ย้อนไปที่ต้นเรื่องของกรณีนี้ เฟซบุ๊กของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์เตือนภัยมิจฉาชีพ หลังมีนักศึกษาหลายราย ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และถูกหลอกให้โอนเงิน รวมหลายล้านบาท ซึ่งจากข้อมูลของ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ระบุว่า มีผู้ตกเป็นเหยื่อรวม 10 ราย ซึ่งก่อเหตุสำเร็จ 9 ราย
1 ในนั้นคือ ลูกชายของหญิงรายนี้ ที่เป็นนักศึกษาชายชั้นปี 2 ซึ่งถูกหลอกให้โอนเงินไปให้แก๊งคอลเซนเตอร์ 4 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 2 ล้านบาท คุณแม่ เปิดใจทั้งน้ำตาว่า แกงค์คอลเซนเตอร์อ้างเป็นตำรวจ ติดต่อลูกชายมา บอกว่ามีการใช้เบอร์โทรศัพท์ค่ายหนึ่ง ซึ่งนำไปใช้ทำผิดกฏหมาย จึงต้องตรวจสอบให้โอนเงิน เพื่อตรวจสอบทรัพย์สิน
มิจฉาชีพ ออกอุบายให้ลูกหลอกครอบครัวว่า ได้ทุน และต้องรันเงินสเตทเม้นท์ เพื่อไปดูงานต่างประเทศ ซึ่งจะแนบเอกสารปลอมของคณะ และมหาวิทยาลัยมาด้วย จากนั้น มิจฉาชีพอีกคน ก็ที่สวมบทบาทเป็นเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยคุยกับครอบครัว เพื่อให้โอนเงินให้ลูกได้ไปดูงาน ตอนนี้ครอบครัวเดือดร้อนมาก เพราะต้องส่งลูกเรียนพร้อมกันถึง 3 คน ส่วนลูกชาย ก็ร้องไห้ตลอด จิตใจย่ำแย่ กังวลว่าลูกจะเป็นอะไรไปอีกคน
อีกคน คือ นักศึกษาหญิงคนหนึ่ง ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์ สั่งให้ถือมีดเข้าไปที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ช่วงที่คุยกับตำรวจก็ไม่ค่อยมีสมาธิ ตำรวจบอกว่า เหมือนเขาตั้งใจฟังปลายสายอยู่ ซึ่งต่อมาจึงทราบว่า ปลายสายคือแก๊งคอลเซนเตอร์
ซึ่งคอยสั่งการอยู่ตลอดเวลา เช่น ให้ถือมีดมาแล้วเลื่อนรถเข็นคนพิการที่หน้า สภ. ให้ถือมีดมาที่โต๊ะร้อยเวร
ตำรวจพยายาลเกลี่ยกล่อมให้วางมีด และให้วางสายโทรศัพท์ จนสุดท้ายรู้ว่า ทราบว่าถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอก และคุยโทรศัพท์มา 2 วันแล้ว ซึ่งน้องบอกว่าเหมือนถูกสะกดจิตให้ทำโดยไม่รู้ตัว
ทั้งนี้ข้อมูล พบว่า มิจฉาชีพจะส่งสคริปต์มาให้นักศึกษาพูดกับพ่อแม่ อ้างว่า มหาวิทยาลัยแจ้งมาว่า สอบชิงทุนได้ ให้ไปศึกษาฝึกงานที่สหรัฐอเมริกา และต้องขอสเตทเมนต์ผู้ปกครอง และต้องมียอดเงินในบัญชี เพื่อไปขอวีซ่า
พร้อมกับมีการเก็งคำถามที่พ่อแม่จะถาม ว่าควรตอบอย่างไร เช่น หากถามว่า ทำไมมาแจ้งปุปปับ ก็ให้ตอบไปว่า เพื่อนเพิ่งโทรมาบอก และต้องยื่นข้อมูลให้ทางมหาลัย หรือคำถามว่า ทำไมต้องเป็นเงินเยอะ และหากพ่อแม่มีเงินไม่พอ เป็นต้น
