JJNY : จับโป๊ะ! ฮุนเซน อ้างถ่ายคู่ศาลาตรีมุข│อังคณาชี้‘สมศักดิ์’ วีโต้ไม่มีผล│บรรทัดทอง‘ซบเซาหนัก!’│มัสก์ฟาดร่างกม.ภาษี

จับโป๊ะ! ฮุนเซน อ้างถ่ายคู่ศาลาตรีมุข เคลมเป็นของกัมพูชา ที่แท้ทหารไทยสร้าง
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_9788752
.
.
จับโป๊ะ! ฮุนเซน อ้างถ่ายคู่ศาลาตรีมุข เคลมเป็นของกัมพูชา ที่แท้ทหารไทยเป็นคนสร้าง ใช้ประสานงานทั้ง 3 ประเทศ ไทย-ลาว-เขมร
.
วันที่ 4 มิ.ย.2568 หลังจากที่ สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภา กัมพูชา โพสต์ภาพถ่ายขณะอยู่ที่ศาลาตรีมุข แล้วอ้างว่าศาลาตรีมุขเป็นของกัมพูชานั้น
ผู้สื่อข่าว ข่าวสด ตรวจสอบแล้วพบว่า มีภาพที่เก่ากว่านั้น ซึ่งเป็นภาพการสร้างศาลาตรีมุข และผู้ที่อยู่ในภาพถ่าย เปิดเผยว่า เป็นรูปที่ถ่ายไว้ตอนไปเยี่ยมกำลังพล ร้อย ร.6022 ฉก.ร.6 ขณะกำลังปรับปรุงพื้นที่เพื่อเตรียมพิธีเปิดศาลาตรีมุข เมื่อปี 1991 ที่ช่องบก คือ 2 ปี หลังจาก พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศ เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้าเมื่อกว่า 30 ปี
.
ทางการไทย จึงได้มอบหมายให้ทางทหาร โดยกองทัพภาคที่ 2 สร้างศาลาตรีมุข ตั้งอยู่ที่ ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติ ซึ่งสร้างในสมัยที่ พล.อ.อิสรพงศ์ หนุนภักดี อดีต ผบ.ทบ. ในฐานะเคยเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นพื้นที่บรรจบกันของ 3 ประเทศ คือไทย ลาว และกัมพูชา โดย ตรี คือ 3 ส่วน มุข คือ ด้าน
.
สำหรับ ศาลาตรีมุขแห่งนี้ ได้จัดสร้างขึ้นหลังจากเหตุการณ์ปะทะที่ชายแดนช่องบก ยุตติลงในปี 2530-2531 จากนั้นทั้ง 3 ประเทศได้นัดมาพูดคุยกันที่ บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยพระลานเสือ
.
ขณะนั้น พล.ท.นรินทร์ มุทุกัณฑ์ เตรียมทหาร 11 เป็นอดีต รอง ผบ.ฉก.ร.6 ซึ่งหลังจากทำพิธีเปิดศาลาราตรีมุข ได้มีการพบปะพูดคุยกันอย่างต่อเนื่องตลอดมา ซึ่งทั้ง 3 ประเทศ ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น การแข่งกีฬา ระหว่างทหารที่อยู่ในพื้นที่ เชื่อมสัมพันธ์ไมตรีระหว่าง 3 ประเทศ เทศกาลวันสงกรานต์ และเทศกาลปีใหม่ ก็มีกิจกรรมทำร่วมกัน
.
ทั้งนี้ การสร้างศาลาตรีมุข เป็นการพูดคุยกันแล้วระหว่าง 3 ประเทศในสมัยนั้น ทางประเทศไทยโดยผู้ว่าฯอุบลราชธานี และกองทัพภาคที่2 ฝั่งประเทศลาว โดยผู้ว่าฯแขวงจำปาสัก และทางกัมพูชาคือผู้ว่าฯจังหวัดพระวิหาร ได้มาพูดคุยกัน แต่ไม่ได้ทำเป็นเอกสารลายลักษณ์อักษรไว้ แต่เป็นการ ทำด้วยหัวใจ
.
วัตถุประสงค์เพื่อสร้างไว้ให้กับทางเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ประเทศได้มีการประสานงาน โดยเฉพาะหน่วยกำลังทหารทั้ง 3 ประเทศที่มาปฏิบัติภารกิจอยู่ ณ ปากช่องบก หรือ ในปัจจุบันเรียกว่าช่องบก เป็นรอยต่อทั้ง 3ประเทศ มาอยู่ตรงที่จุดนี้ หากมีปัญหาก็ให้มาคุยกัน ซึ่งพื้นที่ตรงจุดนี้ หากมีการพัฒนาร่วมกันก็จะเป็นประโยชน์สูงสุดของแต่ละประเทศเลยทีเดียว
.
โดยหลังจาก สมเด็จฮุนเซน นำภาพมาโชว์กับชาวกัมพูชาว่า ตนเองได้เข้ามาถ่ายรูป เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2553 แล้วนำมาอ้างสิทธิ์การเป็นเจ้าของดินแดน แล้วมาบอกว่าทหารเขมรอยู่มาตั้งแต่ก่อนปี 2543 แต่ศาลาตรีมุข สร้างมากว่า 30 ปี
.
