เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่สร้างกระแสให้กับคนไทยได้อีกเรื่องหนึ่ง ที่หลายคนวิเคราะห์ว่า อาจจะเป็นเรื่องจริงบ้าง เรื่องแต่งบ้าง หรือ เรื่องที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงบ้าง แล้วเพื่อนๆ คิดว่า ตัวละครในซีรีส์ สงครามส่งด่วน ใครเป็นใครกันบ้าง ?
สำหรับตัวละครฝั่ง Thunder Express หลายๆ คนน่าจะเคยเห็น และอ่านบทวิเคราะห์ และบทสัมภาษณ์ของคุณคมสันต์ ลี CEO บริษัท Flash Express ในปัจจุบัน ก็คงจะคาดเดาฝั่งบริษํท Thunder Express ได้ค่อนข้างชัดเจนว่า เป็น บริษัท Flash Express อย่างแน่นอน
แต่ที่หลายคนสงสัย และตั้งข้อสังเกตว่า แล้ว บริษัท Easy Express ของ เจ้าสัวคณิน คือ บริษัทอะไร ?
เรียกได้ว่า Google และ ChatGPT ต้องทำงานกันไม่หยุด กับคำค้น Easy Express คือบริษัทอะไร ?
🚚 สงครามส่งด่วน: เมื่อธุรกิจขนส่งกลายเป็นสมรภูมิระหว่างทุนเล็ก ทุนใหญ่ และทุนต่างชาติ
ในอดีต การส่งพัสดุถือเป็นงานด้านโลจิสติกส์ธรรมดา ที่ถูกครอบครองโดยบริษัทรัฐวิสาหกิจหรือเอกชนรายใหญ่ไม่กี่เจ้า แต่ในยุคของอีคอมเมิร์ซเฟื่องฟู ผู้คนสั่งของทุกวัน ส่งของทุกชั่วโมง "ธุรกิจขนส่งพัสดุด่วน" จึงกลายเป็นหนึ่งในสนามรบที่ดุเดือดที่สุด และนี่คือที่มาของซีรี่ส์ “สงครามส่งด่วน” — สงครามที่มีทั้งเทคโนโลยี การตลาด กลยุทธ์ทางการเงิน และสงครามของทุน
ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ Easy Express ของเจ้าสัวคณิน หากลองเปรียบเทียบข้อมูลจริง จะมีเพียงบริษัทอย่าง
Kerry Express ซึ่งเป็นระบบที่มีการบริหารจัดการแบบมืออาชีพ เครือข่ายกว้างขวาง และมีภาพลักษณ์ที่แข็งแรงในตลาด เรียกได้ว่า เป็นบริษัทขนส่งที่ครองตลาดมาก่อนที่ Flash Express จะเข้ามาทำตลาด
ซึ่ง บริษัท “ม้ามืด” อย่าง
Flash Express เข้ามาเขย่าตลาด จนทำให้เกิดสตาร์ตอัปไทยที่เกิดจากชายหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อ
คมสันต์ แซ่ลี ที่เริ่มต้นจากศูนย์ และใช้ทั้งเทคโนโลยีจีน เงินทุนต่างชาติ และไอเดียแบบ startup-first mindset เข้ามาท้าชนยักษ์ใหญ่ เรียกได้ว่า Flash ทำสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทำ :
ให้บริการรับพัสดุฟรีถึงบ้านทุกชิ้น ไม่มีขั้นต่ำ พร้อมขยายเครือข่ายจุดรับฝากสินค้าในร้านค้าแบบ “แฟรนไชส์รายย่อย” ทั่วประเทศ
ในขณะที่ Kerry ยังยึดโมเดล “ศูนย์กระจายพัสดุแบบรวมศูนย์” และเน้นคุณภาพ
Flash ใช้ “ความเร็ว + ราคา + ความง่าย” เป็นจุดขายเพื่อสร้างความไวรัลและขยายตลาดแบบพลิกเกม
เรียกได้ว่า ซีรีส์แทบจะถอดหลักการดำเนินธุรกิจของทั้ง 2 บริษัทออกมาได้อย่างเป๊ะเวอร์
🔍
Easy Express = บริษัทใดในชีวิตจริง?
