ขอมารีวิวแบบจริงๆหลังเข้าไปเรียนได้ 1 ปี เผื่อใครหาข้อมูลอยู่จะได้เป็นประโยชน์นะคะ
ปล. นิติศาสตร์ ภาคบัณฑิต รับเฉพาะผู้ที่จบการศึกษาปริญญาตรีมาก่อนแล้ว 1 ใบ และเรียนวิทยาเขตที่ท่าพระจันทร์ หลักสูตร 3 ปี
รายละเอียดหลักสูตร นิติศาสตร์ภาคบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
หลักสูตรนี้จบไปสามารถไปสอบเนติบัณฑิตได้ ไปสอบใบว่าความเพื่อเป็นทนาย/อัยการ/ผู้พิพากษาได้(ถ้าสอบผ่าน) แต่ต้องจบปริญญาตรีนิติศาสตร์และมีประสบการณ์ด้านกฎหมายหลังเรียนจบก่อน ดังนั้นหากใครจะเปลี่ยนสายงาน เริ่มต้นก็ต้องมาเรียนปริญญาตรีนิติศาสตร์ภาคบัณฑิตให้จบก่อนค่ะ
1) ก่อนสอบเข้า : มีการสอบเข้า 2 รอบ โดยรอบแรกจะเป็นช่วงเดือนมกราคม - เมษายน ของทุกปี และรอบเก็บตกช่วงพฤษภาคม/มิถุนายน ก่อนจะเปิดเทอมเรียนในเดือนสิงหาคม
แนวข้อสอบเข้า: เป็นข้อเขียน 100% ไม่ต้องใช้ความรู้ทางนิติศาสตร์แต่เป็นการคิดวิเคราะห์มากกว่าว่าหัวข้อที่ให้มานั้นท่านคิดเห็นอย่างไร มีความเห็นเช่นนี้เพราะอะไร (เขียนเยอะมากๆ) ข้อสอบประมาณ 2 ข้อ สอบเช้า บ่ายก็สอบสัมภาษณ์กับอาจารย์เป็นอันเสร็จ
2) หลังประกาศผล: ลงทะเบียนเรียนผ่าน TU Great App ค่าเทอมเฉลี่ยประมาณ 18,xxx -20,xxx บาท/ เทอม
3) ก่อนเปิดเรียน : จะมีการปฐมนิเทศก่อนเรียน โดยรายละเอียดต่างๆจะอยู่ในช่วงนี้ อาจารย์จะอธิบายว่าเนื้อหาที่เราจะเรียนเป็นอย่างไร การใช้ Facilities ในมหาวิทยาลัย ส่วนพาร์ทบ่ายจะเป็นรุ่นพี่ มาเป็น testimonial ว่าตอนเรียนมีอะไรต้องเตรียมบ้าง ทำยังไงให้รอดชีวิตในการเรียนที่นี่ สอบตกต้องทำยังไง เตรียมอ่านหนังสืออย่างไรบ้าง
4) เปิดเทอม : เวลาเรียน จันทร์ - ศุกร์ 17:30 -20:30
วิชาที่เรียน Term 1:
1) ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกฎหมายและระบบกฎหมาย
2) นิติกรรมและสัญญา
3) กฎหมายอาญา (ภาคทั่วไป)
4) ละเมิดฯ
5)
การเขียนในเชิงกฎหมาย
เทอม 1: ช่วงที่เรียนจะอยู่ในเดือนสิงหาคม - พฤศจิกายน และสอบปลายในเดือนธันวาคม โดยในเทอมแรกจะมีวิชาที่เรียนทั้งหมด 5 วิชา มีสอบกลางภาคอยู่บ้าง (วิชาความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกฎหมายและระบบกฎหมาย) แต่ว่าแต่ละเทอมก็ไม่เหมือนกันบางเทอมอาจให้สอบปลายภาคก็ได้ ให้คิดสะว่าสอบปลายภาคทุกวิชา 100% จะได้เตรียมตัวอ่านไว้ก่อน
ส่วน