หลังจากที่ศาลาตรีมุข หรือประชาชนในพื้นที่เรียกว่า ศาลารวมใจ ไทย ลาว กัมพูชา ได้ถูกเผาทำลายเมื่อคืนวันที่ 28 ก.พ.68 โดยทหารกัมพูชา จากนั้นทหารกัมพูชา เข้ายึดพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต จนรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนประเทศไทย ที่ช่องบก
.

.
อังคณา ชี้‘สมศักดิ์’ วีโต้มติแพทยสภา ไม่มีผลต่อการพิจารณาคดี‘ทักษิณ‘ในศาลฎีกา.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9788820
.
อังคณา ชี้‘สมศักดิ์’ วีโต้มติแพทยสภา ไม่มีผลต่อการพิจารณาคดี‘ทักษิณ‘ในศาลฎีกา เชื่อผลการสอบของแพทยสภาจะมีน้ำหนักต่อคดีนี้ ปัดเดาใจศาล 13 มิ.ย.นี้ แค่หวังนำกรณีอื่นเป็นบรรทัดฐาน
.
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2568 ที่รัฐสภา นางอังคณา นีละไพจิตร สว. กล่าวถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ชี้แจงเหตุผลการวีโต้มติแพทยสภา อาจลดทอนน้ำหนักหลักฐานการพิจารณาคดีของศาลฎีกาในวันที่ 13 มิ.ย.นี้หรือไม่ว่า มติของแพทย์สภาไม่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือราชทัณฑ์ มติของแพทยสภานั้น มีหน้าที่กำกับดูแลแพทย์
.
ดังนั้น มติที่ออกมา จึงเป็นการกล่าวถึงการป่วยของนายทักษิณว่าเหมาะสมแล้วหรือไม่ ในการเข้ารักษาแบบพิเศษที่ชั้น 14 จากผู้เชี่ยวชาญ คนที่เคยไปโรงพยาบาลของราชทัณฑ์ ก็จะทราบว่าเป็นโรงพยาบาลที่มีความทันสมัยและสามารถรักษาโรค ซับซ้อนได้
.
นางอังคณา กล่าวต่อว่า หากกรณีของนายทักษิณ ไม่มีความเจ็บป่วยจนถึงขั้นต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ ในการรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ตนมองว่าเรื่องนี้อาจถูกเลือกปฏิบัติต่อนักโทษ หรือผู้ต้องขังรายอื่น หากย้อนกลับไปดูจะพบว่าบางคนใช้เครื่องช่วยหายใจก็มี หรือบางรายเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายออกไปทำครีโมข้างนอกก็กลับเข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์
.
นายทักษิณไม่ได้ป่วยวิกฤต เพราะการป่วยวิกฤต ต้องถึงขั้นที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่สามารถรักษาได้ แต่ปกติแล้วเมื่อโรงพยาบาลราชทัณฑ์ รักษาไม่ได้ ก็ต้องขอให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้ามารักษา นางอังคณา กล่าว
.
นางอังคณา กล่าวต่อว่า การวีโต้กลับของนายสมศักดิ์นั้น ไม่มีผลต่อการพิจารณาของศาลฎีกาในวันที่ 13 มิ.ย. และจริงๆ แล้วนายสมศักดิ์ ไม่ควรวีโต้ เพราะหากไม่เคารพต่อมติของแพทยสภาที่ประกอบด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความอาวุโส ตนมองว่าจะเป็นบรรทัดฐานที่เมื่อมีอะไรแล้วไปฟ้องรัฐมนตรี และรัฐมนตรีวีโต้กลับจะมีแพทยสภาไว้ทำไม ใครจะเป็นผู้กำกับจริยธรรมแพทย์ให้มีมาตรฐานเดียวกัน
.
ที่จริงแล้ว สังคมตั้งคำถาม และข้อสงสัยมานานแล้วว่าคุณทักษิณป่วยจริงไหม เพราะออกจากโรงพยาบาลคุณทักษิณก็ทำกิจกรรมอะไรต่อมิอะไรได้ สิ่งเหล่านี้ควรเปิดเผย เมื่อคุณอ้างสิทธิความเป็นส่วนตัว ที่จะไม่บอกว่าเป็นโรคอะไรแต่ความเป็นบุคคลสาธารณะควรทักษิณควรสละความเป็นส่วนตัวเพื่อประโยชน์สาธารณะด้วย” นางอังคณา กล่าว
.
เมื่อถามว่ามติแพทยสภาที่รอยืนยันกลับในวัน 12 มิ.ย. จะไม่มีผลต่อการพิจารณาของศาลในวันที่ 13 มิ.ย.นี้หรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าไม่มีผล เพราะศาลจะพิจารณาว่านายทักษิณป่วยหนักหรือไม่ และป่วยถึงขนาด ต้องออกมารักษาหรือนอนที่ชั้น 14 ที่ไม่มีใครรู้เลยว่านอนยังไง เพราะนักโทษบางคนหากไม่มีเจ้าหน้าที่คุมตัว บางรายต้องล่ามโซ่ที่ขาติดไว้กับเตียง ส่วนนี้เราไม่ชอบและไม่อยากให้มี
.
เมื่อถามถึงการไต่สวนของศาลฎีกาในวันที่ 13 มิ.ย. นางอังคณา กล่าวว่า ยังเดาใจศาลไม่ได้ แต่เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้จำคุก นายทักษิณได้จำคุกหรืออยู่ในสภาพที่เจ็บป่วย และจำเป็นต้องได้รับการดูแลพิเศษ เช่น ชั้นที่ 14 จริงหรือไม่ มองว่าศาลจะดูในลักษณะเช่นนี้
.
ตนมองว่าการตรวจสอบของแพทยสภา ถูกนำไปใช้เป็นพยานหลักฐานว่า นายทักษิณไม่ได้มีภาวะอาการเจ็บป่วยถึงขั้นเข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ แต่โรงพยาบาลราชทัณฑ์สามารถรักษาได้ คิดว่าศาลจะชั่งน้ำหนักดูเรื่องสัดส่วน และหวังว่าศาลจะพิจารณาโดยนำกรณีอื่นมาพิจารณาเพื่อเป็นบรรทัดฐานว่า ต่อไปเมื่อมีนักโทษท่านอื่นที่ไม่ใช่นายทักษิณ ที่เจ็บป่วยมากและขอรักษาตัวนอกกรมราชทัณฑ์จะเป็นไปได้หรือไม่
.
หากไม่มีภาวะเจ็บป่วยถึงขนาดนั้นตรงนี้ต้องระวัง คนที่เป็นบุคคลสาธารณะ เป็นพ่อนายกฯ เป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน ที่จริงหากนายทักษิณ เปิดเผยว่าเจ็บป่วยอะไรก็คงไม่มีใครสงสัย” นางอังคณา กล่าว
.
เมื่อถามว่าวันที่ 13 มิ.ย.นี้ การเมืองจะเปลี่ยนเลยหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า อาจไม่ถึงจุดหักเหที่จะเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จากที่ควรเปลี่ยนมานานแล้ว เพราะปัญหาจากการบริหารประเทศของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เช่น ปัญหาเรื่องการตัดสินใจ และปัญหารอบด้านทั้งที่กัมพูชา และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่แก้ปัญหาอะไรไม่ได้สักอย่าง ในส่วนนี้นายกฯ ควรพิจารณาด้วยตนเอง
.

.
บรรทัดทอง ‘ซบเซาหนัก!’ รายได้ร้านอาหารทรุด 50% พิษนักท่องเที่ยวจีนหด แถมเจอดราม่าคุณภาพอาหารแย่แต่ราคาสูง
.
ถนนบรรทัดทอง หนึ่งในย่านสตรีทฟู้ดชื่อดังระดับโลกของไทย กำลังเผชิญมรสุมครั้งใหญ่ เมื่อรายได้ของร้านอาหารต่างๆ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ทรุดฮวบลงถึง 40-50%
.
สาเหตุหลักมาจากการลดลงอย่างน่าใจหายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเป็น ‘กำลังซื้อหลัก’ หายไปจากพื้นที่ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อผู้ประกอบการในย่านนี้
.
สิทธิกร วุฒิพรกุล ที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการถนนบรรทัดทอง เปิดเผยกับ Bangkok Post ว่า โดยปกติแล้วนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20-30% ของจำนวนคนที่เดินทางมาในย่านบรรทัดทองต่อวัน และส่วนใหญ่ในจำนวนนี้คือนักท่องเที่ยวชาวจีน
ดังนั้น เมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงอย่างมากจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจในท้องถิ่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
.
ข้อมูลจาก Reuters ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 13.4 ล้านคน ลดลง 1.75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
.
แต่ที่น่าเป็นห่วงคือจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลงถึง 25% เหลือเพียง 1.64 ล้านคน ทั้งที่ก่อนการระบาดของโควิดจีนถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไทย
.
โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุดถึง 11.13 ล้านคนในปี 2019 ปัญหาความกังวลเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบ โดยเฉพาะหลังจากเกิดเหตุกรณีลักพาตัวนักแสดงชาวจีน ชิงชิง เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
.
ถนนบรรทัดทอง ซึ่งมีร้านอาหารมากกว่า 300 ร้าน และเคยได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร Time Out ให้เป็นถนนที่เจ๋งที่สุดอันดับที่ 14 ของโลกในปี 2024 โดยปกติแล้วจะมีผู้มาเยือนระหว่าง 10,000 ถึง 30,000 คนต่อวัน การหดหายไปของนักท่องเที่ยวจึงส่งผลกระทบต่อ ‘ชื่อเสียงที่สั่งสม’ มาอย่างชัดเจน
นอกจากปัญหานักท่องเที่ยวลดลงแล้ว ถนนบรรทัดทองยังต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์บนโซเชียลมีเดีย โดยนักท่องเที่ยวบางส่วนร้องเรียนว่าคุณภาพอาหารแย่ลงในขณะที่ราคาสูงขึ้น
.
อ้างอิง:
.
.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่