“Easy Express” ในนิยายคือบริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่ที่เคยครองตลาดมาก่อน มีเครือข่ายกว้างขวาง และเป็นคู่แข่งสำคัญของบริษัท Thunder Express ซึ่งจากโครงสร้างเรื่อง และเส้นเวลา ทำให้คาดประมาณปีที่เกิดเหตุการณ์น่าจะประมาณช่วงปี 2016–2020 ซึ่งมีความคล้ายกับบริษัท : 👉
Kerry Express Thailand (เคอรี่ เอ็กซ์เพรส) 👈 เป็นเบอร์ 1 ในตลาดขนส่งพัสดุด่วนไทย มีภาพลักษณ์ “มืออาชีพ–ระบบแน่น” เหมือน Easy Express และที่สำคัญคือ...
เคยเป็นของกลุ่มทุนไทยก่อนจะขายให้ทุนจีน SF Holding ในปี 2023
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซึ่ง ตรงกับเนื้อเรื่อง ที่ในซีรีส์ EP.7 ที่มีการพูดถึง "เจ้าสัว" ที่เคยถือหุ้น Easy Express แล้วขายให้ต่างชาติที่เป็นทุนจากประเทศจีน พร้อมกับที่ลูกชายเจ้าสัว คือ เคน ขายหุ้น Easy Express ทั้งหมด เรียกว่า สอดคล้องกับข้อมูลจากข่าวที่ลูกเจ้าสัวคีรี กาญจนพาสน์ ‘กวิน’ ขายหุ้นเคอรี่ฯ เกลี้ยง 1 แสนหุ้น ราคา 49 บาท ในวันแรกที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ และชื่อของ เควิน ลูกเจ้าสัวคณิน ที่เป็นเจ้าของ Easy Express ก็ดันออกเสียงคล้ายกับ กวิน ลูกของเจ้าสัวคีรีอีก ยิ่งทำให้ข้อสังเกตว่า Easy Express อาจจะคือ Kerry Express ยิ่งมีมูลความจริง
ในขณะที่ 🧓
เจ้าสัวคณิน = ใครในโลกจริง กันแน่?
“เจ้าสัวคณิน” ในซีรีส์คือเจ้าสัวผู้ทรงอิทธิพลในเครือข่ายธุรกิจไทย มีอำนาจทั้งด้านเงินทุน สื่อ และการเชื่อมโยงกับบริษัทขนส่ง มีความคล้ายกับบุคคลระดับเจ้าสัวในไทยที่ ... เคยลงทุนในธุรกิจขนส่งพัสดุ (ผ่านบริษัทลูก) เคยถือหุ้น
Kerry Express ผ่านบริษัทในเครือ และ
มีชื่อเสียงในวงการค้าปลีก-โลจิสติกส์-สื่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หากลองให้ ChatGPT ช่วยค้นหาข้อมูล ก็จะพบว่า ก่อนที่ Kerry Express จะเป็นของทุนจีนจะพบว่า
• บริษัท Kerry Express (Thailand) Public Company Limited เคยอยู่ภายใต้การถือหุ้นหลักโดย VGI Plc.
• ซึ่ง VGI เป็นบริษัทในเครือของ BTS Group Holdings
• และเจ้า BTS Group Holding ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล ก็คือ คุณคีรี กาญจนพาสน์
ก่อนที่ Kerry Express จะถูกขายไปให้กับ SF Holding (ประเทศจีน) ในปี 2023
ซึ่งยิ่งทำให้การยืนยันได้ว่า บริษัท “Easy Express” ในซีรีส์ อาจได้รับแรงบันดาลใจจาก Kerry Express หรือไม่ ?