วิชาการเขียนในเชิงกฎหมาย ที่เป็นพื้นฐานในการเขียนวิเคราะห์ในทางกฎหมายและเป็นฐานในการเขียนตอบข้อสอบในทุกๆวิชา อาจารย์จะแบ่งคลาสเรียน คลาสละไม่เกิน 30 คน (สามารถเลือกได้ว่าจะเรียนวันธรรมดา/วันเสาร์) มีให้ส่งชิ้นงานหลังเรียนในแต่ละคาบเพื่อเป็นการเก็บคะแนนไปในตัว และสอบปลายภาคก่อนวิชาอื่น (สอบเดือนตุลาคม)
โดยสรุปในเทอมแรก: วิชาที่เรียน ยังไม่หนักหนาสาหัส แนะนำให้ตั้งใจและแบ่งเวลาดีๆ เก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด ถ้าไม่ตกเลยจะดีมาก เพราะตัวสาหัสจริง มันอยู่ที่เทอม 2 ! (ต้องสอบให้ได้คะแนน 60 /100 คะแนน ในทุกวิชา จึงจะผ่าน หากไม่ผ่านต้องไปสอบแก้ตัวในเดือนกรกฎาคม - ค่าสอบซ่อม วิชาละ 500 บาท ซ่อมได้ 1 ครั้ง ถ้าไม่ผ่านก็ต้องไปลงเรียนใหม่)
วิชาที่เรียน Term 2: : เวลาเรียน จันทร์ - ศุกร์ 17:30 -20:30
1) กฎหมายลักษณะหนี้ (ทั่วไป)
2) กฎหมายลักษณะทรัพย์สิน
3) กฎหมายอาญา (ภาคความผิด)
4) กฎหมายสัญญาทางพาณิชย์ 1
5) กฎหมายมหาชนเบื้องต้น
เทอม 2: เรียน 5 วิชา แต่เนื้อหามาเต็มแบบที่เทอม 1 เทียบไม่ติด ทั้งตัวบท (มาตรา)ก็เยอะมากๆ แบบจำอะไรไม่ได้ แต่ต้องทำให้ได้ เทอมนี้ของจริง และสอบปลายภาค 100% ทั้ง 5 วิชา ไม่รู้จะรีวิวยังไง ตอบได้แค่ว่ายากจังเทอมนี้
โดยสรุปในเทอม 2: เตรียมอ่านดีๆ ในทุกวิชา แบ่งอ่านก่อนสอบล่วงหน้าเยอะๆ การมาอ่านใกล้ๆ อาจช่วยได้(เฉพาะบางคน) วิธีการอ่านทำความเข้าใจแต่ละท่านไม่เหมือนกัน ท่องเฉพาะมาตราไม่ได้ช่วย แต่ต้องเข้าใจหลักการและการใช้กฎหมายก่อน โดยเฉพาะพวกข้อยกเว้นต่างๆ ต้องเข้าใจด้วย
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
1) ในแต่ละวิชาจะมีจัดสัมมนา (คือการนำเนื้อหาที่สอนแล้วมาปรับใช้กับตัวข้อสอบ อาจารย์จะเป็นผู้บรรยายและยกตัวอย่างข้อสอบของปีก่อนๆมาให้นักศึกษาได้ฝึกทำก่อนสอบจริง - คาบสัมมนาสำคัญมาก ไม่จำเป็นอย่าขาด มักจัดสอนวันเสาร์/อาทิตย์เป็นส่วนใหญ่)
2) ต้องเข้าเรียนทุกวิชาหรือไม่? >> ส่วนใหญ่ไม่มีเช็คชื่อ ยกเว้นบางวิชา(เท่าที่รู้มามีนะ แต่น้อยมากๆ ซึ่งของเรายังไม่เจอ แต่รุ่นพี่บอกว่ามี) ดังนั้นการที่บ้านไกลไม่ใช่อุปสรรค ขอแค่ตามเก็บแต่ละวิชาให้ได้ (โดยปกติจะมีทีมอาสาของแต่ละรุ่นช่วยอัดเสียงแต่ละวิชาให้ โดยต้องขออนุญาตอาจารย์ผู้สอนก่อนทุกครั้ง ทำให้เราตามเก็บแต่ละวิชาได้ ต้องขอบคุณมากๆค่ะ) ดังนั้นถ้าเข้าเรียนได้เองจะดีสุด
