สวัสดีค่ะ ตอนนี้หนูอยู่คณะแพทย์โครงการเพื่อชาวชนบทและต้องเซ็นสัญญาไปใช้ทุนที่จังหวัดตามที่มหาลัยจัดไว้ให้ซึ่งมันมีจังหวัดให้เลือก หนูมองไว้3ที่ คือ A,B,Cสำหรับที่จะไป(เรียงจากความเป็นรพ.ที่เคสหลากหลาย,จังหวัดใหญ่,ความสะดวกสบาย,การมีสนามบิน(เดินทางไปหาสะดวก) )ซึ่งอันดับแรกมีเพื่อนๆในคณะเลือกไปก่อนทำให้หนูเหลือเพียงB,C
จังหวัดB เคสเยอะ มีโอกาสหาประสบการณ์ได้มากกว่า เป็นรพ.ศูนย์ที่ใหญ่และเป็นศูนย์ฝึกแพทย์ชั้นคลีนิคและใหญ่กว่าC ห่างจากบ้านประมาณ250km แต่มีสนามบิน
จังหวัดC เคสน้อยกว่า จังหวัดเล็ก มีรพ.ทั่วไปประจำจังหวัด ไม่มีสนามบิน ห่างจากบ้านประมาณ120km ในตอนแรกหนูตัดสินใจเลือกBด้วยความที่เห็นว่าเป็นที่ที่มีโอกาสได้ศึกษาความหลากหลายของโรคได้มากกว่า แต่คุณแม่ท่านเห็นต่าง ท่านอ้างว่าเดี๋ยวนี้Cพัฒนาแล้ว ใกล้บ้านไปมาหาง่ายด้วยความที่ ด้วยความที่ต้องรีบตัดสินใจและถ้าเอาตามที่แม่ชอบคงไม่โดนมาแซะทีหลังเลยเลือกตามที่แม่บอกค่ะ ซึ่งหนูมองว่านั่นคือสิ่งที่พลาดที่สุดที่หนูทำลงไป
ก่อนหน้านี้หนูอยากไปจังหวัดที่ไกลกว่านี้ค่ะคุณแม่ท่านก็โทรปรึกษาทุกคนเลยว่าจะทำยังไงให้หนูอยู่ใกล้บ้านไม่อยากให้ไปไกล ท่านพยายามหาเหตุผลมาให้หนูอยู่ใกล้บ้านที่สุดด้วยเหตุผลเดียวคือไปเยี่ยมง่าย แต่ทุกคนรอบตัวท่านก็บอกท่านว่าลูกอยากไปไหนก็ให้เขาไป ไม่ต้องไปตัดสินใจแทนเขาซึ่งก็เหมือนจะดีขึ้นค่ะ ท่านอ่อนลงเล็กน้อยแต่ยังมีธงในใจอยู่ดี พอหนูบอกว่าสิ่งที่ตัดสินใจไปวันนั้นมันผิด มันเป็นการตัดโอกาสในการเจอเคสยากๆ เสียโอกาสในการเรียนไปหลายปี ท่านก็บอกเพียงว่า“ไม่เป็นไรหรอก เฉพาะทางไม่ต้องเรียนก็ได้”ซึ่งหนูไม่โอเคค่ะ หนูอยากเรียน และท่านยังบอกอีกว่าสิ่งที่ท่านทำมันไม่ผิดค่ะ
ส่วนการมาเยี่ยมก็คิดว่าใกล้ไกลก็ไม่มีผลค่ะเพราะม.ปลายหนูเรียนในตัวเมืองนอนหอห่างไป60km ท่านยังแทบไม่ไปเยี่ยมเลยค่ะ ไปแบบนับครั้งได้ เพราะฉะนั้นคิดว่าคำว่าใกล้บ้านน้ำหนักไม่พอค่ะ
หนูอยากถามว่าหนูควรจะรับมืออย่างไร ตอนนี้หนูยอมทุกอย่างแล้วค่ะ หนูไม่พูดไม่เถียงเพราะไม่อยากมีปัญหาค่ะ ถ้าทะเลาะขึ้นมาก็ตัดเงินและโดนด่าว่าเนรคุณทันที ตั้งแต่ปิดเทอมมาหนูเจอคำพูดแย่ๆมาตลอด3เดือนจนสะสมค่ะ
ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านนะคะ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ
ถ้ามีแม่แบบนี้ควรจะรับมือยังไง
จังหวัดB เคสเยอะ มีโอกาสหาประสบการณ์ได้มากกว่า เป็นรพ.ศูนย์ที่ใหญ่และเป็นศูนย์ฝึกแพทย์ชั้นคลีนิคและใหญ่กว่าC ห่างจากบ้านประมาณ250km แต่มีสนามบิน
จังหวัดC เคสน้อยกว่า จังหวัดเล็ก มีรพ.ทั่วไปประจำจังหวัด ไม่มีสนามบิน ห่างจากบ้านประมาณ120km ในตอนแรกหนูตัดสินใจเลือกBด้วยความที่เห็นว่าเป็นที่ที่มีโอกาสได้ศึกษาความหลากหลายของโรคได้มากกว่า แต่คุณแม่ท่านเห็นต่าง ท่านอ้างว่าเดี๋ยวนี้Cพัฒนาแล้ว ใกล้บ้านไปมาหาง่ายด้วยความที่ ด้วยความที่ต้องรีบตัดสินใจและถ้าเอาตามที่แม่ชอบคงไม่โดนมาแซะทีหลังเลยเลือกตามที่แม่บอกค่ะ ซึ่งหนูมองว่านั่นคือสิ่งที่พลาดที่สุดที่หนูทำลงไป
ก่อนหน้านี้หนูอยากไปจังหวัดที่ไกลกว่านี้ค่ะคุณแม่ท่านก็โทรปรึกษาทุกคนเลยว่าจะทำยังไงให้หนูอยู่ใกล้บ้านไม่อยากให้ไปไกล ท่านพยายามหาเหตุผลมาให้หนูอยู่ใกล้บ้านที่สุดด้วยเหตุผลเดียวคือไปเยี่ยมง่าย แต่ทุกคนรอบตัวท่านก็บอกท่านว่าลูกอยากไปไหนก็ให้เขาไป ไม่ต้องไปตัดสินใจแทนเขาซึ่งก็เหมือนจะดีขึ้นค่ะ ท่านอ่อนลงเล็กน้อยแต่ยังมีธงในใจอยู่ดี พอหนูบอกว่าสิ่งที่ตัดสินใจไปวันนั้นมันผิด มันเป็นการตัดโอกาสในการเจอเคสยากๆ เสียโอกาสในการเรียนไปหลายปี ท่านก็บอกเพียงว่า“ไม่เป็นไรหรอก เฉพาะทางไม่ต้องเรียนก็ได้”ซึ่งหนูไม่โอเคค่ะ หนูอยากเรียน และท่านยังบอกอีกว่าสิ่งที่ท่านทำมันไม่ผิดค่ะ
ส่วนการมาเยี่ยมก็คิดว่าใกล้ไกลก็ไม่มีผลค่ะเพราะม.ปลายหนูเรียนในตัวเมืองนอนหอห่างไป60km ท่านยังแทบไม่ไปเยี่ยมเลยค่ะ ไปแบบนับครั้งได้ เพราะฉะนั้นคิดว่าคำว่าใกล้บ้านน้ำหนักไม่พอค่ะ
หนูอยากถามว่าหนูควรจะรับมืออย่างไร ตอนนี้หนูยอมทุกอย่างแล้วค่ะ หนูไม่พูดไม่เถียงเพราะไม่อยากมีปัญหาค่ะ ถ้าทะเลาะขึ้นมาก็ตัดเงินและโดนด่าว่าเนรคุณทันที ตั้งแต่ปิดเทอมมาหนูเจอคำพูดแย่ๆมาตลอด3เดือนจนสะสมค่ะ
ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านนะคะ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