วิเคราะห์สาเหตุหุ้น Tesla ร่วงแรงดิ่งกว่า 10% : จุดจบความสัมพันธ์ 'ทรัมป์-มัสก์' ส่งผลอย่างไร?

หุ้น Tesla (TSLA) เผชิญกับการปรับตัวลงอย่างรุนแรงกว่า 10% ในช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางความขัดแย้งที่ร้อนระอุระหว่าง Elon Musk และอดีตประธานาธิบดี Donald Trump บทความนี้จะวิเคราะห์สาเหตุของการร่วงลงของราคาหุ้น และผลกระทบจากความสัมพันธ์ที่แตกร้าวของสองผู้ทรงอิทธิพลนี้



ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ตลาดหุ้นโลกได้จับตาไปที่การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น Tesla, Inc. (TSLA) อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญกว่า 10% ในเวลาอันรวดเร็ว สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนและผู้ที่สนใจในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า บทความนี้จะเจาะลึกถึงสาเหตุเบื้องหลังการร่วงลงอย่างรุนแรงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์ที่ถึงจุดแตกหักระหว่าง Elon Musk ซีอีโอผู้เป็นที่รู้จักของ Tesla และ Donald Trump อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ

1. หุ้น Tesla ดิ่งเหว: สถานการณ์และตัวเลขที่น่าตกใจ
จากการรายงานข้อมูลล่าสุด ราคาหุ้น Tesla ได้ร่วงลงมาแตะระดับต่ำสุด โดยคิดเป็นการลดลงถึง 10.69% ในหนึ่งวันทำการ (ข้อมูล ณ วันที่ 5 มิถุนายน 2568, 2:32 PM EDT) ซึ่งเป็นการลดลงที่ผิดปกติและสร้างความตกใจให้กับตลาดอย่างมาก การปรับตัวลงนี้สะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนต่อปัจจัยบางประการที่อาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของบริษัท

2. จุดแตกหักของ "ทรัมป์-มัสก์": สงครามน้ำลายที่สั่นสะเทือนตลาด
สาเหตุสำคัญที่ถูกจับตามองและเชื่อมโยงกับการร่วงลงของราคาหุ้น Tesla โดยตรงคือความขัดแย้งที่ปะทุขึ้นระหว่าง Elon Musk และ Donald Trump ซึ่งเริ่มต้นจากคำกล่าวของ Trump ที่แสดงความเคลือบแคลงในความสัมพันธ์กับ Musk:
- คำกล่าวของทรัมป์: "ผมกับอีลอนเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก ไม่แน่ใจว่าเราจะมีอีกต่อไปไหม" คำพูดนี้แสดงถึงความไม่แน่นอนและอาจเป็นสัญญาณของความสัมพันธ์ที่กำลังเปลี่ยนไป
- การตอบโต้ที่ดุเดือดจากมัสก์: Elon Musk ได้ออกมาตอบโต้ Trump อย่างรุนแรง โดยกล่าวหาว่า Trump "เนรคุณอย่างร้ายแรง" พร้อมเสริมว่า "ถ้าไม่มีผม ทรัมป์คงแพ้เลือกตั้งไปแล้ว" ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความบาดหมางที่เกิดขึ้น
- ปมขัดแย้งเกี่ยวกับงบประมาณและการลาออก: ความตึงเครียดได้ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อ Musk ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งที่กระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาลสหรัฐฯ และหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้วิพากษ์วิจารณ์ร่างงบประมาณของ Trump อย่างเผ็ดร้อน โดยเรียกว่ามันเป็น "สิ่งน่ารังเกียจ"
- ความผิดหวังของทรัมป์: การวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาของ Musk ทำให้ Trump ออกมากล่าวว่าเขา "รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก" และ "ผิดหวัง" กับการกระทำของอดีตพันธมิตรคนสำคัญ

3. ผลกระทบจากความขัดแย้งต่อหุ้น Tesla: ทำไมนักลงทุนถึงกังวล?
นักลงทุนและตลาดหุ้นมักจะอ่อนไหวต่อปัจจัยที่ไม่ใช่แค่ผลประกอบการทางธุรกิจ แต่รวมถึงภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ และความสัมพันธ์ของผู้บริหารระดับสูงกับบุคคลสำคัญทางการเมือง การแตกหักระหว่าง Elon Musk และ Donald Trump ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น Tesla ด้วยเหตุผลหลายประการ:
- ความกังวลด้านนโยบายและอิทธิพล: นักลงทุนอาจกังวลว่าหาก Trump กลับมามีอำนาจอีกครั้ง ความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่กับ Musk อาจส่งผลให้นโยบายของรัฐบาลไม่เอื้อประโยชน์ต่อ Tesla หรืออาจมีอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจบางประการ เช่น การสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า หรือการพิจารณาด้านกฎระเบียบ
- ความไม่แน่นอนทางการเมือง: ความไม่ลงรอยกันระหว่างผู้นำทางธุรกิจและผู้นำทางการเมืองสร้างบรรยากาศของความไม่แน่นอน ซึ่งนักลงทุนไม่ชอบความไม่แน่นอน และอาจเลือกที่จะถอนการลงทุนหรือชะลอการตัดสินใจ
- ภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น: Elon Musk เป็นบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อภาพลักษณ์ของ Tesla ความขัดแย้งสาธารณะกับบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Trump อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภคในภาพรวม
- การเบี่ยงเบนความสนใจ: การต้องเผชิญกับประเด็นทางการเมืองหรือความขัดแย้งส่วนตัว อาจทำให้ผู้บริหารต้องเสียสมาธิจากการดำเนินธุรกิจหลัก ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนจับตามอง

4. อนาคตของ Tesla ท่ามกลางความขัดแย้ง: อะไรคือแนวโน้ม?
การร่วงลงของหุ้น Tesla ในครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้บริษัทจะมีพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและนวัตกรรมที่โดดเด่น แต่ปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลสำคัญ ก็สามารถส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อมูลค่าตลาดได้

ในอนาคต ราคาหุ้น Tesla อาจยังคงมีความผันผวนขึ้นอยู่กับพัฒนาการของความขัดแย้งนี้ รวมถึงนโยบายทางการเมืองที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของบริษัท เช่น ยอดขาย กำไร นวัตกรรม และแผนการขยายธุรกิจ ควบคู่ไปกับปัจจัยภายนอก เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ

สรุป:
การร่วงลงอย่างรุนแรงของหุ้น Tesla ในครั้งนี้เป็นผลพวงจากหลายปัจจัย แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือความขัดแย้งระหว่าง Elon Musk และ Donald Trump ซึ่งได้สร้างความไม่แน่นอนและลดทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลสำคัญเหล่านี้มีผลกระทบอย่างมากต่อตลาดหุ้น และสะท้อนให้เห็นว่าในโลกของการลงทุนนั้น การเมืองและปัจเจกบุคคลก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้ปัจจัยทางเศรษฐกิจเลยทีเดียว

จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่าง Elon Musk และ Donald Trump ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรต่อบทบาทของ "บุคคลสำคัญ" ที่มีต่อตลาดหุ้น และท่านมองว่าปัจจัยทางการเมืองจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในระยะยาวมากน้อยแค่ไหนครับ? ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองกันได้เลยครับ!

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่