3) มาเข้าสอบ >> อันนี้ทุกคนน่าจะเข้าใจว่าการสอบคือสำคัญสุดละ เวลาในการสอบแต่ละวิชาจะไม่เหมือนกัน แต่ 90% จะอยู่ช่วง จันทร์ - ศุกร์ เวลา 17:30 -20:30 เหมือนเวลาเรียนเลย ส่วนวันเสาร์จะอยู่ช่วง 09:00 -16:00 น แล้วแต่ว่าอาจารย์จะจัดเวลาสอบช่วงไหน (ตารางสอบจะทราบตั้งแต่วันที่ลงทะเบียนเรียนแล้ว ดังนั้นสามารถจัดการเรื่องวันลาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ)
กรณีมาสอบไม่ได้ >> จะมีฟอร์มให้กรอกเพื่อแจ้งว่ามาสอบไม่ได้(กรอกฟอร์มแจ้งล่วงหน้า) หรือถ้าวันนั้นมาไม่ได้จริงๆด้วยเหตุฉุกเฉิน ก็มาสอบซ่อมทีเดียวเลย
4)
เพื่อนๆในคลาส >> ส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศทั้งจากสายเอกชน รัฐวิสาหกิจหรือแม้แต่ข้าราชการก็มาค่ะ คนที่มีธุรกิจส่วนตัวก็มาหมด ค่อนข้างหลากหลาย อายุที่เห็นส่วนใหญ่ก็ 26 - 5x อายุเยอะก็มีมาเรียนค่ะ เพราะมาเพื่อหาความรู้กันทั้งนั้น
อันนี้คือประสบการณ์การเรียน ตลอด 2 เทอมนะคะ ใครมีคำถามสอบถามได้ เราจะตอบเท่าที่เราทราบนะคะ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่สนใจเรียนกฎหมายเป็นใบที่ 2ค่ะ
รีวิว 1 ปี นิติศาสตร์ ภาคบัณฑิต ธรรมศาสตร์ (กำลังเรียนอยู่)
ปล. นิติศาสตร์ ภาคบัณฑิต รับเฉพาะผู้ที่จบการศึกษาปริญญาตรีมาก่อนแล้ว 1 ใบ และเรียนวิทยาเขตที่ท่าพระจันทร์ หลักสูตร 3 ปี
รายละเอียดหลักสูตร นิติศาสตร์ภาคบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
หลักสูตรนี้จบไปสามารถไปสอบเนติบัณฑิตได้ ไปสอบใบว่าความเพื่อเป็นทนาย/อัยการ/ผู้พิพากษาได้(ถ้าสอบผ่าน) แต่ต้องจบปริญญาตรีนิติศาสตร์และมีประสบการณ์ด้านกฎหมายหลังเรียนจบก่อน ดังนั้นหากใครจะเปลี่ยนสายงาน เริ่มต้นก็ต้องมาเรียนปริญญาตรีนิติศาสตร์ภาคบัณฑิตให้จบก่อนค่ะ
1) ก่อนสอบเข้า : มีการสอบเข้า 2 รอบ โดยรอบแรกจะเป็นช่วงเดือนมกราคม - เมษายน ของทุกปี และรอบเก็บตกช่วงพฤษภาคม/มิถุนายน ก่อนจะเปิดเทอมเรียนในเดือนสิงหาคม
แนวข้อสอบเข้า: เป็นข้อเขียน 100% ไม่ต้องใช้ความรู้ทางนิติศาสตร์แต่เป็นการคิดวิเคราะห์มากกว่าว่าหัวข้อที่ให้มานั้นท่านคิดเห็นอย่างไร มีความเห็นเช่นนี้เพราะอะไร (เขียนเยอะมากๆ) ข้อสอบประมาณ 2 ข้อ สอบเช้า บ่ายก็สอบสัมภาษณ์กับอาจารย์เป็นอันเสร็จ
