากนั้นเราไม่ตอบเพื่อนอีกเลย ทุกอย่างเปลี่ยนหมด
จนผ่านไป 3 เดือน เราแทงก์ ซึ่งเราลงรูปตอนอยู่ รพ เพื่อนคนนี้ก็ทักมาถามว่าเป็นอะไร
เราเลยเลือกที่จะตอบไปด้วยความเสียใจ แต่ข้อความที่เพื่อนตอบกลับมาคือ
”แล้วเสียใจปะ กุว่าดีละนะ ช่วงนี้ผัวต้องไป ตปท บ่อยด้วย มันลำบาก“
นั่นน่าจะเป็นข้อความสุดท้ายที่เรากดเข้าไปอ่าน มันเสียความรู้สึกไปหมดแบบไม่อยากหวังอะไรกับเพื่อนคนนี้อีกแล้ว
คนที่เราเคยคิดว่าเขาเป็น safe zone มาตลอดแต่มาวันนี้ทุกอย่างประหลาดมาก เขาไม่ใช่เพื่อนคนเดิมอีกแล้ว
ตอนนี้ไม่ตอบและไม่อยากเล่าชีวิตให้เขาฟังเลย
ทุกวันนี้เขาก็ยังส่งข้อความาพตัดพ้อบ้าง ชวนไปนู่นไปนี่บ้าง แต่เราเลือกที่จะไม่กดเข้าไปอ่าน ไม่ตอบ
ไม่รู้ว่าจำเป็นขนาดต้องมานั่งเคลียร์กันไหม งานแต่งกับแฟนใหม่ใกล้เข้ามาจะชวนหรือไม่ชวนดี
เคยคิดว่าถ้าแต่งงานเขาจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวเราแน่ๆ แต่วันนี้คงไม่ใช่แล้ว
เอาจริงตอนนี้ก็สับสนว่าความสัมพันธ์มันอยู่จุดไหนแต่ไม่อยากกลับไปสนิทกันแล้ว รู้สึกไม่โอเคมากๆ แค่เสียดายที่คบกันมาตั้งนาน
เพื่อนสนิทแบบใด
เรามีเพื่อนคนนึงที่คบกันตั้งแต่สมัยเรียน จนทุกวันนี้ก็รวม 20 ปีได้แล้ว
เรียกได้ว่าโตมาด้วยกัน ผ่านเรื่องราวมากมาย รู้ background ครอบครัว รู้อดีตของกันหมด เป็น safe zone ทุกเรื่อง
จุดเริ่มต้นของการแตกหักเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน
เมื่อเพื่อนตกงานกระทันหัน มีปัญหาการเงิน และเลิกกับสามี
ณ วันนั้นที่ต้องย้ายออกจากบ้านสามีแล้วเพื่อนไม่มีที่ไปต่อเราไม่คิดอะไรเลย
เราบอกเพื่อนว่ามาอยู่บ้านเราก่อนได้ เรามีห้องเหลืออยู่จนกว่าจะตั้งหลักใหม่ได้
อาจเป็นจังหวะพอดีที่เราก็เลิกกับแฟนก่าแล้วเขาย้ายออก
ช่วงแรกทุกอย่างดีมาก สนุกมากฟีลเพื่อนสาวอยู่ด้วยกัน
ผ่านไปราวๆ 1 เดือนเรื่องมันก็ค่อยๆ เริ่มจากวันหนึ่งที่เรากลับบ้านมาเห็นพื้นหน้าบ้านเปียกผิดปกติ
พอเดินไปดูเลยเห็นว่าเพื่อนนั่งอยู่ข้างบ่อปลาที่ไม่มีน้ำเหลืออยู่ด้านในเลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น?
