เรื่องของเรื่อง เริ่มจากวันหยุดยาวในเดือนมิถุนายน 2568 เช้าวันที่ 4 วันสุดท้ายของการ หยุดยาวในเดือนนี้ เราตื่นนอนมาประมาณตีสาม กว่าๆ เราเจอแมวส้มมาร้องเรียกหน้าห้องน้ำ ซึ่งเราก็คิดว่าแมวตัวนั้นคือเจ้าโชค แมวที่เราให้อาหารเค้ากินทุกวัน เราก็เทอาหารให้เค้าตามปกติแต่เค้าไป
ดมๆ แล้วก็มองหน้าเรา กินอาหารได้เม็ดสองเม็ด แต่เราก็มีความรู้สึกว่าทำไมไม่กินข้าว แล้วทำไมตัวถึงผอมขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อวานก็นอนอยู่ที่บ้านทั้งวัน แล้วก็ยังกินอาหารทั้งวันด้วย แล้วก็ออกไปตอนเย็นเรายังบอกเลยว่าจะออกไปทำไมฝนตกอยู่ ซึ่งเค้าก็หันมามองแล้วร้องม๊าวว แล้วก็เดินออกไป
แค่คืนเดียวทำไมผอม น้ำมูก น้ำลายไหล เนื้อตัวมอมแมมขนาดนี้
พอประมาณ 7 โมงเช้า เราไปเรียก พ่อ เราให้มาช่วยดูว่าใช่ โชค ไหม พ่อเรายืนยันว่าทำไมจะไม่ใช่ พ่อบอกเห็นนอนอยู่ในครัว 2 คืนแล้ว เราก็ยังบอกกับพ่อว่าทำไมตัวเล็กจัง เมื่อวานยังตัวใหญ่อยู่เลยแต่พ่อก็ยังยืนยันว่าใช่อยู่ดี แต่เราก็รู้สึกว่ามันแปลกแค่คืนเดียวทำไมเปลี่ยนเป็นแมวคนละตัวได้ ถึงขนาดนี้ แล้วตัวนี้ก็ยังตามติดเราแจ พยายามนั่งตัก เอาขาหน้าสองข้างกอดแขนเรา มาซุกที่ตัก น้ำลาย น้ำมูก ก็ไหลตลอดเวลา ในใจเราก็คิดว่าทำไมอ้อนจัง ทั้งๆ ที่ ปกติจะเข้าใกล้ไม่ค่อยได้เค้าจะขู่เราตลอด หรือเป็นเพราะไม่สบาย เขาคงเป็นหวัดแมว แล้วทำไมแค่คืนเดียวอาการแย่ขนาดนี้เลยเหรอ ยังไงก็ต้องพาไปหาหมอ เราพยายามหาข้อมูลว่ามีคลินิกไหนที่เปิดแล้วบ้าง ถ้าจะให้ไปโรงพยาบาลสัตว์ค่าใช้จ่ายคงแพงแน่ๆ ถ้าแพงมากเดี๋ยวเราไม่มีเงินจ่าย
ค่ารักษา ก็พยายามหาข้อมูลว่าพอจะมีที่ไหนรักษาแล้วอยู่ในงบที่เราพอจ่ายไหว จนไปเจอกับคลินิกรักษาสัตว์ที่อยู่ข้างๆ รพ.สินแพทย์ เราเลยตัดสินใจโทรหาคุณหมอเล่าอาการคร่าวๆ ให้ฟัง จากนั้นก็เอาเค้าใส่ตระกร้าซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์จากบ้านไปหาคุณหมอ ซึ่งโชคดีเค้านิ่งมากไม่ดิ้นเลย (หรือไม่มีแรงดิ้น
ก็ไม่รู้) เหมือนรู้ว่าเรากำลังช่วยเค้า
พอไปถึงคลินิกคุณหมอบอกว่าเค้าแก่แล้ว ไม่มีฟันเหลือเลยซักซี่ ที่นี้เราก็ เอะ! ไม่มีฟัน ฟันหายไปไหน หรือว่าเค้าไปไล่กวดแมวคนอื่น แล้วเจ้าของโมโหเอาไม้ตีจนฟันร่วงทั้งปากหรือเปล่า (ก็คิดไปเรื่อย) เพราะปกติเขาค่อนข้างเกเร ชอบไล่กวดแมวคนอื่นไปทั่ว (ขนาดมากินอาหารที่บ้านทุกวันยัง กวดเจ้าของบ้าน (แมวเรา) ต้องคอยนั่งขนาบกันทุกวัน) ซึ่งคุณหมอดูอาการแล้วก็บอกว่าเค้าอาการหนักน้ำมูกเป็นสีเขียวแล้ว คงลงปอดแล้วด้วย จากนั้น คุณหมอก็ป้อนยาพร้อมกับฉีดยามาให้ แล้วบอกว่าให้พามาฉีดยา อีก 2 วัน ขากลับเราแวะซื้ออาหารเปียกให้ พอถึงบ้านก็เอาอาหารเปียกให้เค้ากินปรากฏว่าเค้ากินเกือบหมดกระป๋องคงหิวมาก พอกินเสร็จเราก็เอากระดาษเปียกเช็ดเนื้อเช็ดตัวที่มอมแมมออกบ้าง (ซึ่งคุณหมอแนะนำว่าให้สวมถุงมือทุกครั้งเวลาจับตัวเค้า) แล้วก็ปูผ้าให้เค้านอน
