ตามหัวข้อกระทู้เลยครับ วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับ ETF ที่สามารถเข้าเทรดในแพลตฟอร์มการลงทุนทั่วไปได้แล้ว
แต่ก่อนจะไปรู้จักวิธีการลงทุนผมขออธิบายก่อนว่า ETF คืออะไร?
ETF (Exchange Traded Fund) คือ กองทุนรวมที่สามารถซื้อขายได้เหมือนหุ้นบนตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งแต่ละกองจะอ้างอิงกับดัชนีหรือสินทรัพย์ เช่น:
ดัชนี S&P500 Nasdaq-100 หุ้นเทคโนโลยี ทองคำ น้ำมัน หรือพลังงานสะอาด ซึ่งต่างจากหุ้นตรงที่ ETF ไม่ได้ลงทุนในบริษัทเดียว แต่ลงทุนใน กลุ่มของหุ้น / สินทรัพย์หลายตัวรวมกัน เช่น
ซึ่งจุดเด่นของ ETF คือการ “กระจายความเสี่ยง” ด้วยต้นทุนต่ำ แต่ยังสามารถเกาะเทรนด์การเติบโตของสินทรัพย์ทั่วโลกได้
ทำไม ETF ถึงน่าสนใจ?
1. กระจายความเสี่ยง
ซื้อ ETF ตัวเดียว = ลงทุนในหุ้นหลายตัวพร้อมกัน เช่น SPY คือการลงทุนในหุ้นใหญ่ทั้งตลาดสหรัฐ
ถ้าหุ้นบางตัวตก ก็มีหุ้นตัวอื่นมาช่วยพยุง
2. ต้นทุนต่ำกว่ากองทุนรวมทั่วไป
ETF ไม่มีค่าธรรมเนียมการบริหารแบบแพง ๆ (บางกองทุนเรียกค่าธรรมเนียม 1-2% ต่อปี)
ETF ส่วนใหญ่มีค่าบริหารแค่ 0.1 - 0.5% เท่านั้น
3. ซื้อขายได้ตลอดเวลาตลาดเปิด เหมือนหุ้น
ต่างจากกองทุนรวมที่ซื้อขายได้วันละครั้ง
ETF ซื้อได้ทั้งวัน ตั้ง Stop loss หรือ Take profit ได้เหมือนหุ้นปกติ
เหมาะกับนักเทรดที่อยากบริหารความเสี่ยงแบบ Active
4. เข้าถึงการลงทุนระดับโลกง่าย ๆ
อยากลงทุนในหุ้นสหรัฐ หุ้นจีน หุ้นเวียดนาม ทองคำ น้ำมัน ฯลฯ
ไม่ต้องเปิดพอร์ตต่างประเทศ แค่เทรด ETF ก็ได้แล้ว!
5. หมาะกับมือใหม่มาก
ไม่ต้องวิเคราะห์หุ้นรายตัวให้ปวดหัว แค่เลือก "ธีมหรือกลุ่มที่คุณเชื่อมั่น" แล้วซื้อ ETF นั้นไว้ เช่น เชื่อว่าพลังงานสะอาดจะโต ก็เลือก ETF กลุ่ม Clean Energy ไม่ต้องกังวลเรื่องการเลือกหุ้นผิดตัว
ซึ่งหากเพื่อนๆ อยากเทรด จำเป็นต้องเทรดผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศเท่านั้น
ที่ผมเห็นมีให้บริการ มีแค่ โบรกเกอร์ EBC eToro ที่น่าสนใจและน่าเชื่อถือ
และส่วนตัวผมเลือกใช้ EBC เพราะ
1.มีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดหลายกลุ่มอุตสาหกรรม
2.ไม่เสียค่าธรรมเนียม
3.ใช้ leverage ได้ 5:1
เทรด ETF เหมาะกับใคร?
-มือใหม่ที่ยังไม่กล้าลงทุนหุ้นรายตัว
-เทรดเดอร์ที่อยากกระจายพอร์ต และไม่ชอบความเสี่ยงสูง
-นักลงทุนที่ต้องการเกาะเทรนด์ตลาดโลก หรือลงทุนระยะยาว
-คนที่ไม่มีเวลาเฝ้าตลาด
สรุป
ผลิตภัณฑ์ ETF เป็นผลิตภัณฑ์ตัวเลือกการลงทุนที่ยืดหยุ่น สามารถให้นักลงทุนเข้ากระจายสินทรัพย์ได้ นอกจากนี้ค่าธรรมเนียมยังต่ำกว่ากองทุน ETF ทั่วไป เพราะฉะนั้นคุณสามารถทำกำไรได้มากกว่าด้วยเงินทุนที่ต่ำ
*บทความนี้เป็นการให้ความรู้เท่านั้น ไม่ถือเป็นการเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด นอกจากนี้การลงทุนต่างๆ มีความเสี่ยงทั้งสิ้น ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนการลงทุน
ใครอยากเทรด ETF ด้วยเงินทุนต่ำ ฟังทางนี้！
แต่ก่อนจะไปรู้จักวิธีการลงทุนผมขออธิบายก่อนว่า ETF คืออะไร?