คำตอบที่ได้คือเพื่อนจะเปลี่ยนน้ำเพราะบ่อมันสกปรกแต่ปลาน๊อคน้ำตายหมดบ่อเลย เราช๊อคมาก ปลาเราเลี้ยงมาตั้งแต่สร้างบ้าน
ออกลูกเต็มบ่อบัวตายหมดไม่เหลือสักตัว เพื่อนได้พูดว่าขอโทษนะแต่ปลาอ่อนแอมากเลย
ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ปกติเคยทำงี้ที่บ้านสไม่ก็เห็นไม่ตาย เราเดาว่าบ้านสามีเก่าเขาอยู่ ตจว ไง คลอรีนมันไม่แรงเท่า กทม หรือเปล่า
หรือถังพักน้ำบ้านเขาใหญ่หรือเปล่า คลอรีนมันละเหยหมดแล้วตอนเอามาใช้
ไม่นาน เราเริ่มสังเกตว่าต้นไม้ในบ้านมันดูน้อยลง พอรู้สึกตัวอีกที พวกไม้ในร่มก็พากันตายหมดแทบบทั้งหมด
ถามไปถามมา เพื่อนบอกว่าเอาต้นไมตากแดดดากแดดเวลาเราออกไปทำงานทีละต้นสองต้นเห็นมันไม่โดนแดดกัน
เราเริ่มคุยกับเพื่อนว่าไม่ต้องพยายามช่วยตรงนี้ ให้รีบตั้งใจหางานพอเพราะคิดว่าพอเพื่อนหางานได้แล้วคงย้ายออก
หนึ่งเดือนให้หลังเพื่อนได้งานที่บริษัทแห่งหนึ่งใน กทม และเริ่มออกไปทำงานในวันธรรมดา
ปกติเราจะเป็นคนทำความสะอาดบ้านและทำกับข้าวอยู่แล้ว(เพื่อนทำไม่เป็น) และเราทำเป็นปกติประจำ
แต่ในช่วงเดียวกันนั้นเรากำลังจะปิดโปรเจคใหญ่เลยทำให้วุ่นวายกับงานมาก บางวันกลับดึก พอถึงบ้านก็เหนื่อยมากแล้วอาบน้ำนอนเลย
เป็นอย่างงี้อยู่สองสัปดาห์ อยู่ๆ เพื่อนก็พูดขึ้นมาว่า “เดี๋ยวนี้ไม่ทำกับข้าวเลยนะ กูต้องออกไปหาอะไรกินเองทุกวันแถมน้ำแข็งในตู้เย็นก็หมดอีก“
ความอดทนเราขาดึงงจากงานที่เครียดเลยตอบกลับไปว่า ” แล้วเป็นอะไรต้องรอกูทำให้ กูเป็นคนใช้หรอ”
หลังจากนั้นบรรยากาศในบ้านก็เปลี่ยนไป เพื่อนเราหาทางออกโดยการออกไปเที่ยวกับที่ทำงานเพื่อไม่ต้องรีบกลับบ้านมาเจอเรา
เหมือนที่แค่อยู่บ้านเดียวกันแต่ไม่คุยกันเลย
เป็นอย่างงี้อยู่สักพัก เราก็เริ่มมีคนคุยและคบกันเป็นแฟนออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกันแล้วทิ้งเพื่อนไว้ที่บ้าน
สิ่งที่ได้คือคืนนั้นเพื่อนส่งข้อความมายาวมาก ใจความคือการโดนทิ้งให้อยู่คนเดียว การที่เราเห็นผู้ชายสำคัญกว่า
รู้สึกถูกแย่งความทำไมทำไมไม่พามันมาด้วย คบกับมันมาก่อนรู้จักกันมาก่อนแต่ทำไมให้ความสำคัญกับผู้ชาย
เราอ่านแล้วงงเลย มันเป็นอะไร อย่างแรกเลยคือกูไปเที่ยวกับแฟนทำไมต้องหิ้วไปด้วย แล้วทำไมต้องส่งข้อความมาตัดพ้อ
เราอ่านไม่ตอบแค่หลังจากกลับถึงบ้านเพื่อนทำตัวปกติมากทุกอย่างแล้วบอกว่าตอนนี้กำลังคบกับดีเจร้านเหล้าที่ไปกับที่ทำงานบ่อยๆ อยู่