พอตอนเย็นประมาณ 17.30 น. ก็เกิดปาฎิหาริย์แมวแยกร่าง โชค ตัวจริงมากินข้าว อ้าว! ที่นี้ หันไปมองแมวส้มตัวนั้นที่นอนอยู่ สรุป แกร คือใคร? มาจากไหน? แล้วรู้จักฉันได้อย่างไร? ก็เลยเกิดการเช็คหารูปพรรณอันเป็นอัตลักษณ์ส่วนบุคคลทำให้ได้ข้อมูลว่า หน้าตา ทุกอย่างเหมือนกันทุกอย่าง ผิดกันตรงที่ลายของหาง โชค มีหางสีส้มสลับขาว แต่แมวส้มต้วนั้นมีหางสีส้มสลับน้ำตาล... ก็ในเมื่อโชคชะตาลิขิตให้เจอกันเราแล้วเราก็จะเดินหน้ารักษาเค้าต่อแล้วก็หวังว่าเค้าจะหายจากอาการป่วย ถ้าเค้าหายเราก็จะเลี้ยงเค้าต่อไป เค้าคงไม่มีที่ไปแล้วหล่ะ และนี่ก็คือที่มาของ ชื่อ ปู่ coyp ก็เล่น copy สะจนจำผิดกันขนาดนี้ ^-^
ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอ่านเรื่องราวของ ปู่ copy ถ้าเพื่อนๆ รู้จักคลินิกที่ราคาไม่แพงมากบอกเราด้วยนะ เพราะถ้าเค้าหายเราจะตพาเค้าไปตรวจสุขภาพ เราอยากให้เค้ามีความสุขในช่วงปลายชีวิตของเค้า ถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่คนร่ำรวย แต่เราจะดูแล ปู่ copy ให้ดีที่สุด
เรื่องเล่าของ ปู่ copy
ดมๆ แล้วก็มองหน้าเรา กินอาหารได้เม็ดสองเม็ด แต่เราก็มีความรู้สึกว่าทำไมไม่กินข้าว แล้วทำไมตัวถึงผอมขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อวานก็นอนอยู่ที่บ้านทั้งวัน แล้วก็ยังกินอาหารทั้งวันด้วย แล้วก็ออกไปตอนเย็นเรายังบอกเลยว่าจะออกไปทำไมฝนตกอยู่ ซึ่งเค้าก็หันมามองแล้วร้องม๊าวว แล้วก็เดินออกไป
แค่คืนเดียวทำไมผอม น้ำมูก น้ำลายไหล เนื้อตัวมอมแมมขนาดนี้
พอประมาณ 7 โมงเช้า เราไปเรียก พ่อ เราให้มาช่วยดูว่าใช่ โชค ไหม พ่อเรายืนยันว่าทำไมจะไม่ใช่ พ่อบอกเห็นนอนอยู่ในครัว 2 คืนแล้ว เราก็ยังบอกกับพ่อว่าทำไมตัวเล็กจัง เมื่อวานยังตัวใหญ่อยู่เลยแต่พ่อก็ยังยืนยันว่าใช่อยู่ดี แต่เราก็รู้สึกว่ามันแปลกแค่คืนเดียวทำไมเปลี่ยนเป็นแมวคนละตัวได้ ถึงขนาดนี้ แล้วตัวนี้ก็ยังตามติดเราแจ พยายามนั่งตัก เอาขาหน้าสองข้างกอดแขนเรา มาซุกที่ตัก น้ำลาย น้ำมูก ก็ไหลตลอดเวลา ในใจเราก็คิดว่าทำไมอ้อนจัง ทั้งๆ ที่ ปกติจะเข้าใกล้ไม่ค่อยได้เค้าจะขู่เราตลอด หรือเป็นเพราะไม่สบาย เขาคงเป็นหวัดแมว แล้วทำไมแค่คืนเดียวอาการแย่ขนาดนี้เลยเหรอ ยังไงก็ต้องพาไปหาหมอ เราพยายามหาข้อมูลว่ามีคลินิกไหนที่เปิดแล้วบ้าง ถ้าจะให้ไปโรงพยาบาลสัตว์ค่าใช้จ่ายคงแพงแน่ๆ ถ้าแพงมากเดี๋ยวเราไม่มีเงินจ่าย