https://ch3plus.com/news/social/ruangden/441098 
นศ.ถือมีดขึ้นโรงพัก อ้างฆ่าคนมา ตร.เอะใจใส่หูฟังตลอด ที่แท้ถูกแก๊งคอลฯบงการ พบวันเดียวเหยื่อนับ 10 ราย
1 ในนั้นคือ ลูกชายของหญิงรายนี้ ที่เป็นนักศึกษาชายชั้นปี 2 ซึ่งถูกหลอกให้โอนเงินไปให้แก๊งคอลเซนเตอร์ 4 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 2 ล้านบาท คุณแม่ เปิดใจทั้งน้ำตาว่า แกงค์คอลเซนเตอร์อ้างเป็นตำรวจ ติดต่อลูกชายมา บอกว่ามีการใช้เบอร์โทรศัพท์ค่ายหนึ่ง ซึ่งนำไปใช้ทำผิดกฏหมาย จึงต้องตรวจสอบให้โอนเงิน เพื่อตรวจสอบทรัพย์สิน
มิจฉาชีพ ออกอุบายให้ลูกหลอกครอบครัวว่า ได้ทุน และต้องรันเงินสเตทเม้นท์ เพื่อไปดูงานต่างประเทศ ซึ่งจะแนบเอกสารปลอมของคณะ และมหาวิทยาลัยมาด้วย จากนั้น มิจฉาชีพอีกคน ก็ที่สวมบทบาทเป็นเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยคุยกับครอบครัว เพื่อให้โอนเงินให้ลูกได้ไปดูงาน ตอนนี้ครอบครัวเดือดร้อนมาก เพราะต้องส่งลูกเรียนพร้อมกันถึง 3 คน ส่วนลูกชาย ก็ร้องไห้ตลอด จิตใจย่ำแย่ กังวลว่าลูกจะเป็นอะไรไปอีกคน
อีกคน คือ นักศึกษาหญิงคนหนึ่ง ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์ สั่งให้ถือมีดเข้าไปที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ช่วงที่คุยกับตำรวจก็ไม่ค่อยมีสมาธิ ตำรวจบอกว่า เหมือนเขาตั้งใจฟังปลายสายอยู่ ซึ่งต่อมาจึงทราบว่า ปลายสายคือแก๊งคอลเซนเตอร์
ซึ่งคอยสั่งการอยู่ตลอดเวลา เช่น ให้ถือมีดมาแล้วเลื่อนรถเข็นคนพิการที่หน้า สภ. ให้ถือมีดมาที่โต๊ะร้อยเวร
ตำรวจพยายาลเกลี่ยกล่อมให้วางมีด และให้วางสายโทรศัพท์ จนสุดท้ายรู้ว่า ทราบว่าถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอก และคุยโทรศัพท์มา 2 วันแล้ว ซึ่งน้องบอกว่าเหมือนถูกสะกดจิตให้ทำโดยไม่รู้ตัว
ทั้งนี้ข้อมูล พบว่า มิจฉาชีพจะส่งสคริปต์มาให้นักศึกษาพูดกับพ่อแม่ อ้างว่า มหาวิทยาลัยแจ้งมาว่า สอบชิงทุนได้ ให้ไปศึกษาฝึกงานที่สหรัฐอเมริกา และต้องขอสเตทเมนต์ผู้ปกครอง และต้องมียอดเงินในบัญชี เพื่อไปขอวีซ่า
พร้อมกับมีการเก็งคำถามที่พ่อแม่จะถาม ว่าควรตอบอย่างไร เช่น หากถามว่า ทำไมมาแจ้งปุปปับ ก็ให้ตอบไปว่า เพื่อนเพิ่งโทรมาบอก และต้องยื่นข้อมูลให้ทางมหาลัย หรือคำถามว่า ทำไมต้องเป็นเงินเยอะ และหากพ่อแม่มีเงินไม่พอ เป็นต้น
https://ch3plus.com/news/social/ruangden/441098