เวลาผ่านไป 1 ปี เราตรวจเจอว่าท้องจังหวะเดียวกับที่แฟนไป ตปท
เราเลยบอกเพื่อนว่าเราน่าจะท้อง เลิกงาน พาไป รพ หน่อยได้ไหม, เพื่อนตอบมาว่าไม่ได้เพราะเลิกงาน “ต้องไปเฝ้าแฟนที่ร้านเหล้า“
วันนั้นเราโมโหมากเลยส่งข้อความไปเลยว่าขอให้ย้ายออกจากบ้าน
เพราะเพื่อนมีงานแล้ว ดูจะตั้งหลักได้แล้วก็ควรย้ายออกไปมีชีวิตของตัวเอง
เพื่อนอ่านแล้วตอบกลับมาแค่ว่า ”กูรู้อยู่แล้วว่าคงเกาะไปไม่ได้ตลอดชีวิต“
อาทิตย์ถัดมานางเก็บของย้ายออกเลย หาห้องเสร็จสรรพ ขนเองอะไรเอง
ย้ายออกไปได้สองอาทิตย์จู่ๆ นางก็ส่งข้อความมาหากลางดึกคืนหนึ่งว่ารู้สึกเสียใจมากที่เราท้อง
รู้ว่าเราอยากมีครอบครัวมีลูกแต่รับไม่ได้เพราะรู้สึกว่าโดนแย่งความรักความใส่ใจทั้งหมดไป
ตั้งแต่เรามีแฟนคนนี้นางก็ไม่รู้สึกได้รับการใส่ใจแบบเมื่อก่อน อยากให้เรารู้ตัวว่าอะไรคือสิ่งสำคัญ อะไรคือสิ่งที่มาก่อน
เราอ่านแล้วอึ้งเลย ได้แต่ตอบกลับไปว่า เราไม่เคยพิมพ์ข้อความแบบนี้ใส่นางเลย ไม่เคยสักครั้ง
วันทีต้องขอให้พาไป รพ ด้วยกันแล้วโดนตอบกลับมาว่าไม่ได้เพราะต้องไปร้านเหล้าคิดว่ารู้สึกยังไง ทุเรศมาก นี่หรอเพื่อน
ไม่เคยสักครั้งจะมาพิมพ์แซะใส่ ขอให้สักวันคิดได้แล้วใช้ชีวิตตัวเองให้ดีซะนะ
หลังจากนั้นเราไม่ตอบเพื่อนอีกเลย ทุกอย่างเปลี่ยนหมด
จนผ่านไป 3 เดือน เราแทงก์ ซึ่งเราลงรูปตอนอยู่ รพ เพื่อนคนนี้ก็ทักมาถามว่าเป็นอะไร
เราเลยเลือกที่จะตอบไปด้วยความเสียใจ แต่ข้อความที่เพื่อนตอบกลับมาคือ
”แล้วเสียใจปะ กุว่าดีละนะ ช่วงนี้ผัวต้องไป ตปท บ่อยด้วย มันลำบาก“
นั่นน่าจะเป็นข้อความสุดท้ายที่เรากดเข้าไปอ่าน มันเสียความรู้สึกไปหมดแบบไม่อยากหวังอะไรกับเพื่อนคนนี้อีกแล้ว
คนที่เราเคยคิดว่าเขาเป็น safe zone มาตลอดแต่มาวันนี้ทุกอย่างประหลาดมาก เขาไม่ใช่เพื่อนคนเดิมอีกแล้ว
ตอนนี้ไม่ตอบและไม่อยากเล่าชีวิตให้เขาฟังเลย
ทุกวันนี้เขาก็ยังส่งข้อความาพตัดพ้อบ้าง ชวนไปนู่นไปนี่บ้าง แต่เราเลือกที่จะไม่กดเข้าไปอ่าน ไม่ตอบ
ไม่รู้ว่าจำเป็นขนาดต้องมานั่งเคลียร์กันไหม งานแต่งกับแฟนใหม่ใกล้เข้ามาจะชวนหรือไม่ชวนดี
เคยคิดว่าถ้าแต่งงานเขาจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวเราแน่ๆ แต่วันนี้คงไม่ใช่แล้ว
เอาจริงตอนนี้ก็สับสนว่าความสัมพันธ์มันอยู่จุดไหนแต่ไม่อยากกลับไปสนิทกันแล้ว รู้สึกไม่โอเคมากๆ แค่เสียดายที่คบกันมาตั้งนาน