ทำให้พอคาดเดาได้ว่า “ใครคือใคร” จากซีรีส์ VS ธุรกิจจริง
ทำให้พอจะสรุปคร่าวๆ ได้ว่า
ซีรีส์ “สงครามส่งด่วน” ไม่ได้ตั้งใจพาดพิงใครตรง ๆ แต่ใช้โครงเรื่องจาก
Flash Express vs Kerry Express เป็นแรงบันดาลใจ ก็เท่านั้นเอง
ทิ้งท้ายซีรีส์ “สงครามส่งด่วน” กับประโยคเด็ดของลูกเจ้าสัวคณิน - เคน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรียกได้ว่า ลูกทายาทเจ้าสัวที่มีจุดเริ่มเหนือคนอื่น คนอื่นอาจจะเริ่มต้นจาก 0 แต่ลูกเจ้าสัวเริ่มต้นที่ 100 และต้องทำให้ดียิ่งขึ้นกว่า 100
ถ้าทำดีก็อาจจะเสมอตัว ... ทำพลาดก็เรียกว่าเละ จนทำให้เคนขาดอิสระ และไม่มีความเป็นตัวของตัวเองเลย ด้วยเหตุผลที่ว่า
"รุ่นพ่อเคยทำแแล้วเจริญรุ่งเรือง แล้วทำสำเร็จทุกอย่าง" จนทำให้คนรุ่นใหม่ มักจะเกรงกลัวกับสำนวนที่ว่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น หรือวัดรอยเท้าพ่อ ได้ไหม จนเป็นแรงกดดันตัวเองในที่สุด
ยิ่งทำให้อาจจะยืนยันกลับไปถึงคุณกวิน ลูกเจ้าสัวคีรี อีกครั้งที่เคยให้สัมภาษณ์กับทางไทยรัฐ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถามจริงๆนะคะ เกิดเป็นลูก “เจ้าสัวคีรีผู้ยิ่งใหญ่” หนักใจไหม
ผมชอบมาก ไม่มีปัญหากับเรื่องนี้ ตั้งแต่เด็ก ตอนอายุ 9 ขวบ ผมก็รู้แล้วว่าโตขึ้นต้องทำงานแบบป๊าแบบอากง ต้องตื่น 6 โมงเช้ามาประชุม และกลับบ้าน 5 ทุ่ม ผมเลยตั้งใจว่าตราบใดที่ยังเป็นเด็ก เราจะต้องเที่ยวต้องใช้ชีวิตให้คุ้ม ผมเป็นเด็กเกเรนิดหน่อย ชอบเอาเวลาเรียนไปเที่ยว เพราะรู้สึกว่าโตขึ้นจะไม่มีเวลาไปเที่ยวแล้ว ผมไปเรียนที่อังกฤษตั้งแต่ 12 ปี เคยขับรถจากลอนดอน ไปแมนเชสเตอร์ 4-5 ชั่วโมง เพื่อซื้อมอเตอร์ไซค์ 150 ปอนด์ เอากลับมาที่ลอนดอน ขี่ไม่กี่วันก็ชนเลย ชีวิตวัยรุ่นมันส์แบบนี้ แต่พอทำงานกับป๊าไม่มีเวลาเที่ยวเลย
จากเด็กไม่เอาถ่านต้องช่วยคุณพ่อกอบกู้วิกฤติ ตอนนั้นเอาความกล้ามาจากไหน
ส่วนตัวผมเป็นคนไม่ค่อยเครียดง่าย ตอนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง เมื่อปี 1997 ป๊าเครียดมาก เพราะธุรกิจแทบล้มทั้งยืน เราทำงานเคียงข้างกันเหมือนพี่น้อง ไปเจอแบงก์ก็ไปด้วยกัน ไปเจอเจ้าหนี้ก็ไปด้วยกัน ไปเจรจาธุรกิจก็ไปด้วยกัน ไปดูรถไฟฟ้าก็ไปด้วยกัน เอาป้ายโฆษณาขึ้นผมยังไปคุมเอง เราใช้เวลาฟื้นฟูธุรกิจเกือบ 10 ปี กว่าจะกลับมายืนได้ ธุรกิจทุกอย่างป๊าเป็นคนคิด และให้ผมสานต่อทำจนสำเร็จ เราเป็นคู่คิดกันเรื่องงาน
บทสรุปทิ้งท้ายถึงจากซีรีส์เรื่องนี้ ที่ “เจ้าสัวคณิน” และ Easy Express ให้ก็คือ
• “Easy Express ไม่ได้แพ้เพราะไม่มีเงินทุน ไม่ได้ล้มเพราะขาดทรัพยากร แต่เพราะประมาท ‘คนตัวเล็ก’ ที่กล้าเล่นเกมใหญ่”
• “เจ้าสัวคณิน” เคยยืนอยู่บนยอดพีระมิด ถือครองทั้งตลาด โลจิสติกส์ และสื่อ แต่ในวันที่เทคโนโลยีเปลี่ยน ทำให้คนธรรมดากลายเป็นยูนิคอร์นได้
