ซินเจียง-อีกประสบการณ์สำหรับที่ต้องเรียนรู้ในวัย 50 กว่าที่จีนอีกครั้ง 15-29 พฤษภาคม 2568

สวัสดีคะ
วันที่นั่งบ่นนี่คือวันที่ 4 มิถุนายน 2568หลังจากเรียกความเหนื่อยที่หายไปจากการเดินทางครั้งนี้ น่าจะเป็นครั้งที่มีข้อมูลในมือน้อยกว่าทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา  ถามว่าพวกเราหาข้อมูลจากไหน ก็ในพันทิปนี้บ้าง เที่ยวจีนบ้าง ประสบการณ์บ้าง ปน ๆ กันไป  สุ่มเอาแบบวัดดวงเอาข้างหน้า เหตุการณ์มันเกินตั้งแต่ได้ตั๋วแอร์เอเซียราคาจับต้องได้แหละ ลงที่เฉิงตู..กดไว้ก่อนโดยไม่รู้เลยว่าต่อจากนั้นพวกเราจะไปไหนต่อ  จนกระทั่งมามาหาข้อมูลอากาศ ลักษณะภูมิประเทศ  และโหวดซินเจียง เอาละได้เรื่องละมันกว้างมากนะจะไปไหนละ แบ่ง  ไม่เอาซินเจียงใต้นะอันนี้คือความเห็นตรงกันกะลุง  แต่ไปแล้วมันต้องมีหรือเปล่า เวลาไม่พอ  ที่เที่ยวไกลกัน  ต้องหาสเต็ปของตัวเองให้ได้  จะไปยังไง  เอาเป็นว่าตั้งแคปชั่นก่อนแล้วกัน  "ทุ่งหญ้าและทะเลทราย"  คือจุดประสงค์ของทริปนี้
อ่า บอกอีกทีว่า  การเที่ยวในเมืองจีนไม่ว่าจะด้วยทัวร์หรือว่าไปเอง  เราต้องเดินมันถึงจะสนุก ทุกที่ที่ไปล้วนต้องเดิน อย่างน้อยๆ ก็ระหว่างจุดของบัสที่จอดเว้นแต่ทัวร์ที่คุณไปเขาเหมารถอุทยานให้แต่ก็นั่นแหละเดินคะหลีกไม่ได้ไม่งั้นก็ไม่เห็นความสวยงาม......ต่อไปมาว่ากันด้วยเรื่องการเตรียมตัวเอง  ยาแพ้ที่สูงเหลือจากคราวที่แล้ว เอาไปด้วย  ยังไม่มีแผนจะใช้แต่เตรียมไปไม่หนักหนาอะไรอุ่นใจมากกว่า    1 เดือนก่อนเดินทาง  ฝึกเดินเป็นประจำคะอย่างน้อย ๆ ก็ช่วยเรืองระบบและจังหวะการหายใจของตัวเอง  ไม่ใช่ว่าเรื่องเดินนานจะเมื่อยจะเหนื่อย เพราะแน่นอนมันเหนื่อยแต่ให้กำลังตัวเองอยู่ตัว  ไม่หักโหม   ต่อไปมาดูแผนการเดินทาง  ตั้งใจจะนั่งรถไฟขึ้นไปเรื่อย--ๆ จากจางเย่-ตุนหวง-------ต่อจากนั้นจะไปไหนก่อนดี เลือกเมืองหลัง ๆ คืออิ้หนิง  ...เอ้าแล้วอุรุมฉีละมันต้องมีหรือเปล่าแต่มันไม่มีไรนะ  มันเป็นเมืองหลวง  ไหนๆก็มาเส้นนี้แล้ว  มันไกลกันเปลืองเวลา คำถามมารัว ๆ ต้องแก้ให้ได้ (มันสนุกอิตรงคิดแผนนี่แหละ  ...เหมือนมีความหวัง มีจะดหมายอะ)  เอาลองดูราคาตั๋วเครื่องบินภานในประเทศเขากันหน่อยเพื่อประหยัดเวลา  มี     เยี่ยม  เอาใหม่แผน เฉิงตู-จางเย่-ตุนหวง-อี้หนิง-อุรุมฉี-เฉิงตู  ตรงไปนจะประหยัดเวลาได้บ้าง  เรื่องรถบัสละ  จะต่อไปยังไง รอบรถที่น้อยนิดของทางสายนี้  รถไฟหรือ  จะทันไหม ต้องคิดว่าจะทำยังไงให้เสียเวลาในการเดินทางน้อยที่สุด.......เมื่อทุกอย่างลงตัวก็รอเวลา  อันไหนไม่มีในแผนก็ด้นสดเอาเด้ออออออ.

วันที่ 15 พฤษภาคม 2568

วันนี้เรามีรอบเดินทางจากเชียงใหม่ บ่ายๆ ไปลงสุวรรณภูมิ  แล้วนั่งบัสฟรีจากสุวรรณภูมิเข้ามาดอนเมือง (โดยสามารถขึ้นบัสได้โดยการโชว์ตั๋วเที่ยวต่อไปให้เขาดู) เวลาเหลือเฟือ....หาซื้ออะไรได้อยู่มาม่า ข้าวต้ม โจ๊ก  และอะไรอีกหลายอย่างที่คาดว่าจะให้ไม่ได้ที่ที่เราจะไป  เพราะต่อไปคือโหลดกระเป๋าได้ (จาก ชม. มาลากกระเป๋าไม่เกิด 7 กก.มา) จากนั้นก็บินหางแดงแหละเที่ยวดึก ๆ  จุดหมายคือเฉิงตู



วันที่ 16 พฤษภาคม 2568
เมื่อลงจากเครื่องด้วยความว่ากลัวผ่าน ตม. คนจะเยอะ  รีบออกมาเลยโดยสุ่มตรวจน้ำลายซะงั้น..คราวนี้ลุงไม่โดนแต่ป้าโดนไม่มีอะไร  น้องที่เดินตามมาก็โดน  ไม่มีปัญหา  กรอกใบ ตม. ปกติ  เพราะเครื่องไม่ดีสักอัน..... สิ่งที่ผิดคาดคือ   คนน้อยถึงน้อยมาก อาจจะดึกไป ไม่นะคราวที่แล้วก็ดึกนี่หน่า  ไม่เจอทัวร์เลย... ตม. ก็ไม่ถามอะไรเลยกดเครื่องแปลไทยสแกนนิ้วเท่านั้น ผ่านคะ.....ไปรับกระเป๋าแล้วก็ไปนอนที่เดิม ๆ  คราวนี้เราจะไม่ออกจากสนามบินจนถึงเที่ยวบินไปซิหนิงตอนสิบโมงด้วยเฉิงตูแอร์ไลล์ หลังจากนั้นก็นั่งรถไปไปจางเย่เพื่อไปพักจางเย่ 2 คืน (อันนี้ดราม่านิดหน่อย.....เริ่มต้นก็ผิดละ  ความจริงตามแผนคือต้องนั่งรถไฟไป  ...ด้วยความเซียนค่อยไปจองตอนลงเครื่อง  ผลที่ได้เต็ม...รถไฟเต็ม  ไม่ว่างเลย  ต้องไปด้วยเครื่องเท่านั้นถึงจะตามแผน ฮื่มๆๆๆๆ) เป็นครั้งแรกที่นั่งเครื่องขนาดเล็ก  มันก็สั่น ๆ และสำคัญมีจอให้ดูว่าเรากำลังบินอยู่บนพายุ  ฮื่ม ๆ เหงื่อมือคือเยอะอะ รีบคะลงเครื่องพยายามเรียกแท๊กซี่เพื่อไปส่งสถานีรถไฟจองแล้วคะ  กลัวประวัติจะซ้ำรอย.....สองวันหนึ่งคืนละยังไม่ถึงไหนสักที่เลย  ค่ำนี้กะจะไม่ไปไหนละของอาบน้ำนอนก่อน  ที่ไหนได้ไม่ค่ำสักที ทุ่มก็แล้ว  ออกไปสำรวจสักหน่อยก็ได้ไหน ๆ ก็มาแล้วนี่นะ









แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่