ETF (Exchange Traded Fund) คือ กองทุนรวมที่สามารถซื้อขายได้เหมือนหุ้นบนตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งแต่ละกองจะอ้างอิงกับดัชนีหรือสินทรัพย์ เช่น:
ดัชนี S&P500 Nasdaq-100 หุ้นเทคโนโลยี ทองคำ น้ำมัน หรือพลังงานสะอาด ซึ่งต่างจากหุ้นตรงที่ ETF ไม่ได้ลงทุนในบริษัทเดียว แต่ลงทุนใน กลุ่มของหุ้น / สินทรัพย์หลายตัวรวมกัน เช่น
ซึ่งจุดเด่นของ ETF คือการ “กระจายความเสี่ยง” ด้วยต้นทุนต่ำ แต่ยังสามารถเกาะเทรนด์การเติบโตของสินทรัพย์ทั่วโลกได้
ทำไม ETF ถึงน่าสนใจ?
1. กระจายความเสี่ยง
ซื้อ ETF ตัวเดียว = ลงทุนในหุ้นหลายตัวพร้อมกัน เช่น SPY คือการลงทุนในหุ้นใหญ่ทั้งตลาดสหรัฐ
ถ้าหุ้นบางตัวตก ก็มีหุ้นตัวอื่นมาช่วยพยุง
2. ต้นทุนต่ำกว่ากองทุนรวมทั่วไป
ETF ไม่มีค่าธรรมเนียมการบริหารแบบแพง ๆ (บางกองทุนเรียกค่าธรรมเนียม 1-2% ต่อปี)
ETF ส่วนใหญ่มีค่าบริหารแค่ 0.1 - 0.5% เท่านั้น
3. ซื้อขายได้ตลอดเวลาตลาดเปิด เหมือนหุ้น
ต่างจากกองทุนรวมที่ซื้อขายได้วันละครั้ง
ETF ซื้อได้ทั้งวัน ตั้ง Stop loss หรือ Take profit ได้เหมือนหุ้นปกติ
เหมาะกับนักเทรดที่อยากบริหารความเสี่ยงแบบ Active
4. เข้าถึงการลงทุนระดับโลกง่าย ๆ
อยากลงทุนในหุ้นสหรัฐ หุ้นจีน หุ้นเวียดนาม ทองคำ น้ำมัน ฯลฯ
ไม่ต้องเปิดพอร์ตต่างประเทศ แค่เทรด ETF ก็ได้แล้ว!
5. หมาะกับมือใหม่มาก
ไม่ต้องวิเคราะห์หุ้นรายตัวให้ปวดหัว แค่เลือก "ธีมหรือกลุ่มที่คุณเชื่อมั่น" แล้วซื้อ ETF นั้นไว้ เช่น เชื่อว่าพลังงานสะอาดจะโต ก็เลือก ETF กลุ่ม Clean Energy ไม่ต้องกังวลเรื่องการเลือกหุ้นผิดตัว
ซึ่งหากเพื่อนๆ อยากเทรด จำเป็นต้องเทรดผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศเท่านั้น
ที่ผมเห็นมีให้บริการ มีแค่ โบรกเกอร์ EBC eToro ที่น่าสนใจและน่าเชื่อถือ
และส่วนตัวผมเลือกใช้ EBC เพราะ
1.มีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดหลายกลุ่มอุตสาหกรรม
2.ไม่เสียค่าธรรมเนียม
3.ใช้ leverage ได้ 5:1
เทรด ETF เหมาะกับใคร?
-มือใหม่ที่ยังไม่กล้าลงทุนหุ้นรายตัว
-เทรดเดอร์ที่อยากกระจายพอร์ต และไม่ชอบความเสี่ยงสูง
-นักลงทุนที่ต้องการเกาะเทรนด์ตลาดโลก หรือลงทุนระยะยาว
-คนที่ไม่มีเวลาเฝ้าตลาด
สรุป
ผลิตภัณฑ์ ETF เป็นผลิตภัณฑ์ตัวเลือกการลงทุนที่ยืดหยุ่น สามารถให้นักลงทุนเข้ากระจายสินทรัพย์ได้ นอกจากนี้ค่าธรรมเนียมยังต่ำกว่ากองทุน ETF ทั่วไป เพราะฉะนั้นคุณสามารถทำกำไรได้มากกว่าด้วยเงินทุนที่ต่ำ
*บทความนี้เป็นการให้ความรู้เท่านั้น ไม่ถือเป็นการเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด นอกจากนี้การลงทุนต่างๆ มีความเสี่ยงทั้งสิ้น ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนการลงทุน