สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาว Pantip! ผมเชื่อว่าหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมบางกระทู้ถึงได้ขึ้นหน้าแรก Google หรือทำไมบางกระทู้ถึงมีคนอ่านเยอะกว่าปกติ แถมบางคนยังเอาไปต่อยอดสร้างรายได้จาก AdSense ได้อีก วันนี้ผมเลยอยากจะมาแชร์เคล็ดลับง่าย ๆ จากประสบการณ์ตรงที่ผมนั่งเขียนกระทู้ลง Pantip ทุกวัน (เยอะบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ฟีล)
ว่าอะไรคือสิ่งที่เราควรใส่ใจ เพื่อให้กระทู้ของเรา "ถูกใจ" ทั้ง
Google Bot และมีโอกาสสร้างรายได้ครับ
และสำหรับใครที่มี
"แต้มบุญ" หรือฐานเดิมจากที่เป็นสมาชิก Pantip มานานร่วม 10 ปี เหมือนผมเนี่ย ยิ่งได้เปรียบนะครับ! ใครจะรู้ อีก 10 ปีข้างหน้า
กระทู้ที่เราปั้นวันนี้อาจจะพอได้ค่ากาแฟ (หรือมากกว่านั้น) เยอะกว่าที่คิดก็ได้ มาดูกันเลยครับ!
แก่นแท้ 3 ข้อ: สร้างเนื้อหาที่ Google Bot และ AdSense รัก
หัวใจสำคัญของการเขียนกระทู้ Pantip ที่จะประสบความสำเร็จคือ "เนื้อหา" ครับ ต้องเป็นเนื้อหาที่ตอบโจทย์ทั้งคนอ่าน และ Algorithm ของ Google
1. เลือก "Niche" ที่มีค่าคลิกโฆษณาสูง (High CPC Niches)
ตรงนี้สำคัญมากครับ ถ้าเราอยากให้กระทู้มีโอกาสสร้างรายได้จาก AdSense ในอนาคต (ในกรณีที่เรานำไปต่อยอดบนเว็บไซต์ส่วนตัว หรือมีคนนำไปอ้างอิง) หรือแม้แต่ดึงดูดโฆษณาที่เกี่ยวข้องให้ปรากฏในหน้ากระทู้ของเราบน Pantip (ซึ่งอาจจะส่งผลอ้อม ๆ ต่อ Traffic) เราต้องเลือกหัวข้อที่มีผู้ลงโฆษณายินดีจ่ายแพง เพราะนั่นหมายถึงว่าหัวข้อนั้นมีมูลค่าทางธุรกิจสูง ลองดูหมวดหมู่เหล่านี้เป็นไอเดียครับ:
- การเงินและการลงทุน: ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเกษียณ, เทคนิคการออม, การเปรียบเทียบกองทุน, หุ้น หรือคริปโตฯ เรื่องพวกนี้ผู้ลงโฆษณา (Advertiser) ยินดีจ่ายสูงมากครับ
- สุขภาพและความงาม: อาหารเสริมเฉพาะทาง, วิธีลดน้ำหนักแบบยั่งยืน, รีวิวอุปกรณ์ออกกำลังกาย หรือแม้แต่เทคนิคดูแลผิว (แต่กลุ่มนี้ Google เน้นเรื่อง
ความน่าเชื่อถือสูงมาก หรือ E-E-A-T ต้องแน่นปึ้ก!)