• เจ้าสัวที่เคยเป็นเจ้าของ ‘ระบบ’ กลับกลายเป็นเพียงผู้ถูก ‘เปลี่ยนระบบ’ เสียเอง เพราะในโลกของการแข่งขัน สิ่งที่น่ากลัวกว่า ‘คู่แข่งหน้าใหม่’ ก็คือ ‘วิธีคิดแบบเดิม’ ที่ไม่เคยเปลี่ยน
และบางครั้ง … ศัตรูที่ร้ายที่สุดของธุรกิจใหญ่ อาจไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ “ความเคยชินว่าเคยชนะเสมอมา” นั่นเอง
หากใครได้อ่านบทวิเคราะห์นี้กันแล้ว ... บอกเลยว่า ไม่ควรพลาด ควรรีบไปดูซีรีส์ - สงครามส่งด่วน ทั้ง 7 ตอน เพื่อช่วยสนับสนุนหนังไทย ละครไทย นักแสดงไทย กันด้วยนะ
วิเคราะห์ซีรีส์ สงครามส่งด่วน l จากศูนย์สู่ยูนิคอร์น : Thunder vs Easy
แต่ที่หลายคนสงสัย และตั้งข้อสังเกตว่า แล้ว บริษัท Easy Express ของ เจ้าสัวคณิน คือ บริษัทอะไร ?
เรียกได้ว่า Google และ ChatGPT ต้องทำงานกันไม่หยุด กับคำค้น Easy Express คือบริษัทอะไร ?
🚚 สงครามส่งด่วน: เมื่อธุรกิจขนส่งกลายเป็นสมรภูมิระหว่างทุนเล็ก ทุนใหญ่ และทุนต่างชาติ
ในอดีต การส่งพัสดุถือเป็นงานด้านโลจิสติกส์ธรรมดา ที่ถูกครอบครองโดยบริษัทรัฐวิสาหกิจหรือเอกชนรายใหญ่ไม่กี่เจ้า แต่ในยุคของอีคอมเมิร์ซเฟื่องฟู ผู้คนสั่งของทุกวัน ส่งของทุกชั่วโมง "ธุรกิจขนส่งพัสดุด่วน" จึงกลายเป็นหนึ่งในสนามรบที่ดุเดือดที่สุด และนี่คือที่มาของซีรี่ส์ “สงครามส่งด่วน” — สงครามที่มีทั้งเทคโนโลยี การตลาด กลยุทธ์ทางการเงิน และสงครามของทุน
ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ Easy Express ของเจ้าสัวคณิน หากลองเปรียบเทียบข้อมูลจริง จะมีเพียงบริษัทอย่าง Kerry Express ซึ่งเป็นระบบที่มีการบริหารจัดการแบบมืออาชีพ เครือข่ายกว้างขวาง และมีภาพลักษณ์ที่แข็งแรงในตลาด เรียกได้ว่า เป็นบริษัทขนส่งที่ครองตลาดมาก่อนที่ Flash Express จะเข้ามาทำตลาด
ซึ่ง บริษัท “ม้ามืด” อย่าง Flash Express เข้ามาเขย่าตลาด จนทำให้เกิดสตาร์ตอัปไทยที่เกิดจากชายหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อ คมสันต์ แซ่ลี ที่เริ่มต้นจากศูนย์ และใช้ทั้งเทคโนโลยีจีน เงินทุนต่างชาติ และไอเดียแบบ startup-first mindset เข้ามาท้าชนยักษ์ใหญ่ เรียกได้ว่า Flash ทำสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทำ : ให้บริการรับพัสดุฟรีถึงบ้านทุกชิ้น ไม่มีขั้นต่ำ พร้อมขยายเครือข่ายจุดรับฝากสินค้าในร้านค้าแบบ “แฟรนไชส์รายย่อย” ทั่วประเทศ
ในขณะที่ Kerry ยังยึดโมเดล “ศูนย์กระจายพัสดุแบบรวมศูนย์” และเน้นคุณภาพ
Flash ใช้ “ความเร็ว + ราคา + ความง่าย” เป็นจุดขายเพื่อสร้างความไวรัลและขยายตลาดแบบพลิกเกม
เรียกได้ว่า ซีรีส์แทบจะถอดหลักการดำเนินธุรกิจของทั้ง 2 บริษัทออกมาได้อย่างเป๊ะเวอร์
🔍 Easy Express = บริษัทใดในชีวิตจริง?