2) หลังประกาศผล: ลงทะเบียนเรียนผ่าน TU Great App ค่าเทอมเฉลี่ยประมาณ 18,xxx -20,xxx บาท/ เทอม
3) ก่อนเปิดเรียน : จะมีการปฐมนิเทศก่อนเรียน โดยรายละเอียดต่างๆจะอยู่ในช่วงนี้ อาจารย์จะอธิบายว่าเนื้อหาที่เราจะเรียนเป็นอย่างไร การใช้ Facilities ในมหาวิทยาลัย ส่วนพาร์ทบ่ายจะเป็นรุ่นพี่ มาเป็น testimonial ว่าตอนเรียนมีอะไรต้องเตรียมบ้าง ทำยังไงให้รอดชีวิตในการเรียนที่นี่ สอบตกต้องทำยังไง เตรียมอ่านหนังสืออย่างไรบ้าง
4) เปิดเทอม : เวลาเรียน จันทร์ - ศุกร์ 17:30 -20:30
วิชาที่เรียน Term 1:
1) ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกฎหมายและระบบกฎหมาย
2) นิติกรรมและสัญญา
3) กฎหมายอาญา (ภาคทั่วไป)
4) ละเมิดฯ
5) การเขียนในเชิงกฎหมาย
เทอม 1: ช่วงที่เรียนจะอยู่ในเดือนสิงหาคม - พฤศจิกายน และสอบปลายในเดือนธันวาคม โดยในเทอมแรกจะมีวิชาที่เรียนทั้งหมด 5 วิชา มีสอบกลางภาคอยู่บ้าง (วิชาความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกฎหมายและระบบกฎหมาย) แต่ว่าแต่ละเทอมก็ไม่เหมือนกันบางเทอมอาจให้สอบปลายภาคก็ได้ ให้คิดสะว่าสอบปลายภาคทุกวิชา 100% จะได้เตรียมตัวอ่านไว้ก่อน
ส่วนวิชาการเขียนในเชิงกฎหมาย ที่เป็นพื้นฐานในการเขียนวิเคราะห์ในทางกฎหมายและเป็นฐานในการเขียนตอบข้อสอบในทุกๆวิชา อาจารย์จะแบ่งคลาสเรียน คลาสละไม่เกิน 30 คน (สามารถเลือกได้ว่าจะเรียนวันธรรมดา/วันเสาร์) มีให้ส่งชิ้นงานหลังเรียนในแต่ละคาบเพื่อเป็นการเก็บคะแนนไปในตัว และสอบปลายภาคก่อนวิชาอื่น (สอบเดือนตุลาคม)
โดยสรุปในเทอมแรก: วิชาที่เรียน ยังไม่หนักหนาสาหัส แนะนำให้ตั้งใจและแบ่งเวลาดีๆ เก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด ถ้าไม่ตกเลยจะดีมาก เพราะตัวสาหัสจริง มันอยู่ที่เทอม 2 ! (ต้องสอบให้ได้คะแนน 60 /100 คะแนน ในทุกวิชา จึงจะผ่าน หากไม่ผ่านต้องไปสอบแก้ตัวในเดือนกรกฎาคม - ค่าสอบซ่อม วิชาละ 500 บาท ซ่อมได้ 1 ครั้ง ถ้าไม่ผ่านก็ต้องไปลงเรียนใหม่)
วิชาที่เรียน Term 2: : เวลาเรียน จันทร์ - ศุกร์ 17:30 -20:30
1) กฎหมายลักษณะหนี้ (ทั่วไป)
2) กฎหมายลักษณะทรัพย์สิน
3) กฎหมายอาญา (ภาคความผิด)
4) กฎหมายสัญญาทางพาณิชย์ 1
5) กฎหมายมหาชนเบื้องต้น
เทอม 2: เรียน 5 วิชา แต่เนื้อหามาเต็มแบบที่เทอม 1 เทียบไม่ติด ทั้งตัวบท (มาตรา)ก็เยอะมากๆ แบบจำอะไรไม่ได้ แต่ต้องทำให้ได้ เทอมนี้ของจริง และสอบปลายภาค 100% ทั้ง 5 วิชา ไม่รู้จะรีวิวยังไง ตอบได้แค่ว่ายากจังเทอมนี้