- เทคโนโลยีและ Gadget: รีวิวสมาร์ตโฟนใหม่ ๆ, ซอฟต์แวร์เด็ด ๆ, คู่มือการใช้งานแอปฯ หรือเคล็ดลับคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ยังไงก็เป็นที่ต้องการเสมอ
- การตลาดดิจิทัล: พวกเทคนิค SEO ใหม่ล่าสุด, การทำโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย, การสร้างแบรนด์ออนไลน์ หรือการตลาดออนไลน์ประเภทอื่น ๆ กลุ่มนี้ก็ CPC สูงไม่แพ้กัน
- อสังหาริมทรัพย์: คู่มือการซื้อ-ขายบ้าน, การลงทุนคอนโด หรือการขอสินเชื่อบ้าน
การเลือกหัวข้อที่ใช่ จะช่วยเพิ่มโอกาสที่โฆษณาที่เกี่ยวข้องจะปรากฏ และดึงดูด Traffic ที่มีคุณภาพเข้ามาอ่านกระทู้เราครับ
2. เน้น "Evergreen Content" (เนื้อหาอมตะ)
Google Bot รักเนื้อหาที่มีคุณค่าและเป็นที่ต้องการของผู้ใช้ไปได้นาน ๆ ไม่ใช่แค่กระแสฉาบฉวย การสร้าง
Evergreen Content จะทำให้กระทู้ของเรามีคนเข้าชมอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องมาคอยปั่นบ่อย ๆ ลองดูตัวอย่างเนื้อหาประเภทนี้ที่น่าสนใจครับ:
"คู่มือเริ่มต้นลงทุนหุ้นสำหรับมือใหม่ฉบับเข้าใจง่าย"
"วิธีเลือกซื้อสมาร์ตโฟนที่คุ้มค่าที่สุดในปี 2025" (ปรับปีให้เป็นปัจจุบัน)
"ประโยชน์ของโยคะต่อสุขภาพกายและใจที่หลายคนมองข้าม"
"ขั้นตอนการขอสินเชื่อบ้านให้ผ่านฉลุย: เตรียมตัวยังไงไม่ให้พลาด"
"เทคนิค SEO พื้นฐานที่นักการตลาดออนไลน์ควรรู้ในปีนี้" (ปรับปีให้เป็นปัจจุบัน)
กระทู้พวกนี้จะยังคงถูกค้นหาไปอีกนาน ทำให้กระทู้เรามี Traffic สม่ำเสมอครับ
3. สร้างเนื้อหาแบบ "Problem-Solving" (แก้ปัญหาให้ผู้อ่าน)
คนส่วนใหญ่เวลาเข้า Google ก็เพื่อหาทางแก้ปัญหา หรือหาคำตอบบางอย่าง ถ้ากระทู้ของเราสามารถตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้ดี จะดึงดูดผู้เข้าชมที่มีคุณภาพเข้ามาเยอะ และมีแนวโน้มที่เขาจะอ่านกระทู้เราจนจบ แถมบางทีก็กดเข้าลิงก์ที่เราแนะนำ หรือไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตัวเอง ลองนึกถึงปัญหาที่คนมักค้นหาคำตอบครับ:
"ทำไมคอมพิวเตอร์ถึงช้า? รวมวิธีแก้ไขแบบง่าย ๆ ที่คุณทำเองได้"
"อาการปวดหลังเรื้อรัง: เกิดจากอะไร? พร้อมวิธีรักษาและป้องกัน"
"อยากลดน้ำหนักแบบไม่ต้องอดอาหาร: 5 เคล็ดลับง่าย ๆ ที่เห็นผลจริง"
"วิธีการจัดระเบียบการเงินส่วนบุคคล: วางแผนยังไงให้มีเงินเก็บ?"
ทำกระทู้ให้ Google Bot ประทับใจ: เคล็ดลับ On-Page SEO แบบ Pantip
นอกจากการเลือกหัวข้อดีแล้ว วิธีการนำเสนอเนื้อหาก็สำคัญไม่แพ้กันครับ เพื่อให้ Google Bot รักและจัดอันดับกระทู้เราให้สูงขึ้น (จนคนค้นหาเจอจาก Google) เราต้องใส่ใจเรื่อง On-Page SEO บน Pantip ด้วยนะ:
- เนื้อหาต้องละเอียดและครบถ้วน: Google ชอบบทความที่ให้ข้อมูลลึกซึ้ง ครอบคลุมทุกแง่มุม ไม่ใช่แค่ผิวเผิน เขียนให้จบในเรื่องนั้น ๆ ไปเลยจะดีกว่า
- โครงสร้างเนื้อหาต้องดี อ่านง่าย: ใช้
หัวข้อรอง (Pantip ไม่มี H1, H2 แต่เราสามารถใช้การทำตัวหนาและย่อหน้าขึ้นบรรทัดใหม่ เพื่อแยกหัวข้อให้ชัดเจน) แบ่งย่อหน้าให้ชัดเจน, ใช้
ลิสต์ (bullet points),
ตัวหนา เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย และ Google Bot ก็จะเข้าใจโครงสร้างเนื้อหาของเราได้ดีขึ้นด้วย
- Keyword Research ต้องแม่นยำ: ลองคิดว่าคนจะค้นหาเรื่องนี้ด้วยคำว่าอะไรบ้าง ใช้คำเหล่านั้นผสมผสานในชื่อกระทู้ และเนื้อหาให้เป็นธรรมชาติ (ไม่ใช่ยัดคีย์เวิร์ดเยอะ ๆ)
- ใส่ใจ On-Page SEO แบบ Pantip:
- ชื่อกระทู้: ตั้งชื่อกระทู้ให้ดึงดูด น่าสนใจ มีคีย์เวิร์ดหลักที่เกี่ยวข้อง และกระตุ้นให้คนอยากคลิก (คล้าย
Title Tag บนเว็บไซต์)
- ย่อหน้าแรก: เขียนสรุปใจความสำคัญของกระทู้ในย่อหน้าแรก ๆ เพื่อให้ Google Bot เข้าใจเนื้อหาโดยรวม (คล้าย
Meta Description)
- ใช้รูปภาพประกอบ: ใส่รูปภาพที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ และอย่าลืมใส่คำอธิบายภาพในเนื้อหาใกล้ ๆ รูปด้วย เพื่อช่วยให้ Google Bot เข้าใจภาพ (คล้าย
Alt Text)
- ลิงก์ภายใน Pantip (Internal Linking): ถ้ามีกระทู้เก่าที่เราเขียนแล้วเกี่ยวข้อง สามารถใส่ลิงก์ของกระทู้นั้น ๆ ได้ เพื่อช่วยให้ Google Bot คลานหน้าต่าง ๆ บน Pantip ได้ดีขึ้น และทำให้ผู้ใช้อยู่ใน Pantip นานขึ้น
- สร้างความน่าเชื่อถือ (E-E-A-T): Google ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของผู้เขียนและเนื้อหา โดยเฉพาะในหมวดหมู่ที่เกี่ยวกับเงิน ๆ ทอง ๆ และสุขภาพ (Your Money Your Life - YMYL) ถ้าเรามีประสบการณ์ตรง, เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ เขียนด้วยภาษาที่น่าเชื่อถือ จะยิ่งทำให้กระทู้ของเราน่าเชื่อถือในสายตา Google ครับ
- ประสบการณ์ผู้ใช้ต้องมาก่อน: Google Bot ฉลาดพอที่จะประเมินว่าผู้ใช้ชอบกระทู้เราแค่ไหน หากคนอ่านอยู่ในกระทู้นาน, มีการตอบคอมเมนต์, หรือมีการกดบวก นั่นคือสัญญาณที่ดีมากครับ
ข้อควรจำ: เล่นตามกฎ Pantip และ Google
สิ่งสำคัญที่สุดคือการปฏิบัติตาม กฎของ Pantip และ นโยบายของ Google AdSense (ถ้าเราจะนำไปต่อยอด) อย่างเคร่งครัดครับ:
- อย่าเน้นโฆษณามากเกินไป: ใน Pantip เนื้อหาต้องเป็นพระเอกเสมอ การแปะลิงก์หรือรูปภาพขายของเยอะเกินไป จะทำให้กระทู้โดนลบ หรือคนอ่านรำคาญได้
- เนื้อหาต้องมีคุณภาพ: การเขียนกระทู้แบบลวก ๆ เพียงเพื่ออยากให้มีบทความเยอะ ๆ ไม่ได้ช่วยอะไรในระยะยาวครับ แถม Google Bot อาจจะมองว่าเป็นเนื้อหาคุณภาพต่ำด้วย
- ห้ามคลิกโฆษณาตัวเอง: นี่คือกฎเหล็ก! ห้ามคลิกโฆษณาบนเว็บไซต์ตัวเองเด็ดขาด และห้ามขอให้เพื่อนหรือคนรู้จักคลิกโฆษณาให้ด้วย เพราะ Google มีระบบตรวจจับที่ฉลาดมาก
การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อ่าน และปฏิบัติตามกฎของ Pantip รวมถึงแนวทางของ Google คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้กระทู้ของเราประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านการเข้าถึงจาก Google และการสร้างประโยชน์ในระยะยาวครับ
ผมเองก็ยังเชื่อมั่นในพลังของเนื้อหาคุณภาพ ที่จะสร้างมูลค่าให้เราได้ในอนาคตครับ
ทำกระทู้ Pantip ให้ Google Bot รัก & AdSense ทำเงิน: เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ผมนั่งเขียนกระทู้ลง Pantip ทุกวัน
ว่าอะไรคือสิ่งที่เราควรใส่ใจ เพื่อให้กระทู้ของเรา "ถูกใจ" ทั้ง Google Bot และมีโอกาสสร้างรายได้ครับ
และสำหรับใครที่มี "แต้มบุญ" หรือฐานเดิมจากที่เป็นสมาชิก Pantip มานานร่วม 10 ปี เหมือนผมเนี่ย ยิ่งได้เปรียบนะครับ! ใครจะรู้ อีก 10 ปีข้างหน้า กระทู้ที่เราปั้นวันนี้อาจจะพอได้ค่ากาแฟ (หรือมากกว่านั้น) เยอะกว่าที่คิดก็ได้ มาดูกันเลยครับ!
แก่นแท้ 3 ข้อ: สร้างเนื้อหาที่ Google Bot และ AdSense รัก
หัวใจสำคัญของการเขียนกระทู้ Pantip ที่จะประสบความสำเร็จคือ "เนื้อหา" ครับ ต้องเป็นเนื้อหาที่ตอบโจทย์ทั้งคนอ่าน และ Algorithm ของ Google
1. เลือก "Niche" ที่มีค่าคลิกโฆษณาสูง (High CPC Niches)
ตรงนี้สำคัญมากครับ ถ้าเราอยากให้กระทู้มีโอกาสสร้างรายได้จาก AdSense ในอนาคต (ในกรณีที่เรานำไปต่อยอดบนเว็บไซต์ส่วนตัว หรือมีคนนำไปอ้างอิง) หรือแม้แต่ดึงดูดโฆษณาที่เกี่ยวข้องให้ปรากฏในหน้ากระทู้ของเราบน Pantip (ซึ่งอาจจะส่งผลอ้อม ๆ ต่อ Traffic) เราต้องเลือกหัวข้อที่มีผู้ลงโฆษณายินดีจ่ายแพง เพราะนั่นหมายถึงว่าหัวข้อนั้นมีมูลค่าทางธุรกิจสูง ลองดูหมวดหมู่เหล่านี้เป็นไอเดียครับ:
- การเงินและการลงทุน: ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเกษียณ, เทคนิคการออม, การเปรียบเทียบกองทุน, หุ้น หรือคริปโตฯ เรื่องพวกนี้ผู้ลงโฆษณา (Advertiser) ยินดีจ่ายสูงมากครับ
- สุขภาพและความงาม: อาหารเสริมเฉพาะทาง, วิธีลดน้ำหนักแบบยั่งยืน, รีวิวอุปกรณ์ออกกำลังกาย หรือแม้แต่เทคนิคดูแลผิว (แต่กลุ่มนี้ Google เน้นเรื่อง ความน่าเชื่อถือสูงมาก หรือ E-E-A-T ต้องแน่นปึ้ก!)
- เทคโนโลยีและ Gadget: รีวิวสมาร์ตโฟนใหม่ ๆ, ซอฟต์แวร์เด็ด ๆ, คู่มือการใช้งานแอปฯ หรือเคล็ดลับคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ยังไงก็เป็นที่ต้องการเสมอ
- การตลาดดิจิทัล: พวกเทคนิค SEO ใหม่ล่าสุด, การทำโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย, การสร้างแบรนด์ออนไลน์ หรือการตลาดออนไลน์ประเภทอื่น ๆ กลุ่มนี้ก็ CPC สูงไม่แพ้กัน
- อสังหาริมทรัพย์: คู่มือการซื้อ-ขายบ้าน, การลงทุนคอนโด หรือการขอสินเชื่อบ้าน
การเลือกหัวข้อที่ใช่ จะช่วยเพิ่มโอกาสที่โฆษณาที่เกี่ยวข้องจะปรากฏ และดึงดูด Traffic ที่มีคุณภาพเข้ามาอ่านกระทู้เราครับ
2. เน้น "Evergreen Content" (เนื้อหาอมตะ)
Google Bot รักเนื้อหาที่มีคุณค่าและเป็นที่ต้องการของผู้ใช้ไปได้นาน ๆ ไม่ใช่แค่กระแสฉาบฉวย การสร้าง Evergreen Content จะทำให้กระทู้ของเรามีคนเข้าชมอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องมาคอยปั่นบ่อย ๆ ลองดูตัวอย่างเนื้อหาประเภทนี้ที่น่าสนใจครับ:
"คู่มือเริ่มต้นลงทุนหุ้นสำหรับมือใหม่ฉบับเข้าใจง่าย"
"วิธีเลือกซื้อสมาร์ตโฟนที่คุ้มค่าที่สุดในปี 2025" (ปรับปีให้เป็นปัจจุบัน)
"ประโยชน์ของโยคะต่อสุขภาพกายและใจที่หลายคนมองข้าม"
"ขั้นตอนการขอสินเชื่อบ้านให้ผ่านฉลุย: เตรียมตัวยังไงไม่ให้พลาด"
"เทคนิค SEO พื้นฐานที่นักการตลาดออนไลน์ควรรู้ในปีนี้" (ปรับปีให้เป็นปัจจุบัน)
กระทู้พวกนี้จะยังคงถูกค้นหาไปอีกนาน ทำให้กระทู้เรามี Traffic สม่ำเสมอครับ
3. สร้างเนื้อหาแบบ "Problem-Solving" (แก้ปัญหาให้ผู้อ่าน)
คนส่วนใหญ่เวลาเข้า Google ก็เพื่อหาทางแก้ปัญหา หรือหาคำตอบบางอย่าง ถ้ากระทู้ของเราสามารถตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้ดี จะดึงดูดผู้เข้าชมที่มีคุณภาพเข้ามาเยอะ และมีแนวโน้มที่เขาจะอ่านกระทู้เราจนจบ แถมบางทีก็กดเข้าลิงก์ที่เราแนะนำ หรือไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตัวเอง ลองนึกถึงปัญหาที่คนมักค้นหาคำตอบครับ:
"ทำไมคอมพิวเตอร์ถึงช้า? รวมวิธีแก้ไขแบบง่าย ๆ ที่คุณทำเองได้"
"อาการปวดหลังเรื้อรัง: เกิดจากอะไร? พร้อมวิธีรักษาและป้องกัน"
"อยากลดน้ำหนักแบบไม่ต้องอดอาหาร: 5 เคล็ดลับง่าย ๆ ที่เห็นผลจริง"
"วิธีการจัดระเบียบการเงินส่วนบุคคล: วางแผนยังไงให้มีเงินเก็บ?"
ทำกระทู้ให้ Google Bot ประทับใจ: เคล็ดลับ On-Page SEO แบบ Pantip
นอกจากการเลือกหัวข้อดีแล้ว วิธีการนำเสนอเนื้อหาก็สำคัญไม่แพ้กันครับ เพื่อให้ Google Bot รักและจัดอันดับกระทู้เราให้สูงขึ้น (จนคนค้นหาเจอจาก Google) เราต้องใส่ใจเรื่อง On-Page SEO บน Pantip ด้วยนะ:
- เนื้อหาต้องละเอียดและครบถ้วน: Google ชอบบทความที่ให้ข้อมูลลึกซึ้ง ครอบคลุมทุกแง่มุม ไม่ใช่แค่ผิวเผิน เขียนให้จบในเรื่องนั้น ๆ ไปเลยจะดีกว่า
- โครงสร้างเนื้อหาต้องดี อ่านง่าย: ใช้ หัวข้อรอง (Pantip ไม่มี H1, H2 แต่เราสามารถใช้การทำตัวหนาและย่อหน้าขึ้นบรรทัดใหม่ เพื่อแยกหัวข้อให้ชัดเจน) แบ่งย่อหน้าให้ชัดเจน, ใช้ ลิสต์ (bullet points), ตัวหนา เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย และ Google Bot ก็จะเข้าใจโครงสร้างเนื้อหาของเราได้ดีขึ้นด้วย
- Keyword Research ต้องแม่นยำ: ลองคิดว่าคนจะค้นหาเรื่องนี้ด้วยคำว่าอะไรบ้าง ใช้คำเหล่านั้นผสมผสานในชื่อกระทู้ และเนื้อหาให้เป็นธรรมชาติ (ไม่ใช่ยัดคีย์เวิร์ดเยอะ ๆ)
- ใส่ใจ On-Page SEO แบบ Pantip:
- ชื่อกระทู้: ตั้งชื่อกระทู้ให้ดึงดูด น่าสนใจ มีคีย์เวิร์ดหลักที่เกี่ยวข้อง และกระตุ้นให้คนอยากคลิก (คล้าย Title Tag บนเว็บไซต์)
- ย่อหน้าแรก: เขียนสรุปใจความสำคัญของกระทู้ในย่อหน้าแรก ๆ เพื่อให้ Google Bot เข้าใจเนื้อหาโดยรวม (คล้าย Meta Description)
- ใช้รูปภาพประกอบ: ใส่รูปภาพที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ และอย่าลืมใส่คำอธิบายภาพในเนื้อหาใกล้ ๆ รูปด้วย เพื่อช่วยให้ Google Bot เข้าใจภาพ (คล้าย Alt Text)
- ลิงก์ภายใน Pantip (Internal Linking): ถ้ามีกระทู้เก่าที่เราเขียนแล้วเกี่ยวข้อง สามารถใส่ลิงก์ของกระทู้นั้น ๆ ได้ เพื่อช่วยให้ Google Bot คลานหน้าต่าง ๆ บน Pantip ได้ดีขึ้น และทำให้ผู้ใช้อยู่ใน Pantip นานขึ้น
- สร้างความน่าเชื่อถือ (E-E-A-T): Google ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของผู้เขียนและเนื้อหา โดยเฉพาะในหมวดหมู่ที่เกี่ยวกับเงิน ๆ ทอง ๆ และสุขภาพ (Your Money Your Life - YMYL) ถ้าเรามีประสบการณ์ตรง, เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ เขียนด้วยภาษาที่น่าเชื่อถือ จะยิ่งทำให้กระทู้ของเราน่าเชื่อถือในสายตา Google ครับ
- ประสบการณ์ผู้ใช้ต้องมาก่อน: Google Bot ฉลาดพอที่จะประเมินว่าผู้ใช้ชอบกระทู้เราแค่ไหน หากคนอ่านอยู่ในกระทู้นาน, มีการตอบคอมเมนต์, หรือมีการกดบวก นั่นคือสัญญาณที่ดีมากครับ
ข้อควรจำ: เล่นตามกฎ Pantip และ Google
สิ่งสำคัญที่สุดคือการปฏิบัติตาม กฎของ Pantip และ นโยบายของ Google AdSense (ถ้าเราจะนำไปต่อยอด) อย่างเคร่งครัดครับ:
- อย่าเน้นโฆษณามากเกินไป: ใน Pantip เนื้อหาต้องเป็นพระเอกเสมอ การแปะลิงก์หรือรูปภาพขายของเยอะเกินไป จะทำให้กระทู้โดนลบ หรือคนอ่านรำคาญได้
- เนื้อหาต้องมีคุณภาพ: การเขียนกระทู้แบบลวก ๆ เพียงเพื่ออยากให้มีบทความเยอะ ๆ ไม่ได้ช่วยอะไรในระยะยาวครับ แถม Google Bot อาจจะมองว่าเป็นเนื้อหาคุณภาพต่ำด้วย
- ห้ามคลิกโฆษณาตัวเอง: นี่คือกฎเหล็ก! ห้ามคลิกโฆษณาบนเว็บไซต์ตัวเองเด็ดขาด และห้ามขอให้เพื่อนหรือคนรู้จักคลิกโฆษณาให้ด้วย เพราะ Google มีระบบตรวจจับที่ฉลาดมาก
การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อ่าน และปฏิบัติตามกฎของ Pantip รวมถึงแนวทางของ Google คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้กระทู้ของเราประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านการเข้าถึงจาก Google และการสร้างประโยชน์ในระยะยาวครับ ผมเองก็ยังเชื่อมั่นในพลังของเนื้อหาคุณภาพ ที่จะสร้างมูลค่าให้เราได้ในอนาคตครับ