ค่ารักษา ก็พยายามหาข้อมูลว่าพอจะมีที่ไหนรักษาแล้วอยู่ในงบที่เราพอจ่ายไหว จนไปเจอกับคลินิกรักษาสัตว์ที่อยู่ข้างๆ รพ.สินแพทย์ เราเลยตัดสินใจโทรหาคุณหมอเล่าอาการคร่าวๆ ให้ฟัง จากนั้นก็เอาเค้าใส่ตระกร้าซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์จากบ้านไปหาคุณหมอ ซึ่งโชคดีเค้านิ่งมากไม่ดิ้นเลย (หรือไม่มีแรงดิ้น
ก็ไม่รู้) เหมือนรู้ว่าเรากำลังช่วยเค้า
พอไปถึงคลินิกคุณหมอบอกว่าเค้าแก่แล้ว ไม่มีฟันเหลือเลยซักซี่ ที่นี้เราก็ เอะ! ไม่มีฟัน ฟันหายไปไหน หรือว่าเค้าไปไล่กวดแมวคนอื่น แล้วเจ้าของโมโหเอาไม้ตีจนฟันร่วงทั้งปากหรือเปล่า (ก็คิดไปเรื่อย) เพราะปกติเขาค่อนข้างเกเร ชอบไล่กวดแมวคนอื่นไปทั่ว (ขนาดมากินอาหารที่บ้านทุกวันยัง กวดเจ้าของบ้าน (แมวเรา) ต้องคอยนั่งขนาบกันทุกวัน) ซึ่งคุณหมอดูอาการแล้วก็บอกว่าเค้าอาการหนักน้ำมูกเป็นสีเขียวแล้ว คงลงปอดแล้วด้วย จากนั้น คุณหมอก็ป้อนยาพร้อมกับฉีดยามาให้ แล้วบอกว่าให้พามาฉีดยา อีก 2 วัน ขากลับเราแวะซื้ออาหารเปียกให้ พอถึงบ้านก็เอาอาหารเปียกให้เค้ากินปรากฏว่าเค้ากินเกือบหมดกระป๋องคงหิวมาก พอกินเสร็จเราก็เอากระดาษเปียกเช็ดเนื้อเช็ดตัวที่มอมแมมออกบ้าง (ซึ่งคุณหมอแนะนำว่าให้สวมถุงมือทุกครั้งเวลาจับตัวเค้า) แล้วก็ปูผ้าให้เค้านอน
พอตอนเย็นประมาณ 17.30 น. ก็เกิดปาฎิหาริย์แมวแยกร่าง โชค ตัวจริงมากินข้าว อ้าว! ที่นี้ หันไปมองแมวส้มตัวนั้นที่นอนอยู่ สรุป แกร คือใคร? มาจากไหน? แล้วรู้จักฉันได้อย่างไร? ก็เลยเกิดการเช็คหารูปพรรณอันเป็นอัตลักษณ์ส่วนบุคคลทำให้ได้ข้อมูลว่า หน้าตา ทุกอย่างเหมือนกันทุกอย่าง ผิดกันตรงที่ลายของหาง โชค มีหางสีส้มสลับขาว แต่แมวส้มต้วนั้นมีหางสีส้มสลับน้ำตาล... ก็ในเมื่อโชคชะตาลิขิตให้เจอกันเราแล้วเราก็จะเดินหน้ารักษาเค้าต่อแล้วก็หวังว่าเค้าจะหายจากอาการป่วย ถ้าเค้าหายเราก็จะเลี้ยงเค้าต่อไป เค้าคงไม่มีที่ไปแล้วหล่ะ และนี่ก็คือที่มาของ ชื่อ ปู่ coyp ก็เล่น copy สะจนจำผิดกันขนาดนี้ ^-^
ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอ่านเรื่องราวของ ปู่ copy ถ้าเพื่อนๆ รู้จักคลินิกที่ราคาไม่แพงมากบอกเราด้วยนะ เพราะถ้าเค้าหายเราจะตพาเค้าไปตรวจสุขภาพ เราอยากให้เค้ามีความสุขในช่วงปลายชีวิตของเค้า ถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่คนร่ำรวย แต่เราจะดูแล ปู่ copy ให้ดีที่สุด