สวัสดีค่ะ เราอยากจะมาพูดถีงชีวิตของเรา เราเป็นคนนึงที่รับฟังปัญหาจากบุคคลรอบตัวมาเยอะหาทางช่วยแก้ปัญหาก็เยอะ จนหลายคนคิดว่าเราไม่มีปัญหาจริงๆหรอ บ่อยครั้งที่เพื่อนมักจะปัญหาต่างๆมาปรึกษาเราไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว ความรัก หรืออะไรก็ตาม เราก็ทำได้เพียงรับฟังและให้คำตอบไปตามความเหมาะสมของสถานการณ์ แต่รู้มั้ยบางทีคนที่รับฟังปัญหาเขาก็อยากมีคนที่รับฟังเขาบ้าง แต่ไม่มีใครที่จะมารับฟังเขาเพราะเขากลัวว่าถ้ามีคนรับฟังเขาก็จะมีคำถามที่ว่า"เรื่องแค่นี้ทำไมทำไม่ได้" เขาเลยเลือกที่จะไม่อยากให้ใครทราบถึงปัญหา เราเลยกลายเป็นคนที่คิดมาก กังวลทุกสิ่งอย่างเวลาหมดกำลังใจก็จะหมดไฟมากๆจนเกือบคิดทำอะไรที่ไม่ดีลงไป เราเป็นแบบนี้มานานถึง2เดือนเรากลายเป็นคนที่เก็บตัว เป็นคนสองบุคคลิคและต้องพยายามใส่หน้ากากรอยยิ้มไว้ตลอดเวลา แต่ใครจะรู้ว่าเวลาที่เราถอดหน้ากากออกมากลับกลายเป็นคนที่มีความเศร้าอยู่ตลอดเวลา เราเป็นแบบนี้นานเลยค่ะจนคนรอบข้างสังเกตว่าทำไมเราไม่เหมือนคนเดิม เขาจึงมานั่งคุยกับเราวินาทีนั่นที่เขาถามเราว่า ...อ่อนแอบ้างก็ได้นะ เธออะฟังคนอื่นมาเยอะละถึงเวลาที่เธอต้องมีคนมารับฟังเธอบ้างนะ... ตอนนั้นทุกความรู้สึกถ่ายทอดออกมาผ่านน้ำตาของคนที่รับฟังปัญหาคนอื่นมาเยอะมากๆ เราร้องไห้จนแทบจะไม่มีน้ำตาให้ไหลแล้วมันเป็ความรู้สึกลบๆของเราที่ถ่ายทอดออกมาเมื่อมีคนมานั่งฟังเราบ้าง จากวันนั้นเราถึงเข้าใจว่าบางทีเราแค่ต้องการคนที่รับฟังเราจริงๆอย่ากลัวว่าเราจะเอาปัญหาของเราไปให้คนอื่นหนักใจ บางทีเค้าคนนั้นอาจจะต้องการให้คุณระบายความรู้สึกของคุณออกมาบ้าง เรื่องของเราก็มีเท่านี้แหละแต่เรามีคำถามนึงที่อยากจะถามทุกคน "คุณคิดว่าคนที่รับฟังปัญหาจากเราคิดว่าเขาจะมีอะไรในใจที่อยากจะแชร์ให้เราฟังมั้ย?"
ผู้รับฟังปัญหาไม่มีปัญหาส่วนตัว...จริงหรอ?