“Easy Express” ในนิยายคือบริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่ที่เคยครองตลาดมาก่อน มีเครือข่ายกว้างขวาง และเป็นคู่แข่งสำคัญของบริษัท Thunder Express ซึ่งจากโครงสร้างเรื่อง และเส้นเวลา ทำให้คาดประมาณปีที่เกิดเหตุการณ์น่าจะประมาณช่วงปี 2016–2020 ซึ่งมีความคล้ายกับบริษัท : 👉 Kerry Express Thailand (เคอรี่ เอ็กซ์เพรส) 👈 เป็นเบอร์ 1 ในตลาดขนส่งพัสดุด่วนไทย มีภาพลักษณ์ “มืออาชีพ–ระบบแน่น” เหมือน Easy Express และที่สำคัญคือ...
เคยเป็นของกลุ่มทุนไทยก่อนจะขายให้ทุนจีน SF Holding ในปี 2023
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในขณะที่ 🧓 เจ้าสัวคณิน = ใครในโลกจริง กันแน่?
“เจ้าสัวคณิน” ในซีรีส์คือเจ้าสัวผู้ทรงอิทธิพลในเครือข่ายธุรกิจไทย มีอำนาจทั้งด้านเงินทุน สื่อ และการเชื่อมโยงกับบริษัทขนส่ง มีความคล้ายกับบุคคลระดับเจ้าสัวในไทยที่ ... เคยลงทุนในธุรกิจขนส่งพัสดุ (ผ่านบริษัทลูก) เคยถือหุ้น Kerry Express ผ่านบริษัทในเครือ และ มีชื่อเสียงในวงการค้าปลีก-โลจิสติกส์-สื่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซีรีส์ “สงครามส่งด่วน” ไม่ได้ตั้งใจพาดพิงใครตรง ๆ แต่ใช้โครงเรื่องจาก Flash Express vs Kerry Express เป็นแรงบันดาลใจ ก็เท่านั้นเอง
บทสรุปทิ้งท้ายถึงจากซีรีส์เรื่องนี้ ที่ “เจ้าสัวคณิน” และ Easy Express ให้ก็คือ
• “Easy Express ไม่ได้แพ้เพราะไม่มีเงินทุน ไม่ได้ล้มเพราะขาดทรัพยากร แต่เพราะประมาท ‘คนตัวเล็ก’ ที่กล้าเล่นเกมใหญ่”
• “เจ้าสัวคณิน” เคยยืนอยู่บนยอดพีระมิด ถือครองทั้งตลาด โลจิสติกส์ และสื่อ แต่ในวันที่เทคโนโลยีเปลี่ยน ทำให้คนธรรมดากลายเป็นยูนิคอร์นได้
• เจ้าสัวที่เคยเป็นเจ้าของ ‘ระบบ’ กลับกลายเป็นเพียงผู้ถูก ‘เปลี่ยนระบบ’ เสียเอง เพราะในโลกของการแข่งขัน สิ่งที่น่ากลัวกว่า ‘คู่แข่งหน้าใหม่’ ก็คือ ‘วิธีคิดแบบเดิม’ ที่ไม่เคยเปลี่ยน
และบางครั้ง … ศัตรูที่ร้ายที่สุดของธุรกิจใหญ่ อาจไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ “ความเคยชินว่าเคยชนะเสมอมา” นั่นเอง
หากใครได้อ่านบทวิเคราะห์นี้กันแล้ว ... บอกเลยว่า ไม่ควรพลาด ควรรีบไปดูซีรีส์ - สงครามส่งด่วน ทั้ง 7 ตอน เพื่อช่วยสนับสนุนหนังไทย ละครไทย นักแสดงไทย กันด้วยนะ