โดยสรุปในเทอม 2: เตรียมอ่านดีๆ ในทุกวิชา แบ่งอ่านก่อนสอบล่วงหน้าเยอะๆ การมาอ่านใกล้ๆ อาจช่วยได้(เฉพาะบางคน) วิธีการอ่านทำความเข้าใจแต่ละท่านไม่เหมือนกัน ท่องเฉพาะมาตราไม่ได้ช่วย แต่ต้องเข้าใจหลักการและการใช้กฎหมายก่อน โดยเฉพาะพวกข้อยกเว้นต่างๆ ต้องเข้าใจด้วย
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
1) ในแต่ละวิชาจะมีจัดสัมมนา (คือการนำเนื้อหาที่สอนแล้วมาปรับใช้กับตัวข้อสอบ อาจารย์จะเป็นผู้บรรยายและยกตัวอย่างข้อสอบของปีก่อนๆมาให้นักศึกษาได้ฝึกทำก่อนสอบจริง - คาบสัมมนาสำคัญมาก ไม่จำเป็นอย่าขาด มักจัดสอนวันเสาร์/อาทิตย์เป็นส่วนใหญ่)
2) ต้องเข้าเรียนทุกวิชาหรือไม่? >> ส่วนใหญ่ไม่มีเช็คชื่อ ยกเว้นบางวิชา(เท่าที่รู้มามีนะ แต่น้อยมากๆ ซึ่งของเรายังไม่เจอ แต่รุ่นพี่บอกว่ามี) ดังนั้นการที่บ้านไกลไม่ใช่อุปสรรค ขอแค่ตามเก็บแต่ละวิชาให้ได้ (โดยปกติจะมีทีมอาสาของแต่ละรุ่นช่วยอัดเสียงแต่ละวิชาให้ โดยต้องขออนุญาตอาจารย์ผู้สอนก่อนทุกครั้ง ทำให้เราตามเก็บแต่ละวิชาได้ ต้องขอบคุณมากๆค่ะ) ดังนั้นถ้าเข้าเรียนได้เองจะดีสุด
3) มาเข้าสอบ >> อันนี้ทุกคนน่าจะเข้าใจว่าการสอบคือสำคัญสุดละ เวลาในการสอบแต่ละวิชาจะไม่เหมือนกัน แต่ 90% จะอยู่ช่วง จันทร์ - ศุกร์ เวลา 17:30 -20:30 เหมือนเวลาเรียนเลย ส่วนวันเสาร์จะอยู่ช่วง 09:00 -16:00 น แล้วแต่ว่าอาจารย์จะจัดเวลาสอบช่วงไหน (ตารางสอบจะทราบตั้งแต่วันที่ลงทะเบียนเรียนแล้ว ดังนั้นสามารถจัดการเรื่องวันลาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ)
กรณีมาสอบไม่ได้ >> จะมีฟอร์มให้กรอกเพื่อแจ้งว่ามาสอบไม่ได้(กรอกฟอร์มแจ้งล่วงหน้า) หรือถ้าวันนั้นมาไม่ได้จริงๆด้วยเหตุฉุกเฉิน ก็มาสอบซ่อมทีเดียวเลย
4) เพื่อนๆในคลาส >> ส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศทั้งจากสายเอกชน รัฐวิสาหกิจหรือแม้แต่ข้าราชการก็มาค่ะ คนที่มีธุรกิจส่วนตัวก็มาหมด ค่อนข้างหลากหลาย อายุที่เห็นส่วนใหญ่ก็ 26 - 5x อายุเยอะก็มีมาเรียนค่ะ เพราะมาเพื่อหาความรู้กันทั้งนั้น
อันนี้คือประสบการณ์การเรียน ตลอด 2 เทอมนะคะ ใครมีคำถามสอบถามได้ เราจะตอบเท่าที่เราทราบนะคะ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่สนใจเรียนกฎหมายเป็นใบที่ 2ค่ะ